“Intelligent Warehouse 2019” นำไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค ผู้นำตลาดด้านจัดงานแสดงนิทรรศการและการประชุมระดับนานาชาติของไทย เตรียมยกระดับประเทศไทยสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดโลจิสติกส์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมจัดงานครั้งใหญ่แห่งปี Intelligent Warehouse 2019 นิทรรศการทางด้านอินทราโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนรมิตพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร สร้างศูนย์รวมนวัตกรรมการขนส่งระดับโลกบนแผ่นดินสยาม อาทิ Warehousing, Material Handling, Intralogistics System, Storage, Warehouse Management, และ Cold Chain พร้อมพบกับกิจกรรมพัฒนาองค์ความรู้ด้านโลจิสติกส์มากมายในงาน อาทิ เวทีสาธิตด้านอินทราโลจิสติกส์, เวทีสัมมนา, อินทราโลจิสติกส์คลินิค, เอ็กซ์คลูซีฟไฮไลท์ Man VS Robot สู่การเชื่อมโยงเทคโนโลยีครั้งสำคัญ สร้างเครือข่ายเชื่อมต่อความร่วมมือธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เสริมสร้างศักยภาพด้านคลังสินค้า ดึงเม็ดเงินการลงทุนสู่ประเทศไทย ต่อยอดอุตสาหกรรมไทย 4.0 ให้เติบโตอย่างมั่นคง เสริมความแข็งแกร่งสร้างการยอมรับในตลาดสากล นำพาประเทศไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียนอย่างยั่งยืน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จโลจิสติกส์ไทย บนเวทีโลจิสติกส์ระดับโลก Intelligent Warehouse 2019 ระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 1 ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา  10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2640 8013 หรืออีเมล wichsiree@expolink.net

 

###

 

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท โฟร์ ฮันเดรท จำกัด คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร.0-2553-3161-3, 096-916-3642

เดินหน้าโครงการ “HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า” ปี 2


alivesonline.com :
มูลนิธิเอสซีจี ประสานพลังความร่วมมือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยหน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เดินหน้าโครงการ “
HANDS FOR HEROES รวมมือเราเพื่อคนเฝ้าป่า” ปีที่ 2 ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่า จุดประกายให้ทุกภาคส่วนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญและร่วมเป็นพลังสนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เตรียมจัดขึ้นตลอดทั้งปี ได้แก่ Run for Heroes วิ่งเพื่อผู้พิทักษ์ป่า และ Trail for Heroes วิ่งเทรลเพื่อผู้พิทักษ์ป่า รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปจัดซื้อชุดอุปกรณ์ลาดตระเวนให้กับผู้พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ

นายเชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า มูลนิธิเอสซีจีได้ดำเนินโครงการ “Sharing the Dream Scholarship” โดยมอบทุนการศึกษาแก่บุตรผู้พิทักษ์ป่ามาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อตอบแทนความเสียสละทำงานหนักและเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องผืนป่าแทนคนไทยทุกคนและยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้เจ้าหน้าที่ได้มีกำลังใจปฏิบัติงานโดยไม่ต้อง “ห่วงหน้าพะวงหลัง” โดยปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้มอบทุนดังกล่าวไปแล้วกว่า 500 ทุน  เพื่อเป็นหลักประกันทางการศึกษาให้แก่ลูก ๆ ของผู้พิทักษ์ป่าเพื่อให้ผู้พิทักษ์ป่ามีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นอกจากการสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่บุตรธิดาของผู้พิทักษ์ป่าแล้ว มูลนิธิฯ ยังได้ขยายแนวทางความช่วยเหลือ โดยประสานภาคีเครือข่ายเพื่อดำเนินโครงการ “HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า” เป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้มูลนิธิฯ ได้ตอบรับพันธมิตรใหม่ที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน เข้าร่วมเป็นพลังสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่า ได้แก่ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด, บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด, บริษัท โมโน เรดิโอ บรอดคาซท์ จำกัด, บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน), ผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ และ บริษัท ทีวีบูรพา จํากัด เป็นต้น

“ในปี 2561 มูลนิธิฯ ได้เป็นตัวแทนประชาชนมอบอุปกรณ์ลาดตระเวน ได้แก่ ชุดเครื่องแบบลายพรางและเป้เดินป่าไปแล้วจำนวน 3,635 ชุด รวมมูลค่า 3.7 ล้านบาท”

สำหรับกิจกรรม “Run for Heroes” วิ่งเพื่อผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งเป็นกิจกรรมแรกของปีนี้ กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2562 เวลา 05.30-10.00 น. ณ สวนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม แบ่งการวิ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. Scout 5 KM. ราคา 600 บาท 2. Mini Ranger 10 KM. ราคา 700 บาท 3. Ranger 21 KM. ราคา 800 บาท โดยผู้ที่ต้องการสมทบทุนเพิ่มเติมยังมี VIP (BIB เลขสวย) ราคา 2,000 บาท ซึ่งการวิ่งทุกระยะจะได้รับเสื้อเเละเหรียญที่ระลึก นักวิ่งและผู้สนใจสมัครได้ที่ https://www.runlah.com/events/c/rfh19 หรือ โทร.08 1818 6155, 06 5992 7397 และ Trail for Heroes วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 05.30-10.00 น. ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีและทุกภาคส่วนที่ตระหนักถึงความสำคัญ และคุณความดีของผู้พิทักษ์ป่าโดยการสนับสนุนปัจจัยที่เป็นเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการลาดตระเวน เพื่อให้พวกเขาสามารถปฏิบัติงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งมูลนิธิฯ ยังสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตร ธิดาของผู้พิทักษ์ป่าให้ได้เรียนจนจบถึงระดับชั้นปริญญาตรีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นรางวัลแห่งการเชิดชูเกียรติ และความภาคภูมิใจแก่ผู้พิทักษ์ป่าและครอบครัว

“นี่ไม่ใช่เพียงแค่การร่วมมือ แต่คือหัวใจที่ร้อยเรียงด้วยความห่วงใยมอบให้ผู้พิทักษ์ป่าซึ่งจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาตินี้ไว้ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป”

นายฉันทวิชช์ ธนะเสวี นักแสดงมากฝีมือ หัวใจรักษ์โลก กล่าวว่า บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เห็นความตั้งใจอันดีในการดำเนินโครงการของมูลนิธิเอสซีจีที่มุ่งช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าอย่างแท้จริงและต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผมเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการเป็นกระบอกเสียงเพื่อถ่ายทอดหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของผู้พิทักษ์ป่า และบอกกล่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรมดี ๆ ตลอดทั้งปี เพื่อมุ่งเสริมสร้างให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่าที่อุทิศตนทำงานกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศโดยส่วนตัวผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้

“กิจกรรมRun for Heroes วิ่งเพื่อผู้พิทักษ์ป่า กิจกรรมแรกที่จะเกิดขึ้น ผมจะเข้าร่วมวิ่งด้วย จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่มีหัวใจสีเขียวมาร่วมกันวิ่งส่งรวมพลังต่อกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่าด้วยกันนะครับ”

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ “HANDS FOR HEROES”
ผ่านทาง Facebook : handsforheroes

 

FN จับมือ Shopee รุกช่องทางออนไลน์

alivesonline.com : ผู้นำธุรกิจค้าปลีกประเภทเอ๊าท์เลทรายใหญ่ในไทย FN Outlet ผนึกกำลังผู้นำแพลทฟอร์มอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Shopee ขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ประเดิมผลิตภัณฑ์เครื่องนอน-เครื่องใช้ เดือน มิ.ย.62

นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN Outlet ผู้นำธุรกิจค้าปลีกประเภทเอ๊าท์เลท เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ผู้นำแพลทฟอร์มอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของนักชอปยุคใหม่ เพิ่มการเข้าถึงสินค้าได้ 24 ชั่วโมงจากทุกที่ในประเทศไทย

FN Outlet ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวอีกกว่า 35 ล้านคนต่อปี ดังนั้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจและตอบสนองการขยายตัวของตลาดออนไลน์ จึงได้ร่วมมือกับ Shopee ซึ่งเป็นผู้นำด้านตลาดออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้ากว่าหลายล้านคน

“การเป็นพันธมิตรกับผู้นำตลาดออนไลน์อย่าง Shopee จะช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและเปิดโอกาสให้ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ที่ไม่ได้มีโอกาสแวะซื้อสินค้าใน FN Outlet สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพภายใต้แบรนด์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากทุกที่ในประเทศไทย โดยคาดว่าการร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ยอดขายสินค้าของเราเติบโตขึ้นอีก 5–10 % และมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างดี”

นายเบญจ์เยี่ยม กล่าวอีกว่า สินค้าที่ FN Outlet จะประเดิมจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของ Shopee เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องนอน เครื่องใช้ ภายใต้แบรนด์ที่คัดสรรมาเพื่อนักช้อปออนไลน์โดยเฉพาะ อาทิ Cherish ที่มีสินค้าขายดี เช่น Tempsoft Topper และ Tempsoft หมอนเจล เป็นสินค้าชูโรง รวมถึง Prim และ Cushy ที่จะโดดเด่นสำหรับสินค้าในหมวดผ้าปูที่นอนและเฟอร์นิเจอร์ เรียกว่า “มา FN จบครบที่เดียวเรื่องเครื่องนอน” ตามแนวคิด “เครื่องนอนครบที่เดียวครบคุ้ม” โดยจะเริ่มแคมเปญเพื่อสร้างพันธมิตรอย่างยั่งยืนกับ Shopee อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน ศกนี้

FN Outlet นับเป็นผู้ริเริ่มโมเดลค้าปลีกในรูปแบบธุรกิจเอ๊าท์เลทเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยเมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ภายใต้แนวคิด “คุณภาพส่งออก ราคาผู้ผลิต” โดยเริ่มจากสาขาแรกที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2543 จนในปัจจุบัน FN Outlet ได้ขยายสาขาทั่วประเทศไทย รวม 12 แห่ง โดยยุทธศาสตร์การขยายสาขาจะเน้นที่เส้นทางถนนสายหลักไปจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงเลือกพื้นที่ที่มีประชากรและนักท่องเที่ยวหนาแน่นและมีกำลังซื้อสูง เช่น กาญจนบุรี พัทยา ปากช่อง หัวหิน ศรีราชา และ ระยอง เป็นต้น

“เอพี ไทยแลนด์” ผนึก “ไลน์แมน” มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า

‘สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง’ (ซ้าย) Director of Brand Strategy บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และ ‘วรานันท์ ช่วงฉ่ำ’ (ขวา) หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เติมเต็มอีกมิติของคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยให้กับลูกค้าเอพี ด้วยการเป็นรายแรกในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับ “ไลน์แมน” (LINE MAN) ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งบนแพลตฟอร์มการให้บริการแบบออนดีมานด์เพื่อร่วมกันมอบดีลพิเศษ ๆ สำหรับลูกค้าเอพีที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮมกว่า 75,000 ครอบครัว ผ่านบริการต่าง ๆ จาก “ไลน์แมน” ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกวิถีการใช้ชีวิตของคนกรุง

มกอช.ดันยอดส่งออกสินค้าเกษตรปี 61 ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท

alivesonline.com : มกอช. ตอกย้ำบทบาทด้านสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศ เร่งสร้างความเชื่อมั่นและยอมรับสินค้าเกษตรไทย ดันยอดส่งออกปี 61 ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท ล่าสุดประกาศใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรแล้ว 314 ฉบับ พร้อมเร่งเดินหน้าจัดทำมาตรฐานอาเซียนสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

ดร.จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าภาคการเกษตรในลำดับต้น ๆ ของโลก โดยปริมาณสินค้าภาคการเกษตรที่ประเทศไทยส่งออกในปี 2561 มีมูลค่า 1,103,336 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าภาคการเกษตรและอาหารของประเทศไทยเป็นสินค้าที่มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคได้ในทุกระดับ แม้ประเทศผู้นำเข้าจะกำหนดมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีความเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยการนำมาตรฐานและระบบการตรวจสอบรับรองการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้มาตรฐานสากลของไทยไปใช้ในการผลิตและการตรวจสอบรับรองระบบการผลิตสินค้าภาคการเกษตร โดยการบูรณาการร่วมกับกรมต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ ตาม พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 เพื่อควบคุม กำกับ ดูแลความปลอดภัยอาหารอย่างเบ็ดเสร็จตลอดห่วงโซ่อาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ (Food Chain) เพื่อให้ได้สินค้าที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้สินค้าเกษตรและอาหารของไทยได้รับการยอมรับและมียอดส่งออกไปตลาดโลกขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา มกอช.มีบทบาทสำคัญในการเป็นหน่วยงานกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศ (National Standardization Body : NSB) เพื่อให้มาตรฐานที่กำหนดขึ้นมีความเหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้บริโภค อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้ รวมทั้งมีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ส่งผลให้ปัจจุบันมีการประกาศใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรแล้ว 314 ฉบับ โดย มกอช. ได้ร่วมกำหนดมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศกับองค์การมาตรฐานระหว่างประเทศ (CODEX) อย่างต่อเนื่องจนสร้างความสำเร็จมากในคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยในระดับสากล ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมจัดทำมาตรฐานอาเซียน เพื่อให้มีความเหมาะสมและอยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้ เช่น มาตรฐาน “เกษตรอินทรีย์อาเซียน” (ASEAN GAP) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้าสินค้าเกษตรระหว่างอาเซียน

ดร.จูอะดี กล่าวด้วยว่า บทบาทที่สำคัญของ มกอช. อีกด้านหนึ่งคือ การเป็นหน่วยรับรองระบบงาน (Accreditation Body : AB) ด้านเกษตรและอาหาร ทำหน้าที่ตรวจประเมินเพื่อรับรองความสามารถแก่หน่วยรับรอง (Certification Body : CB) และหน่วยตรวจ (Inspection Body : IB) ด้านสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อให้ CB/IB ที่ผ่านการรับรองความสามารถจาก มกอช.มีความพร้อมในการทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองสินค้าเกษตรและอาหารแทนหน่วยตรวจสอบรับรองภาครัฐ เป็นการสนับสนุนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องการถ่ายโอนภารกิจการตรวจสอบรับรองภาครัฐไปยังหน่วยตรวจสอบรับรองภาคเอกชนซึ่งจะทำให้ผลการตรวจสอบเป็นที่เชื่อถือยอมรับตามแนวทางสากล เนื่องจาก มกอช.เป็นหน่วยรับรองระบบงาน (AB) ที่ได้รับการยอมรับความสามารถจากองค์กรภูมิภาคแปซิฟิกว่าด้วยการรับรองระบบงาน(PAC) และองค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองระบบงาน (IAF) ส่งผลให้ใบรับรองที่ออกโดย CB/IB ที่ได้รับการยอมรับความสามารถจาก มกอช. มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในประเทศสมาชิกของ PAC/IAF และประเทศคู่ค้าตามหลักการสากล สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกและประเทศคู่ค้าโดยมิต้องมีการตรวจซ้ำ ณ ปลายทาง

ล่าสุด มกอช.ได้รับการยอมรับความสามารถด้านการรับรองระบบงาน ภายใต้กฎหมายความปลอดภัยอาหารฉบับปรับปรุงใหม่ (Food Safety Modernization Act : FSMA) จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USFDA) ส่งผลให้หน่วยรับรอง (Certification Body : CB) ที่ผ่านการรับรองระบบงานจาก มกอช.ได้รับการยอมรับจาก USFDA ด้วย ทั้งยังส่งผลให้ประเทศไทยมีความสามารถแข่งขันในการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาภายใต้ข้อกำหนดกฎหมายใหม่ ยังเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้พร้อมต่อกระแสแนวโน้มการปรับปรุงและยกระดับกฎหมายภาครัฐทั่วโลก จึงนับว่า มกอช.เป็นหน่วยงานสำคัญที่มีส่วนในการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก

ดร.จูอะดี กล่าวในตอนท้ายว่า ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นผลจากการปฏิบัติงานเชิงรุกของ มกอช.ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้กระทรวงเกษตรฯ อย่างใกล้ชิด ทั้ง กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่เป็น Single Agency ด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร สามารถให้บริการได้เบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ภายใต้ พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างสมบูรณ์มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจนเป็นที่ยอมรับของประเทศคู่ค้า สะท้อนให้เห็นได้จากการขยายปริมาณและมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทย รวมทั้งหน่วยรับรองระบบงานของ มกอช. ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นด้วย

WeTV เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่ง 14 มิ.ย.62

  • หลังจากประสบความสำเร็จกับแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงมามากมายทั้ง sanook! JOOX และ PubG ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เทนเซนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงเดินหน้าไม่หยุดเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงอันดับหนึ่งของเมืองไทย…ล่าสุด กฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซนต์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมนำทีมเปิดตัว WeTV แพลตฟอร์มให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน อัดแน่นด้วยคอนเทนต์คุณภาพทั้งจากเทนเซนต์ วีดีโอ และคอนเทนต์จากผู้ผลิตคุณภาพในไทย วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2562 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ

“อิมแพ็ค เทนนิส อคาเดมี” ติด 1 ใน 12 อันดับสถาบันเทนนิสที่ดีที่สุดในโลก


“อิมแพ็ค เทนนิส อคาเดมี” สถาบันฝึกสอนเทนนิสระดับนานาชาติ ภายใต้การดูแลของ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด นำโดย ‘สตีเฟ่น คูน’ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป อิมแพ็ค ฟิตเนส และผู้อำนวยการ “อิมแพ็ค เทนนิส อคาเดมี” เปิดเผยว่า อิมแพ็ค เทนนิส อคาเดมี ได้รับการคัดเลือกจาก www.functionaltennis.com เว็บไซต์ชื่อดังที่ให้ข้อมูลด้านกีฬาเทนนิส ให้ติดอันดับ 1 ใน 12 สถาบันสอนเทนนิสที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งนับเป็นสถาบันฝึกสอนเทนนิสแห่งเดียวในเอเชียที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ อันเป็นการการันตีถึงมาตรฐานการฝึกสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งความครบครันและเพียบพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์ โดยปัจจุบัน อิมแพ็ค เทนนิส อคาเดมี ได้เปิดบ้านต้อนรับนักเทนนิสชื่อดังที่มาเก็บตัวฝึกซ้อมหลายท่าน โดยเฉพาะนักเทนนิสในระดับการแข่งขันรายการ “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์” ถึง 6 ท่าน ได้แก่ ‘ชอง ฮยอน’ (เกาหลีใต้) ‘นิโคลอซ บาซิลาชวิลี’ (จอร์เจีย) ‘ลู เยน-ชุน’ (ไต้หวัน) ‘โยชิฮิโตะ นิชิโอกะ’ (ญี่ปุ่น) ‘ทาโร่ แดเนียล’ (ญี่ปุ่น) และ ‘ลอยด์ แฮร์ริส’ (แอฟริกาใต้) รวมถึงนักเทนนิสอีกมากมายจากทั่วเอเชีย ทั้งในระดับเยาวชนและระดับอาชีพ

bizhub I-SERIES เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันครบวงจร

บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสสิเนส โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอแนะนำบทนิยามใหม่ของธุรกิจที่มาพร้อมกับบทบาทแห่งการทำงานมิติใหม่ bizhub I-SERIES เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันครบวงจร ด้วยการรวมตัวของนวัตกรรมความปลอดภัยขั้นสูงสุดจากซอฟต์แวร์แอนติไวรัส BitDefender ทำงานสแกนแบบเรียลไทม์ ผสานกับ bizhub SECURE เครือข่ายการดูแลที่ครอบคลุมทุกย่างก้าว ช่วยปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Attack) พร้อมปกป้องและสำรองข้อมูลในหน่วยความจำ สามารถปรับแต่งและตั้งค่าการทำงานได้ตามความต้องการ เสริมสร้างความปลอดภัยในทุกข้อมูล ช่วยยกระดับการทำงานพาธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงไม่มีสะดุด

bizhub I-SERIES ออกแบบมาด้วยความเรียบง่าย โดยใส่ใจถึงผู้ใช้เป็นอันดับแรก ดีไซน์ด้วยความล้ำสมัยในสไตล์สมาร์ทโฟน ทำงานด้วย Quad-Core CPU รุ่นใหม่ ช่วยคำนวณการพิมพ์ได้อย่างแม่นยำ เสริมให้ชิ้นงานทุกชิ้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังปรับแต่งแอปพลิเคชันการใช้งานได้หลากหลาย ด้วยบริการ Konica Minolta MarketPlace ช่วยลดช่องว่างอันไร้ประโยชน์ในการทำงาน เพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานด้านอื่นได้มากขึ้น ทั้งยังขยายขีดความสามารถของงานพิมพ์จากระบบ Dispatcher Suite Solution ลดต้นทุนการพิมพ์ จัดการงานที่ซับซ้อน และประมวลผลเอกสารด้วยฟังก์ชันตั้งค่าล่วงหน้า เปลี่ยนการกระจายเอกสารให้เป็นเรื่องง่าย พร้อมเพิ่มความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจาก KONICA ในระบบรวมรวบข้อมูลบำรุงรักษาระยะไกล ทำให้ทุกกระบวนการทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง, ประหยัดพลังงาน และให้อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ระบบจะทำการอัปโหลดเฟิร์มแวร์แบบเรียลไทม์ ทำให้เทคโนโลยีทุกส่วนใน bizhub I-SERIES มีความทันสมัยอยู่ทุกวินาที พร้อมที่จะยกระดับองค์กรสู่ยุคใหม่แห่งการทำงาน เป็นบันไดให้ธุรกิจก้าวสู่ความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด

สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคต bizhub I-SERIES เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันครบวงจร บทนิยามใหม่ของธุรกิจ ที่จะเชื่อมความปลอดภัยและกระบวนการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว ได้ที่ www.i-series.km-thailand.com

นวัตกรรมความเย็นสมัยใหม่…หนึ่งเดียวจาก “เฮเฟเล่”

“เฮเฟเล่” เปิดภาพเอกลักษณ์แห่งความทันสมัย ไปกับนวัตกรรม Super Space ที่สุดของการเติมเต็มพื้นที่ใช้สอยเพื่อครอบครัว ของ “ตู้เย็น Side by Side” แนวคิดความเย็นสมัยใหม่ เติมเต็มด้วยฟังก์ชันที่หลากหลายและพื้นที่ที่มากกว่า เปลี่ยนสัมผัสของตู้เย็นเดิม ๆ สู่เทคโนโลยีล้ำสมัย ให้ความรู้สึกเหนือระดับทุกการใช้งาน

ตู้เย็น Side by Side เป็นนวัตกรรมความเย็นขั้นกว่าของตู้เย็นแบบ 1 และ 2 ประตู ออกแบบด้วยแนวคิดการเติมเต็มพื้นที่สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยการดีไซน์ประตูแบบสองบาน เปิดได้ทั้งด้านซ้ายและขวาในคราวเดียว ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการหยิบจับและจัดเก็บ เสริมด้วยช่องภายในตู้เย็นที่ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสัดส่วนสุดลงตัว รองรับการจัดเก็บได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่องปรับความชื้นสูงสำหรับผักผลไม้, ช่องปรับอุณหภูมิต่ำสำหรับแช่เนื้อสัตว์และที่ทำน้ำแข็งอัตโนมัติทั้งแบบเกล็ดและน้ำแข็งก้อน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าจากระบบสัมผัส ควบคุมการทำงานได้สะดวก ใช้วัสดุกระจกนิรภัยเกรดคุณภาพ ทนต่อน้ำหนักและแรงกระแทก ทำงานด้วยระบบคอมเพรสเซอร์สุดล้ำ ให้ความเย็นและทำงานเงียบ ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาคุณภาพวัตถุดิบได้เป็นเท่าตัว เสริมรสชาติความอร่อยที่โดดเด่นในทุกมื้ออาหาร

สัมผัสนวัตกรรมตู้เย็น Side by Side ที่สุดของการเติมเต็มเพื่อครอบครัวได้แล้ววันนี้ที่ “เฮเฟเล่” ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0 2741 7171 หรือ www.hafelethailand.com

“COOLING LOTION” โลชั่นปรนนิบัติผิวประดุจการพักผ่อน

เครื่องสำอาง PAUL & JOE (พอล แอนด์ โจ) จากประเทศฝรั่งเศส แนะนำ COOLING LOTION (คูลลิ่ง โลชั่น) โลชั่นที่มอบความรู้สึกเย็นสบาย สดชื่น และผ่อนคลาย ด้วยสารสกัดจากสะระแหน่ (Peppermint Extract) และการบูน (Menthol) ที่ให้ผิวรู้สึกเย็นสบายยาวนานหลายชั่วโมง ช่วยคืนความสดชื่นให้ผิวหลังการออกกำลังกายหรืออาบน้ำ โดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ขนาด 200 มล. ราคา 1,200 บาท ที่เคาน์เตอร์ PAUL & JOE สาขาร้าน SKINSENCE (สกินเซนส์) ชั้น 2 สยามพารากอน สาขาไอคอนสยามที่ป๊อบอัพ สโตร์ และร้าน @COSME STORE (แอทคอสเม่ สโตร์)