“Vifa His & Her” จัดโปรลำโพงคุณภาพสูงราคาพิเศษ

 

Vifa (วีฟ่า) ภายใต้การดูแลของ บริษัท แอช เอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ เอาใจคู่รักในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ จัดแคมเปญ “Vifa His & Her” เมื่อซื้อลำโพง Vifa Reykjavik โดดเด่นที่สามารถเชื่อมลำโพง 2 ตัวเข้าไว้ด้วยกันอย่างง่ายดาย เพื่อประสิทธิภาพและเพิ่มอรรถรสของเสียงที่คมชัดและชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการปรุงแต่งในรูปแบบของเสียง 360 องศา ในราคาสุดพิเศษ เพียงคู่ละ 14,000 บาท จากปกติ 16,000 บาท

รีบจับจองและหาซื้อ Vifa Reykjavik เป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษได้แล้วที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต, ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่, ร้าน Munkong Gadgets สยามพารากอน, ร้าน HiFi Lover และ Iconic Studio 53 ตั้งแต่วันนี้จนถึงที่ 31 มีนาคม 2562 ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ Instagram : @VifaThailand

“เบนซ์ สตาร์แฟลก” มอบอั่งเปาส่วนลดเพิ่ม ต้อนรับปีหมูกว่า 4 ล้านบาท

บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” อย่างเป็นทางการ เปิดศักราชใหม่ต้อนรับปีหมูและเทศกาลตรุษจีนมหามงคลกับแคมเปญสุดเริ่ด Benz Star Flag Fabulous Piggy Yearมอบความสุขล้นปรี่ตั้งแต่ต้นปี กับอั่งเปาส่วนลดเพิ่มจากส่วนลดปกติ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท งานนี้ขอบอกว่า “มาก่อนรับสิทธิ์ก่อนใคร” นอกจากนี้ยังมอบสิทธิพิเศษ สำหรับรุ่น EClass, GLC และ SClass รับฟรีเลขทะเบียนรถสวยสุดปัง “เฮง เฮง เฮง” (จำนวนจำกัด) ไฮท์ไลท์พิเศษกับการเปิดตัว MercedesBenz CLS 300 d (รุ่นประกอบใน) เริ่มแล้ววันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2562

นางสาวธัญรดี ธรรมมณีวงศ์ (กลาง) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด

นางสาวธัญรดี ธรรมมณีวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด กล่าวว่า สำหรับรุ่นรถยนต์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ Mercedes-Benz E-Class รถยนต์ที่ตอบโจทย์ สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองและการเดินทางออกไปท่องเที่ยว ด้วยความคล่องตัวและสมรรถนะอันเป็นเลิศ อีกทั้งการกำหนดเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศภายในห้องโดยสารเพื่อความเย็นสบายก่อนขึ้นรถ (Pre-Entry Climate Control via Key) ฟังก์ชั่นที่ช่วยให้คุณเปิดแอร์รถ Plug-in Hybrid ได้ล่วงหน้าซึ่งเป็นระบบที่เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยและยังประหยัดพลังงานด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นทางเลือกที่คนส่วนใหญ่สนใจ ราคาแนะนำ 4,190,000 บาท

Mercedes-Benz GLC เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น SUV ในยุคที่ผู้คนมีกิจกรรมและการเดินทางออกไปท่องเที่ยวแบบ Adventure ผู้คนจึงเริ่มให้ความสนใจรถยนต์ที่สามารถทนทานต่อทุกสภาพถนนและความสะดวกสบายของการเดินทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระที่กว้างขวางจุได้ถึง 1,600 ลิตร ดังนั้น GLC จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ราคาแนะนำ 4,040,000 บาท

Mercedes-Benz S-Class ที่สุดแห่งความสมบรูณ์แบบที่ใคร ๆ ต่างฝันถึง ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณสะดวกสบาย อาทิ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถชาร์จแบตเตอร์รี่โทรศัพท์แบบไร้สายจากเบาะหลัง สามารถปรับเบาะนวดช่วยผ่อนคลายได้ 6 ระดับ เมื่อต้องเดินทางไกลหรือรถติด เติมเต็มทุกอารมณ์สุนทรีย์ด้วยเครื่องเล่น Blu-ray อีกทั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุดรอบคัน ราคาแนะนำ 6,990,000 บาท

พบข้อเสนอพิเศษสุด ๆ ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดเฉพาะที่ โชว์รูม “เบนซ์ สตาร์แฟลก” ดินแดง โทร.0 2248 6699 ตามวันและเวลาทำการ  หรือ www.starflag.mercedes-benz.co.th, Facebook : Benz Star Flag, Instagram @BenzStarFlag Line: @benzstarflag

 

 

เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าและการติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วยขั้นสูง เครื่องแรกในโลกที่ผ่านมาตรฐานทางการทหาร

 

บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ “Philips Tempus ALS” เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าขนาดเล็กที่มาพร้อมจอติดตามสัญญาณชีพประสิทธิภาพสูงครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยฟังก์ชั่นการจัดเก็บ วิเคราะห์ และส่งต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์จากจุดเกิดเหตุไปยังโรงพยาบาล พร้อมฟีเจอร์หัวตรวจอัลตราซาวด์ ออกแบบมาเพื่อให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินแบบครบวงจรก่อนถึงโรงพยาบาล

จากสถิติพบผู้ป่วยฉุกเฉินในประเทศไทยเกือบ 1.7 ล้านรายต่อปี โดยร้อยละ 7 ของผู้ป่วยฉุกเฉินมีความเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยกว่าร้อยละ 16 ของผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งหมดจำเป็นต้องใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าเข้าช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานด้วยการปั๊มหัวใจ (CPR) ร่วมกับการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) กำลังเป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยให้กับแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องกระตุกหัวใจของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ออกไปช่วยผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ

นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ที่สามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของแพทย์และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็มีการให้ความรู้และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและการอบรมการใช้เครื่อง AED ซึ่งตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขให้เครื่อง AED เป็นอุปกรณ์การปฐมพยาบาลเบื้องต้น บุคคลทั่วไปแม้ไม่ใช่บุคคลากรทางการแพทย์ก็สามารถใช้ได้ถ้าได้รับการฝึกฝนมา ทำให้สามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้มากขึ้น ในวันนี้ เราจึงพร้อมแนะนำเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงสำหรับแพทย์และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ‘Philips Tempus ALS’ ที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมวงการด้วยฟังก์ชั่นการจัดเก็บ วิเคราะห์ และส่งต่อข้อมูลแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ส่งผลให้การช่วยชีวิตผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเรารู้ดีว่าหากมีการปฏิบัติการช่วยชีวิตที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยจะมีโอกาสการรอดชีวิตสูงถึง 40%”

Philips Tempus ALS ชูจุดเด่นด้านการส่งต่อข้อมูลจากจุดเกิดเหตุไปยังแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารักษา ด้วยเทคโนโลยี ReachBakTM ที่ให้การส่งต่อข้อมูลเป็นแบบเรียลไทม์และสามารถส่งต่อข้อมูลได้ทั้งภาพและเสียง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมจอติดตามสัญญาณชีพประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยี SroCTM เพื่อช่วยในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์และยังมาพร้อมออปชั่นหัวตรวจอัลตราซาวด์ให้เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์อาการผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีจอติดตามสัญญาณชีพขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา จึงสะดวกสบายต่อเจ้าหน้าที่ในการขนย้ายและนำออกไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยนอกสถานที่

เนื่องจากตลาดเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มการแพทย์ฉุกเฉินมีการเติบโตควบคู่กับความต้องการในการพัฒนาเครื่องมือการช่วยชีวิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในยามวิกฤติมีความสำคัญอย่างยิ่ง “ฟิลิปส์” จึงได้นำเสนอนวัตกรรมอันทรงคุณค่านี้ เพื่อเสริมทัพพอร์ทโฟลิโอนวัตกรรมในกลุ่มการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Care and Resuscitation) ให้แข็งแกร่งและโดดเด่น จากอัตราการเติบโตของตลาดเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มการแพทย์ฉุกเฉินในปี 2561 ที่มีอัตราการเติบโตถึง 15% 07’เชื่อมั่นว่านวัตกรรมใหม่นี้ ควบคุ่กับความเข้มแข็งในการจับมือกับคู่ค้าของ “ฟิลิปส์” จะช่วยผลักดันให้ “ฟิลิปส์” เติบโตในธุรกิจได้อย่างมั่นคงและครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องมือแพทย์ได้อย่างยั่งยืน

เปิดตัวสุดยอดผลิตภัณฑ์ Limex Plus & Diva Plus

บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค จึงได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทย โดยผ่านการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญและคัดสรรส่วนผสมที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย มาตรฐานความปลอดภัยสูง ภายใต้แบรนด์ “Limex Plus” รอยัล เยลลี่ผสมกระชายดำอัดเม็ด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องชะลอความเสื่อมและปรับสมดุลในร่างกาย ลดอาการเหนื่อยล้า ทำให้นอนหลับสบายขึ้น และบำรุงผิวพรรณให้แลดูสดใสและอ่อนเยาว์

พร้อมกันนั้นยังเปิดตวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “DIVA PLUS” คอลลาเจนเกรดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีส่วนผสมของ แอล กลูต้าไธโอน, อะเซโรล่า, เชอรี่, ไลโค, โกจิเบอร์รี่ และโคเอนไซม์คิวเทน ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ หากรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ คือ แอปเปิ้ลเขียว สตรอเบอร์รี และเสาวรส โดยมี ธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โอซีซี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย เภสัชกรหญิง ดร.พรวนิช  เจริญพุทธคุณ และ ทรัพย์พร ตันติพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนมผึ้ง และคอลลาเจน ที่มาให้ความรู้ พร้อมตอบปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แก่ผู้เข้าร่วมงานและผู้สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย ณ ห้องประชุม 101 อาคารโอซีซี เมื่อเร็ว ๆ นี้

ผู้สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์หรือต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2295 4545 ต่อ 408

 

 

 

ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ส่วนโฆษณา – ประชาสัมพันธ์  บมจ.โอซีซี

“กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คว้าสองรางวัลใหญ่”

ดร.ลิสา พัทธ์วิวัฒน์ศิริ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิรูปธุรกิจ เป็นตัวแทน “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รับมอบรางวัลชมเชยประเภท “Excellence in Automation” จากความสำเร็จของโครงการ Robotic Process Automation (RPA) Initiative และรางวัลชมเชยประเภท “Best Process Innovation” จากความสำเร็จของโครงการ Merchant Management System จากเวที “Shared Services and Outsourcing Excellence Awards” ที่จัดโดย The Shared Services & Outsourcing Network (SSON) ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกย่องโครงการระบบ Shared Service ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมหรือการพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินงาน เมื่อเร็ว ๆนี้

OCC แนะนำคอลลาเจนแท้จากประเทศญี่ปุ่น

DIVA PLUS (ดีว่า พลัส) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก บมจ.โอซีซี แนะนำ DIVA PLUS COLLAGEN (ดีว่า พลัส คอลลาเจน) คอลลาเจนชนิดผงที่มีสารสกัดนำเข้าเกรดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น Hydrolyzed Collagen Tripeptide เสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ให้ผิวแลดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ  พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ในราคากล่องละ 750 บาท มี 2 รสชาติ สตรอเบอร์รี่ และ แอปเปิ้ลเขียว สั่งซื้อได้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.0 2295 4545 ต่อ 408

“Watsons HA Mask” มาสก์หน้าชุ่มชื้น แลดูกระจ่างใส ผิวดูอิ่มน้ำ

วัตสัน ประเทศไทย แนะนำผลิตภัณฑ์แผ่นมาสก์บำรุงผิวหน้าสูตรใหม่ “Watsons HA Mask” มาสก์หน้าชุ่มชื้น ดูกระจ่างใส ผิวดูอิ่มน้ำ ผลิตจากประเทศเกาหลี ด้วยประสิทธิภาพในการบำรุงผิวจาก Hyaluronic Acid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้นด้วยน้ำออกซิเจนจากเกาะเจจู ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีที่ได้ชื่อว่ามีสภาพแวดล้อมและแร่ธาตุที่ดี มาพร้อมแผ่นมาสก์เทคโนโลยี Tencel® ให้ความนุ่มนวล อ่อนโยน แนบกระชับผิวหน้ามากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าได้ตามที่คุณต้องการ

พบกับแผ่นมาสก์บำรุงผิวหน้าสูตรใหม่ “Watsons HA Mask” ทั้ง 7 แบบจาก “วัตสัน” ได้แล้ววันนี้ ในราคาชิ้นละ 49 บาท ที่ร้านวัตสันทุกสาขา เว็บไซต์ Watsons และ application WatsonsTH สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อ ณ จุดขาย Official Line WatsonsTH บนเว็บไซต์ www.watsons.co.th และแอปพลิเคชัน WatsonsTH ทั้งบน PlayStore และ AppStore

WORKSHOP พัฒนาบุคลิกภาพ


‘รินธาร เจริญรูป’ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ ‘สุวภา ศิริวรรณ’ หัวหน้าหน่วยอบรมการแต่งหน้าและพัฒนาบุคลิกภาพ บมจ.โอซีซี พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ในโอกาสจัดกิจกรรม WORKSHOP “พัฒนาบุคลิกภาพ เสริมสร้างความงามในการแต่งหน้าและการดูแลผิวอย่างถูกวิธี” ด้วยเครื่องสำอาง COVERMARK (คัฟเวอร์มาร์ค) ให้แก่พนักงานสายงานลูกค้าสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ณ อาคารกรุงศรีเพลินจิต ทาวเวอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

TAKEAWAY เปิดบริการใหม่ใน honestbee สั่งอาหารล่วงหน้า

alivesonline.com : TAKEAWAY บริการสั่งอาหารล่วงหน้า ฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำใน honestbee แอปพลิเคชันสั่งอาหารออนไลน์ที่ดีที่สุดในเอเชีย จากประเทศสิงคโปร์ ที่จะช่วยให้ชาวกรุงเทพฯ ประหยัดทั้งเงินและเวลาได้อย่างลงตัว พร้อมตัวเลือกร้านอาหารชื่อดังหลากหลายแห่ง อาทิ ร้านกับข้าวกับปลา, รสนิยม, สุคิยะ (Sukiya) และไอเบอร์รี่ (iBerry) รวมไปถึงบริการด้านอาหารในรูปแบบตลาดออนไลน์ (Marketplace) ที่ครบวงจรเจ้าแรกในเมืองไทย ทั้งการสั่งอาหารล่วงหน้ารับประทานที่ร้าน สั่งอาหารกลับบ้าน และเดลิเวอรี่

นายวิคเตอร์ เชา รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ honestbee (ออนเนสบี) ผู้นำมาร์เก็ตเพลสด้านการจัดส่งผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ด้านอาหารที่มีคุณภาพระดับเอเชีย ให้บริการครอบคลุม 16 เมือง ใน 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เปิดเผยว่า จากรายงานการวิเคราะห์การตลาดค้าปลีก ชี้ให้เห็นว่า การเติบโตของอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ภายในปี 2564 ผู้ค้าปลีกเกือบ 90% ในเอเชียแปซิฟิกจะผันตัวสู่การสั่งซื้อออนไลน์และการรับสินค้าจากรูปแบบปกติสู่ยุคดิจิทัล ดังนั้น “TAKEAWAY” จึงเป็นบริการใหม่ที่จะเปิดประตูสู่กลุ่มลูกค้าจำนวนมหาศาลให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นพันธมิตรกับแอปพลิเคชัน honestbee โดยร้านค้าสามารถจัดการคำสั่งซื้อทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงช่วยให้มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ลูกค้าสามารถเลือกร้านที่ชื่นชอบและสั่งซื้ออาหารได้เองเพียงคลิกเดียว

คุณสมบัติของบริการ “TAKEAWAY” จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและเวลาที่จำกัดของคนเมืองได้มากกว่าที่เคย โดยผู้ใช้บริการสามารถสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน honestbee ได้ล่วงหน้าแล้วไปรับอาหารที่ร้านเองโดยไม่ต้องต่อคิว หรือนั่งรอ และไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมการจัดส่ง นอกจากนั้น ยังจะได้รับส่วนลดค่าอาหารสูงสุดถึง 20% ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

“จากภาวะปัจจุบันในขณะที่คนส่วนใหญ่มีเวลาที่จำกัด บริการ TAKEAWAY จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ด้วยการสั่งอาหารออนไลน์ล่วงหน้าแล้วไปรับเองที่ร้าน ผู้ใช้บริการจะได้รับอาหารที่ปรุงสดใหม่ตามเวลานัดหมายโดยไม่ต้องต่อคิว และประหยัดเงินจากค่าธรรมเนียมการจัดส่ง นับเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งด้านการสั่งอาหารที่ช่วยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการประหยัดเวลา”

บริการ ‘TAKEAWAY’ สามารถใช้งานง่ายและรวดเร็ว โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน honestbee จากนั้นคลิกที่ฟีเจอร์ TAKEAWAY เลือกร้านค้าที่เปิดให้บริการอยู่ สั่งอาหาร แล้วเลือกเวลารับอาหารตามความสะดวก โดยจะมีการแจ้งเตือนให้ไปรับอาหารเมื่ออาหารพร้อมส่ง เมื่อไปถึงที่ร้านค้าให้แสดงหมายเลขการสั่งอาหาร (Order Number) เพียงแค่นี้ก็สามารถอิ่มอร่อยกับอาหารสุดโปรดได้โดยไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป

 

 

 

“ฟูจิตสึ” กางกลยุทธ์รุกตลาดแอร์ในไทยเตรียมบุกโมเดิร์นเทรดปี 63

alivesonline.com : “ฟูจิตสึ” ผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศญี่ปุ่นถือฤกษ์ปีกุนเจาะตลาดไทยเต็มตัว มั่นใจจุดเด่น “แบรนด์ญี่ปุ่น-มาตรฐานการผลิตยุโรป” เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 5 รุ่นเรือธงป้อนตลาด B2C และ B2B หลังใช้ไทยเป็นฐานส่งออกทั่วโลกมานาน 30 ปี ทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 65 ล้านบาท เร่งสร้างการรับรู้วงกว้างต่อผู้บริโภค ปูพรมตลาดผ่านร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและ 300  ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ก่อนบุกตลาดโมเดิร์นเทรดในปี 2563 

นายทาเคชิ อุจิชิบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ “ฟูจิตสึ” (Fujitsu) เปิดเผยว่าว่า “ฟูจิตสึ” เป็นผู้ประกอบธุรกิจระบบปรับอากาศมากว่าครึ่งศตวรรษ โดยนอกจากประเทศญี่ปุ่น ยังสร้างส่วนแบ่งการตลาดในทวีปอื่น ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาเหนือ และเอเชีย โดยถือเป็นเครื่องปรับอากาศแบรนด์ญี่ปุ่นที่ผลิตตามมาตรฐานยุโรป มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับสิทธิบัตรได้ในด้านคุณสมบัติต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก อาทิ เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีการไหลเวียนของอากาศที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีด้านการปรับอากาศภายในห้อง ระบบสื่อสารเพื่อป้องกันอัคคีภัยและภัยพิบัติ ระบบกรองอากาศที่สามารถทำความสะอาดตนเอง เป็นต้น

“ฟูจิตสึ เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศผู้นำตลาด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันยังถือเป็นแบรนด์อันดับ 1-2 ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และตะวันออกกลาง โดยสิ่งที่ทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคคือเรื่องมาตรฐานสินค้าที่มีคุณภาพ โดยในส่วนของประเทศไทยถือเป็นฐานการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นเวลากว่า 30 ปีแต่ผู้บริโภคในประเทศยังไม่ค่อยรับรู้แบรนด์มากนัก ในปีนี้ “ฟูจิตสึ” จึงมีแผนทำการตลาดด้วยตัวเองหลังจากทดลองทำตลาดมาเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยเป็นการทำตลาดผ่านร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศประมาณ 300 รายซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 400 รายในปีนี้ โดยได้วางแผนว่าในปี 2563 จะเริ่มทำตลาดโมเดิร์นเทรดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศเพิ่มขึ้น”

ด้าน นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยในปี 2561 มีมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวน 1.5 ล้านเครื่อง โดย“ฟูจิตสึ” มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 2% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท การปรับแผนการตลาดมาดำเนินงานเองครั้งนี้จึงคาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 30% หรือประมาณ 600 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3% โดยมีสัดส่วนการจำหน่ายในกลุ่ม Business-to-Business (B2B) 40% และ Business-to-Consumer (B2C) 60% โดยมีแผนใช้งบการตลาดสำหรับการสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดจำหน่ายประมาณ 65 ล้านบาท ควบคู่กันไปทั้งอะเบิฟ เดอะ ไลน์ (Above the Line) และบีโลว์ เดอะ ไลน์ (Below the Line) โดยจะให้ความสำคัญสื่อออนไลน์มากขึ้น อาทิ การทำไวรัลมาร์เก็ตติ้ง (Viral Marketing) และคลิปวิดีโอเพื่อเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยูทูป เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ขณะเดียวกันกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้านก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ให้ความสำคัญ

“ปัจจัยสำคัญของการแข่งขันของตลาดเครื่องปรับอากาศนั้นนอกจากเรื่องความเย็น ความทนทาน เทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้ว การประหยัดพลังงานยังถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุดเนื่องจากค่าไฟฟ้าคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยถึงปีละ 30-40% ของมูลค่าเครื่อง ซึ่งเครื่องปรับอากาศที่มีค่าการประหยัดพลังงานสูง ๆ จะสามารถคืนทุนค่าเครื่องได้ในเวลาเพียง 1-2 ปีเท่านั้น “ฟูจิตสึ” จึงเตรียมปรับสายการผลิตเครื่องปรับอากาศให้ตอบความสนองความต้องการผู้บริโภคครอบคลุมทุกความต้องการและทุกเซ็กเมนต์ โดยปรับสัดส่วนการผลิตเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ (Invertor) และนอน-อินเวอร์เตอร์ (non-Invertor) เป็น 70:30 จากที่เคยผลิต 50:50”

นายสินเมธ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 6 ซีรีส์ รวม 29 โมเดล ขนาดตั้งแต่ 9,000 – 54,000 บีทียู โดยปีนี้มีจะเพิ่มเป็น 8 ซีรีส์ 39 โมเดล ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์สู่ตลาดอย่างน้อย 5 รุ่นคือ 1.เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย รุ่น Nocria X ขนาด 12,000 บีทียู ด้วยระบบส่งลมด้านข้างทั้งสองทำให้อากาศไหลเวียนได้อย่างสะดวกทุกมุมห้อง, ระบบทำความสะอาดตัวกรองอัตโนมัติพร้อมด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนในห้องและปรับการทำงานเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 2.เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย รุ่น i-Max ขนาด 9,000 – 24,000 บีทียู ระบบอินเวอร์เตอร์ ให้ค่าประหยัดพลังงานสูงกว่า เบอร์ 5 ระดับ (3 ดาว) สามารถทำงานในสภาวะอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 46 องศาเซลเซียส ถือเป็นรุ่นไฮ-เอนด์ที่ “ฟูจิตสึ” รับประกันคุณภาพอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์นาน 10 ปี และอะไหล่ทุกชิ้น 3 ปี

3.เครื่องปรับอากาศสำหรับเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก รุ่น Ceiling ขนาด 18,000-45,000 บีทียู ให้ค่าประหยัดพลังงานสูงถึง เบอร์ 5 ระดับ (1 ดาว) พร้อมด้วยระบบฟอกอากาศสมบูรณ์แบบ สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบตั้งพื้นและแขวนผนัง 4.เครื่องปรับอากาศรวมศูนย์ขนาดเล็ก รุ่น AIRSTAGE J-IIIL ขนาดตั้งแต่ 4-18 แรงม้า (41,200-170,600 บีทียู) เหมาะสำหรับธุรกิจเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก-กลาง มีจุดเด่นด้านการติดตั้งที่ใช้พื้นที่น้อย เดินระยะท่อได้ไกลสูงสุดถึง 180 เมตร ให้ค่าประพยัดพลังงานสูงสุด COP = 4.33 และ 5.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดกลาง รุ่น AIRSTAGE V-III Tropical ขนาดตั้งแต่ 8-54 แรงม้า (76,400 – 513,000 บีทียู) ประหยัดพลังงานสูงสุด COP = 4.31 จุดเด่นคือสามารถทำงานในสภาวะอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 52 องศาเซลเซียส โดยมีการเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อนอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนพิเศษเหมาะกับพื้นที่ชายฝั่งทะเล

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ “ฟูจิตสึ” สามารถชมผลิตภัณฑ์ได้ที่ ร้านตัวแทนจำหน่าย “ฟูจิตสึ” ทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง Call Center โทร.0 2787 8111 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทาง https://www.fujitsu-general.com/th/