ซุปไก่สกัด “แบรนด์” จัดโครงการรับบริจาคโลหิต ตั้งเป้า 7 หมื่นยูนิตทั่วประเทศ

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จับมือ แบรนด์ซุปไก่สกัด สานต่อโครงการแบรนด์ “#พลังเลือดใหม่ต่อพลังชีวิต” ความภูมิใจของการให้ชีวิต ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 รณรงค์และเชิญชวนน้อง ๆ นิสิต – นักศึกษา ร่วมใจบริจาคโลหิตเป็นประจำต่อเนื่องทุก 3 เดือน ตั้งเป้าได้รับบริจาคโลหิตในโครงการปีนี้ 7 หมื่นยูนิต พร้อมจัดโครงการประกวดวิดีโอคลิป และสื่อภาพนิ่ง Infographic รณรงค์บริจาคโลหิต ชิงทุนการศึกษา ตลอดจนจัดโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการควบคู่กับการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยและรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า โลหิตที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตของผู้ป่วยได้ ทั้งในรูปโลหิต ส่วนประกอบของโลหิตและผลิตภัณฑ์โลหิต โด ยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการใช้โลหิตแต่ละประเทศไว้ว่า ควรมีโลหิตและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการใช้แต่ละประเทศคือ 3% ของจำนวนประชากร สำหรับประเทศไทยในปี 2562 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีเป้าหมายการจัดหาโลหิต 2.5 ล้านยูนิตต่อปี โดยในเขตกรุงเทพฯ ต้องจัดหาโลหิตให้ได้อย่างน้อย 7 แสนยูนิตต่อปี และอีก 1.8 ล้านยูนิตต่อปี เป็นการจัดหาในส่วนภูมิภาค โดยปัจจุบันมีปริมาณการเบิกใช้โลหิตเพิ่มขึ้น 8-10 % ทุกปี

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงจำเป็นต้องรณรงค์จัดหาโลหิตคุณภาพให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในแต่ละปี โดยหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นผู้บริจาคโลหิตที่มีคุณภาพได้แก่ กลุ่มนักศึกษาและเยาวชน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีโลหิตที่มีคุณภาพและเป็นกลุ่มที่สามารถบริจาคโลหิตได้อย่างต่อเนื่องยาวนานหากดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอที่สำคัญ แต่พบว่ามีนักศึกษาและเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เคยบริจาคโลหิต จึงต้องมุ่งรณรงค์ให้นักศึกษาและเยาวชนกลุ่มนี้เข้ามาเป็นผู้บริจาคโลหิตรายใหม่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการสร้างพันธมิตรและการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เชิญชวนให้ร่วมบริจาคโลหิต

ด้าน นางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต “แบรนด์” ซุปไก่สกัด กล่าวว่า “แบรนด์” ซุปไก่สกัด ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สานต่อโครงการแบรนด์ “#พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต” (BRAND’S Young Blood 2019) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มนิสิตนักศึกษาคนรุ่นใหม่ได้เริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิตครั้งแรกและกระตุ้นให้เกิดการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุก 3 เดือน พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความภูมิใจของการเป็น “ผู้ให้” ตลอดจนเพื่อจัดหาโลหิตคุณภาพให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการใช้โลหิต โดยได้ตั้งเป้าหมายโลหิตที่ได้รับบริจาค จำนวน 7 หมื่นยูนิต จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศและเครือข่ายศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ในปี 2562 พระเอกชื่อดัง “บอย – ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ยังได้ร่วมรณรงค์ให้โครงการฯ อีกด้วย โดยได้จัดกิจกรรมมากมายเพื่อนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริจาคโลหิตในกลุ่มนักศึกษาอย่างกว้างขวางระหว่างเดือนกันยายน 2562 – สิงหาคม 2563 ดังนี้

1.กิจกรรมโรดโชว์ให้ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิต การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้พร้อมบริจาคโลหิต รวมทั้งจัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ไปยังสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 217 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% จากปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายได้รับโลหิตจากการบริจาค ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค คือ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต จำนวน 7 หมื่นยูนิตทั่วประเทศ

2.กิจกรรมการประกวด ได้แก่

2.1 การประกวดวิดีโอคลิป และสื่อภาพนิ่ง (Infographic) รณรงค์บริจาคโลหิต ในหัวข้อ “BRAND’S Young Blood…First Time Donor บริจาคโลหิต เท่ากับให้ “ชีวิต” ผู้ป่วย”เป็นกิจกรรมที่ให้นักศึกษาใช้ความคิดสร้างสรรค์และไอเดียในการจัดทำสื่อเพื่อเชิญชวนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิต และมาร่วมบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกและบริจาคต่อเนื่องสม่ำเสมอ พร้อมชิงทุนการศึกษาและรางวัลมากมายเปิดรับผลงาน ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม2562 -15 กุมภาพันธ์ 2563

2.2 โครงการประกวดสถาบันการศึกษา “รณรงค์เยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นผู้บริจาคโลหิตครั้งแรก” มอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับมหาวิทยาลัยในโครงการที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิตและการเป็นผู้ให้และสามารถเปลี่ยนนักศึกษาที่ยังไม่เคยบริจาคโลหิตมาก่อนให้มาเป็นผู้บริจาคโลหิตครั้งแรกมากที่สุด โดยแยกการตัดสินเป็นหน่วยบริจาคโลหิตเก่าและหน่วยบริจาคโลหิตใหม่

2.3 โครงการประกวดสถาบันการศึกษา “รณรงค์เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้บริจาคโลหิตที่มีจำนวนมากที่สุด” มอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับมหาวิทยาลัยในโครงการที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิตและมีจำนวนโลหิตที่ได้รับบริจาคมากที่สุด

นิสิต นักศึกษา สถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตและต้องการร่วมภูมิใจกับให้ชีวิตในโครงการประกวดวิดีโอคลิป สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.blooddonationthai.com และ www.brandsworld.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร.0 2255 4567, 0 2263 9600 ต่อ1752, 1753

“อาคเนย์” รวมใจนำทีมจิตอาสาลงพื้นที่ฟื้นฟูชุมชนที่อุบลฯ

ทีมอาสาอาคเนย์ ร่วมกับพนักงานสาขา พร้อมด้วยตัวแทนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางลงพื้นที่มอบถังน้ำใจ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟู โรงเรียนบ้านคูสว่าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเสียหายจากการถูกน้ำท่วม พร้อมกันนี้ได้ทำกิจกรรมสันทนาการและเลี้ยงอาหารกลางวันน้อง ๆ นักเรียนและคนในชุมชน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเด็ก ๆ และชาวบ้านเพื่อคืนรอยยิ้มให้ชุมชน

“ทรู อินคิวบ์” เลือก 5 สตาร์ทอัปดาวรุ่งจับคู่กลุ่มธุรกิจ

“ทรู อินคิวบ์” โดย นายวีรศักดิ์ พงษ์ธัญญวิชัย (ยืนที่ 4 จากขวา) รองผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดย นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ (ยืนที่ 4 จากซ้าย) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิกออฟจับคู่ต่อยอดธุรกิจกับสตาร์ทอัพปดาวรุ่ง 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้า Bootcamp และเป็นพันธมิตรธุรกิจกับกลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในโครงการ “True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 6 – Rising Startup Together” โดย RISE ออกแบบหลักสูตรอบรมเข้มข้นและเวิร์คชอปเพื่อพัฒนาทักษะในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัป พร้อมกับมีโค้ชดูแลกระบวนการทำงานและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดและรับคำปรึกษาจากเมนทอร์ในเครือข่ายของ RISE ที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญในองค์กรธุรกิจชั้นนำ สตาร์ทอัปที่ประสบความสำเร็จและนักลงทุนจากในประเทศไทยและต่างประเทศ

สำหรับสตาร์ทอัป 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ “True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 6 – Rising Startup Together” ได้แก่ DayWork ตลาดงานพาร์ทไทม์ ตัวช่วยสำหรับนักศึกษาที่ต้องการรายได้เสริม จับคู่ธุรกิจกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป, MoreMeat สตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีอาหาร จับคู่กับ ซีพีเอฟ, Primo แพลตฟอร์มช่วยยกระดับโปรแกรมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า จับคู่กับ ทรูบิสิเนส, FillGoods ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ดูแลร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ จับคู่กับ ซีพี ออลล์ และ Adezy แพลตฟอร์มการจองป้ายโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ อำนวยความสะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจบครบในที่เดียว จับคู่กับ True Analytics โดยสตาร์ทอัปทั้ง 5 ทีม จะสามารถเร่งการพัฒนาธุรกิจ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการได้ภายในเวลาเพียง 10 สัปดาห์ พร้อมนำเสนอผลงานในเดือนธันวาคม 2562

ALL ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายพิเศษนิสิต MBA ศศินทร์

นายธนากร ธนวริทธิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “ALL” ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรรับเชิญ บรรยายเรื่องการลงทุนโครงการในระยะยาว พร้อมเปิดออฟฟิศต้อนรับนิสิต สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ระดับปริญญาโท โดยมี รศ.ดร.พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านวิจัยและพัฒนา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ เข้าร่วมเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ ALL เพื่อเปิดประสบการณ์จริงด้านการวางแผนธุรกิจ การเงิน การลงทุน และเปิดโอกาสให้นิสิตร่วมวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทชอปปิงมอลล์ของ “ออลล์ อินสไปร์ฯ” ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2563

สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ HONOR Band 5

“ออเนอร์” แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกประกาศความสำเร็จยอดขาย HONOR Band 5 โดยภายในเดือนสิงหาคมที่มาผ่านมายอดขายอุปกรณ์ดีไวซ์ในตลาดต่างประเทศมีการเติบโต 387% YoY เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

HONOR Band 5 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED Full Colour ขนาด 0.95 นิ้ว และฟังก์ชันการทำงานที่ฉลาดยิ่งขึ้น อาทิ ระบบตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง, โหมดกีฬาและการออกกำลังกายที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถปรับแต่งหน้าจอได้มากถึง 8 แบบ โดยได้มีวางจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และประเทศไทย ในราคาเริ่มต้น 1,190 บาท!

ติดตามตรวจสอบสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง

ประมวลผลด้วยเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นหัวใจรุ่นล่าสุด HUAWEI TruSeen ™ 3.0 โดย HONOR Band 5 สามารถวัดและวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นย้ำต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง (*ข้อมูลเป็นค่าประมาณเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจเช็คสุขภาพและการออกกำลังกาย การตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจในเวลากลางคืนจะไม่ปรากฎแสงแจ้งเตือนเพื่อลดการรบกวนจากหน้าจอ ในขณะที่ยังมีการแจ้งเตือนผ่านการสั่นและกระพริบไฟหากผู้ใช้งานมีอัตราการเต้นของหัวใจที่วัดได้แบบเรียลไทม์เกินมาตรฐานที่ตั้งค่าไว้

HONOR Band 5 มาพร้อมเทคโนโลยี TruSleep™ ที่ช่วยบันทึกการนอนระหว่างช่วงการหลับตื้น หลับลึก และหลับ REM หรือช่วงการหลับแล้วดวงตามีการเคลื่อนไหวได้อย่างอัตโนมัติ รวมทั้งสามารถตรวจจับคุณภาพการนอนหลับที่รองรับโดยเทคโนโลยี Huawei AI และได้รับการรับรองจากศูนย์ Biomarkers Dynamical ที่ Harvard Medical School ฟีเจอร์ TruSleep™ สามารถระบุ 6 ความผิดปกติของการนอนหลับได้อย่างแม่นยำและสามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลมากว่า 200 ข้อ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น โดยการตรวจจับดังกล่าวมีความแม่นย้ำกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 96.3%

วัดประเมินผลการออกกำลังกายอย่างมืออาชีพ

HONOR Band 5 กันนำได้ลึกถึง 50 เมตร และสามารถบันทึกจำนวนแขน (Stroke), ความเร็ว, ระยะทาง รอบเวลา, การเผาผลาญแคลอรี่ และค่าเฉลี่ย SWOLF สำหรับการว่ายน้ำหลากหลายสไตล์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานวัดประเมินผลการฝึกซ้อมและพัฒนาเทคนิคการว่ายน้ำได้มากที่สุด

ไม่เพียงเท่านั้น HONOR Band 5 ยังเสมือนเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวที่จะช่วยติดตามและให้คำแนะนำการออกกำลังกายอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับกิจกรรมอื่นๆอีกหลายประเภททั้งในร่มและกลางแจ้งได้อีก 10 แบบ ได้แก่ วิ่ง, ขี่หรือปั่นจักรยาน, เทรนนิ่ง, เดิน, ว่ายน้ำ และการออกำลังกายโดยใช้เครื่องออกกำลังกายต่าง ๆ

*หมายเหตุ

อุปกรณ์และส่วนประกอบบนสมาร์ทแบนด์ของออเนอร์ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมยามว่างเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้ในการวินิจฉัย รักษา บรรเทาอาการ หรือป้องกันความเจ็บป่วยในโรคต่าง ๆ ได้ โดยข้อมูลความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดมีไว้เพื่อใช้ในการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ถือเป็นการวินิจฉัย รักษา หรือการสั่งยาโดยแพทย์ก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์นี้ผู้ใช้ควรประเมินสุขภาพของตนเองและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ “ออเนอร์” จะไม่รับผิดชอบทางกฎหมายใด ๆ ต่อภาวะสุขภาพของผู้ใช้ หรือประโยชน์ต่อสุขภาพที่ได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้

สะดวกทุกการใช้งานแบบ All-in-one ครบทุกฟีเจอร์

ติดตั้งหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED Full Colour ขนาด 0.95 นิ้ว ความละเอียด 240x 120 พิกเซล และความหนาแน่นของพิกเซล 282 ppi ให้การแสดงผลภาพที่สีสันคมชัดแม้อยู่ในที่แสงจ้า สามารถรองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วัน ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน HONOR Band 5 สามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ข้อความ, อีเมล และสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งมาพร้อมการแจ้งเตือนเป็นภาษาไทย อีกทั้งฟังก์ชัน Remote Control ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพจากระยะไกลได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังง่าย ๆ แค่คลิกเดียว เพียงเปิดใช้งานการเชื่อมต่อบลูทูธแล้วไปที่ฟังก์ชัน “Find phone” เพื่อค้นหาการจับคู่เข้ากับสมาร์ทโฟน

จอร์จ จ้าว ประธานบริษัท “ออเนอร์” กล่าวว่า ลูกค้า “ออเนอร์” เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพลังและมีความกระตือรือร้นอยู่ในตัว พวกเขาชอบอุปกรณ์สวมใส่ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้การดำรงชีวิตง่ายดายขึ้น แต่ต้องสามารถถ่ายทอดสไตล์และตัวตนของพวกเขาออกมาอย่างเด่นชัด HONOR Band 5 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัยร่วมทั้งฟีเจอร์การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและติดตามการออกกำลังกายที่ทำให้ HONOR Band 5 เป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์ครบครันและเป็นแฟชั่นไอเทมที่ขาดไม่ได้

HONOR Band 5 ติดอันดับสินค้าขายดีใน Flipkart โดยจำหน่ายหมดภายใน 5 วัน หลังจากเปิดตัวที่ประเทศอินเดีย ซึ่ง HONOR Band 5 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ 10 ตุลาคม 2562 นี้เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 1,190 บาท โดยวางจำหน่ายทางออนไลน์ที่ Lazada (https://bit.ly/2nbs09t ) ส่วนรายชื่อร้านค้าตัวแทนจำหน่ายติดตามอัพเดทเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/honorthai

 

เบสเมกอัพใหม่จาก PAUL & JOE

เครื่องสำอาง PAUL & JOE (พอล แอนด์ โจ) จากประเทศฝรั่งเศส แนะนำ “PAUL & JOE PEARL FOUNDATION PRIMER” (พอล แอนด์ โจ เพิร์ล ฟาวเดชั่น ไพรเมอร์) ไพรเมอร์สำหรับรองพื้นที่แสนสะดุดตา แรงบันดาลใจจากความสดชื่นและความอบอุ่นของไวน์แดงและไวน์ขาว ในรูปแบบลูกบอลไข่มุกหลากสี ด้วยส่วนผสมจากน้ำดอกส้ม, สารสกัดจากดอกลิลลี่สีขาว, สารสกัดจากแอปริคอท ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น กระจ่างใส ส่งผลให้รองพื้นแลดูเรียบเนียน ผิวเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ มี 2 เฉดสี ขนาด 30 มิลลิลิตร ราคา 1,400 บาท ที่เคาน์เตอร์ PAUL & JOE ทุกสาขา

“เลอโนโว ประเทศไทย” เปิดตัวคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปขนาดเล็กที่สุดในโลก

เลอโนโว ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก สานต่อความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ชาญฉลาด เพื่อสนับสนุนธุรกิจในประเทศให้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ThinkCentre M90n-1 Nano และ ThinkCentre M90n-1 Nano IoT เดสก์ท็อปเชิงพาณิชย์สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจและองค์กรที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย มีขนาดกะทัดรัด ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลังและประหยัดการใช้พลังงาน ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานที่

ThinkCentre M90n-1 Nano ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพของการใช้งาน ทั้งในการทำงานทั่วไปและงานในเชิงปฏิบัติการณ์ แม้ตัวเครื่องจะมีน้ำหนักเพียง 505 กรัม และขนาดที่เล็กกว้าม้วนวีดีโอเทป VHS แต่ก็ทรงพลังเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปขนาดปกติ ในขณะที่ประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% ต่อปี ด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัด ผู้ใช้จึงสามารถพกติดตัวไปได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะตั้งไว้หลังจอมอนิเตอร์ หรือบนชั้นวางหนังสือ ลดการใช้พื้นที่ของอุปกรณ์ ทำให้สถานที่ทำงานดูมีระเบียบมากขึ้น เหมาะกับองค์กรและธุรกิจทุกขนาด

ในส่วนของการประมวลผล ตัวเครื่องมาพร้อม 8th Generation Intel® Core™ vPro™ i7 และหน่วยความจำแบบ SSD สามารถจัดการไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานในหลายโปรแกรมได้พร้อมกันอย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจำ DDR4 รองรับความจุสูงสุดถึง 16GB และ M.2 SSD แบบสองสล็อต เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูล ผู้ใช้จึงสามารถสัมผัสประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วเร็วและการตอบสนองอันน่าทึ่งได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบพื้นที่ความจุของสตอเรจ นอกจากนี้การเชื่อมต่อด้วยพอร์ตรูปแบบใหม่อย่าง USB Type-C ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเดสก์ท็อปหรือมอนิเตอร์ได้อย่างสะดวก จึงลดปัญหาสายไฟยุ่งเหยิงและประหยัดพื้นที่จัดวาง ในขณะที่ยังคงให้การทำงานที่เหนือขีดจำกัด

เทคโนโลยีเชื่อมต่อ IoT Gateway ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี IoT

 ThinkCentre M90n-1 Nano IoT ถูกดีไซน์มาให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบให้ไม่มีพัดลมระบายความร้อนในตัว แต่ยังสามารถรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณภูมิตั้งแต่ 0-50 องศาได้ นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาให้รองรับแรงการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นเพื่อให้เหมาะต่อการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ในทุกสภาวะแวดล้อม อาทิ ในโรงงานการผลิตต่าง ๆ ที่มีอุณหภูมิสูง หรือตามไซต์งานก่อสร้างที่มีสภาวะฝุ่นสะสม เป็นต้น ในด้านความปลอดภัย IoT Gateway จะช่วยประมวลผลและป้องกันความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ตอบสนองต่อการใช้งานแบบเรียลไทม์ ThinkCentre M90n-1 Nano IoT จึงเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในแบบ “อินเทลลิเจนท์ ทรานส์ฟอร์เมชั่น” (Intelligent Transformation) สำหรับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย

ThinkCentre M90n-1 Nano IoT มาพร้อมขุมพลัง 8th Generation Intel® Core™ vPro™ ที่ผู้ใช้งานสามารถระบุที่ตั้งของเครื่อง, เปิด-ปิด, ซ่อมแซม และล็อกระบบในเครื่องได้จากระยะไกล เมื่อเครื่องเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบำรุงรักษาระบบได้ทั้งเชิงรุก-เชิงรับ และใช้งานระบบการจัดการจากศูนย์กลางเพื่อเพิ่มความเสถียรและประหยัดค่าใช้จ่าย

‘ธเนศ อังคศิริสรรพ’ (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป “เลอโนโว” ประจำภูมิภาคอินโดจีนกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่เล็กที่สุดในโลก ThinkCentre M90n-1 Nano และ นายวรเทพ จักรวาลวิบูลย์ (ซ้าย) ผู้จัดการสายผลิตภัณฑ์เพื่อธุรกิจ “เลอโนโว” ประเทศไทยกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ThinkCentre M90n-1 Nano IoT

 ธเนศ อังคศิริสรรพผู้จัดการทั่วไป “เลอโนโว” ประจำภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า ทุกองค์กรในประเทศไทยเดินหน้าเปลี่ยนแปลงสู่สถานที่ทำงานสมัยใหม่ หรือ Intelligent Workplace พร้อมทั้งค้นหา เทคโนโลยีที่มีต้นทุนเหมาะสมเพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่คล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น ThinkCentre M90n-1 Series มอบการทำงานที่ทรงพลังในขนาดกระทัดรัดเพียง 1 ใน 3 ของ ThinkCentre Tiny เท่านั้น โดยใช้พลังงานและพื้นที่ในการติดตั้งน้อยลงเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ที่ “เลอโนโว” เรารับฟังความคิดเห็นของลูกค้าอย่างจิงจัง ซึ่งข้อมูลเชิงลึกและความต้องการของลูกค้าคือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์เพื่อธุรกิจของเลอโนโวรุ่นล่าสุดจะช่วยให้องค์กรในประเทศไทยมีอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติและฟีเจอร์ครบครันเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว

ThinkCentre M90n-1 ซีรี่ยส์ พร้อมจำหน่ายแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.lenovo.com/th/th

“แอกซ่า” นำเสนอโปรโมชันประกันภัยการเดินทาง

บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำเสนอประกันภัยการเดินทาง “แอกซ่า สมาร์ททราเวลเลอร์” ที่ช่วยให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปใกล้หรือไกล เพราะคุ้มครองครอบคลุมทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ โดยแผนความคุ้มครองประกันภัยการเดินทางของแอกซ่ามีให้เลือกถึง 6 แผน

ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมต้อนรับฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2562 ด้วยการนำเสนอโปรโมชันประกันภัยการเดินทางที่คุ้มค่า เมื่อลูกค้าซื้อประกันภัยการเดินทางผ่านช่องทางเว็บไซต์ของแอกซ่า แบบรายเที่ยว แผนอีโคโนมี (Economy) รับส่วนลด 20% ในราคาเริ่มต้น 149 บาท จากราคาปกติ 186 บาท โดยคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2563

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดตามโปรโมชันประกันภัยการเดินทางตลอดทั้งปีได้ที่ https://www.axa.co.th/promotions-for-exclusive-customers

“Whizdom” จัดแคมเปญรับฮัลโลวีน “101 HALLOWEEN CONCERT SONGS NEVER DIE”

101 True Digital Park ร่วมกับ Whizdom Inspire Sukhumvit ชวนคุณฉลองเทศกาลฮาโลวีนกับแคมเปญ “101 Halloween Concert” พาทุกท่านหวนรำลึกถึงบทเพลงแห่งตำนานที่อยู่ในใจเสมอ ถ่ายทอดโดย ป๊อด ธนชัย, ก้อง สหรัถ, นภ พรชำนิ, ปุ๊ อัญชลี, นนท์ ธนนท์, อิมเมจ สุธิตา, JanChan, บาส SBFIVE, บิลลี่ โอแกน, สิงโต นำโชค, Friday, และ Scrubb

กติการ่วมคอนเสิร์ต “101 Halloween Concert”

● ชอปสินค้าและใช้บริการร้านค้าใน 101 True Digital Park

● ชอปครบ 1,000 บาท นำใบเสร็จมาแลกรับฟรีบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 1 ใบ หรือ

● ชอปครบ 500 บาท รับ 1 แต้ม สะสมครบ 5 แต้ม แลกรับฟรีเสื้อยืด Limited Edition 101 Halloween Concert X Millions Monster จำนวน 1 ตัว

● พิเศษเฉพาะลูกบ้านโครงการ “Whizdom Connect & Whizdom Essence” และลูกค้าที่จองซื้อโครงการ “Whizdom Inspire” รับสิทธ์เมื่อสะสมครบเพียง 4 แต้ม แลกรับเสื้อยืดฟรี! ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : 101 True Digital Park

101 Halloween Promotion

(แคมเปญเริ่มตั้งแต่ 8 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2562)

ชอปและใช้จ่ายใน 101 True Digital Park ครบทุก 1,000 บาท แลกรับฟรีบัตรชมคอนเสิร์ต 101 Halloween จำนวน 1 ใบ (1) หรือครบทุก 500 บาท รับ 1 แต้ม สะสมครบ 5 แต้ม แลกรับฟรีทันทีเสื้อยืดลิมิเต็ดอิดิชั่น 101 Halloween X Millions Monster จำนวน 1 ตัว (2) พิเศษเฉพาะลูกบ้านโคงการ WHIZDOM Connect & WHIZDOM Essence และลูกค้าที่จองซื้อโครงการ WHIZDOM Inspire รับสิทธิ์เมื่อสะสมครบเพียง 4 แต้ม

เงื่อนไขการแลกรับการสมนาคุณ

(1) / (2) ยกเว้นใบเสร็จจาก Food Court ในส่วน Tops Market ใบเสร็จจาก Tops Market และใบเสร็จจาก 7-Eleven ไม่สามารถร่วมรายการได้ ● ของรางวัลไม่สามารถแลกคืน หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ● ลงทะเบียนเพื่อสะสมยอดซื้อ หรือแลกรับการสมนาคุณ ณ จุดประชาสัมพันธ์ชั้น 2 ● บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงของรางวัล หรือเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

(3) บัตรคอนเสิร์ตมีจำนวนจำกัด ● สงวนสิทธิ์ในการแจกบัตรคอนเสิร์ตตามวัน เวลาที่กำหนดเท่านั้น ● สงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่มีเงื่อนไขครบตามกำหนดก่อนในการเลือกวันชมคอนเสิร์ต ● คอนเสิร์ตจัดขึ้น 3 วัน คือ 31 ต.ค. 1 พ.ย. และ 2 พ.ย.62 เท่านั้น

(4) ระยะเวลาในการร่วมรายการระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2562 หรือจนกว่าของรางวัลจะหมด ● จำกัดรางวัลเสื้อยืดลิมิเต็ดอิดิชั่น 101 Halloween X Millions Monster จำนวน 4 ลาย ลายละ 250 ตัวเท่านั้น รวม 1,000 รางวัลตลอดรายการ ● สงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่มีเงื่อนไขครบตามกำหนดก่อนในการเลือกลายเสื้อ

“พิซซ่า ฮัท – เป๊ปซี่” จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “เที่ยวสนุก ฟินสนั่น กันที่บาหลี”

บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ร่วมกับ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแคมเปญล่าสุด “เที่ยวสนุก ฟินสนั่นกัน ที่บาหลี” คืนกำไรลูกค้าแบบจัดเต็ม ให้ลุ้นเที่ยวฟรีไกลถึงบาหลี จำนวน 10 รางวัล และรับสิทธิ์กินฟรีพิซซ่าตลอดปี จำนวน 50 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 1.4 ล้านบาท

 นางสาวอุษณา มหากิจศิริ กรรมการ บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ “พิซซ่า ฮัท” ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรสำคัญอย่าง “เป๊ปซี่” หนึ่งในผู้นำแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมของไทย จัดแคมเปญพิเศษเพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุน “พิซซ่า ฮัท” ตลอดมา และเพื่อตอกย้ำถึงแนวคิด ‘Made of Passion’ ของ “พิซซ่า ฮัท” ที่ส่งเสริมแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทำทุกย่างก้าวในชีวิตอย่างมี ‘Passion’ เช่นเดียวกับ “พิซซ่า ฮัท” ที่มี ‘Passion’ ในการสร้างสรรค์เมนูพิซซ่า ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ชีสที่อร่อยที่สุดในโลก อัดแน่นทุกท้อปปิ้ง เราจึงมั่นใจว่าแคมเปญ “เที่ยวสนุก ฟินสนั่นกัน ที่บาหลี” จะสร้างความน่าตื่นเต้น และการกระตุ้นตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้กับแบรนด์พิซซ่าฮัทในประเทศไทย

ด้าน นายวุฒิชัย รัตนสุมาวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่าแคมเปญ “เที่ยวสนุก ฟินสนั่น กันที่บาหลี” พร้อมให้ร่วมลุ้นโชค สัปดาห์เว้นสัปดาห์ กับแพคเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักและมื้ออาหารสุดเก๋ ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ให้ได้เที่ยวเช็คอินแบบชิค ๆ ตลอดทั้งทริป จำนวน 10 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง) รวมมูลค่า 598,000 บาท และ สิทธิ์กินฟรีพิซซ่าตลอดทั้งปี จำนวน 50 รางวัล รวมมูลค่า 829,400 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,427,400 บาท

นายดรงค์ ถนอมวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เราเชื่อว่า “พิซซ่า ฮัท” และ “เป๊ปซี่” ต่างมีแนวคิดที่สอดคล้องกันผ่านการสนับสนุนให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้รู้จักออกไปใช้ชีวิตตามที่ชื่นชอบอย่างสนุกสนานและเต็มที่ ดังเช่นแนวคิดของเป๊ปซี่ FOR THE LOVE OF IT’ ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ดนตรี และการเปิดประสบการณ์ใหม่ผ่านการท่องเที่ยว เราจึงรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแคมเปญพิเศษนี้ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการสื่อสารสู่กลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ลุ้นรับสิทธิ์ทั้งชิลล์ ทั้งอิ่มได้ง่ายๆ เพียงส่งรายละเอียดการสั่งซื้อ “พิซซ่า ฮัท” และ “เป๊ปซี่” ในใบเสร็จเดียวกันรวมมูลค่าตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป (1 ใบเสร็จ ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น) พร้อมส่งรูปถ่ายใบเสร็จมาที่ LINE Official Account: @pepsipromotion เพื่อร่วมลุ้นรางวัลต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.–15 พ.ย.62 ข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook : Pizzahutthailand หรือ Line @pepsipromotion