“แลคตาซอย” แจกนมถั่วเหลืองฟรี ! ให้ผู้หญิงตลอดเดือน ส.ค.62

มีข่าวดี ๆ จากบิ๊กบอสแลคตาซอย  “สามารถ จิรพัฒนกุล” ฝากมาบอกว่า “แลคตาซอย” ร่วมกับโรงภาพยนตร์ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” จัดกิจกรรม “LADY MONTH” แจกนมถั่วเหลืองแลคตาซอย สูตรไม่หวาน ขนาด 250 ml. กว่า 5 แสนกล่อง ฟรี ! ให้สุภาพสตรีตลอดเดือนสิงหาคม 2562 เอ้า….เลดี้ทั้งหลายที่มีโปรแกรมไปดูหนังเรื่องโปรด อย่าลืมไปรับ “แลคตาซอย” กันได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ “เมเจอร์กรุ๊ป” ทุกสาขาทั่วประเทศนะจ๊ะ

ALL จัดกิจกรรม “Love Inspired By Chef Chumpol”

บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟรับเดือนแห่งวันแม่ “Love Inspired By Chef Chumpol” เปิดประสบการณ์ Dine – in Cinema Experience ครั้งแรกของประเทศไทย ตอกย้ำแนวคิด Class of Living ชีวิตที่มีระดับคือ “ชีวิตที่คุณเลือกเอง” ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า ลูกค้าที่ซื้อห้องชุด หรือทาวน์โฮมของโครงการในเครือบริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯ จะได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิก “อินสไปร์ ฮับ” เข้าร่วมกิจกรรม CRM ต่าง ๆ ที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดูแลลูกค้าหลังการขายของ ALL ที่มัดใจทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยคุณภาพ ซึ่ง ALL ให้ความสำคัญและใส่ใจกับการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ โดยการจัดกิจกรรม CRM อย่างต่อเนื่อง

ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันกับกิจกรรม “Love Inspired By Chef Chumpol” เพื่อมอบความสุขให้กับสมาชิก “อินสไปร์ ฮับ” ด้วยการเชิญเชฟชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ “เชฟชุมพล แจ้งไพร” เชฟกะทะเหล็กประเทศไทยมาปรุงอาหารรสชาติไทยที่หาชิมได้ยาก พร้อมคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มารังสรรค์เมนูอาหารไทย ตกแต่งอย่างสวยงามร่วมสมัย บอกเอกลักษณ์ความเป็นไทยในสไตล์ “เชฟชุมพล” โดยมีเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยสไตล์ไท ยๆ ได้แก่ ไส้กรอกปลาแนมชาววัง, ขนมจีนน้ำพริก, ผัดไทย,กุยช่ายโรล และทอดมันปลากรายปากน้ำโพ ตามด้วยอาหารจานหลัก แกงเขียวหวานเก๋าแดงทะเลระนอง หรือจะเลือกเป็น อกเป็ดปรุงสุกช้า ๆ ย่างซอสแกงเผ็ดลิ้นจี่จักรพรรดิ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมอบใบโหระพาพ็อทพาย ตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่นำผลไม้ไทยชื่อเสียงระดับโลกอย่างมะม่วงมาทำเป็นเมนู ข้าวเหนียวมะม่วงตาแตงค์ รับประทานคู่กับไอศกรีมกะทิสดเพชรพงันกระเทาะเปลือก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ลิ้มรสความอร่อยตำรับไทย ถึงเครื่อง ครบรส

เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ สำหรับสมาชิก “อินสไปร์ ฮับ” ที่ได้รับประสบการณ์การนั่งรับประทานอาหารในโรงภาพยนตร์สุดหรู (Dine-in Cinema) ครั้งแรกในประเทศไทย เท่านั้นยังไม่พอ ALL ยังเสิร์ฟความรื่นรมย์ต่อด้วยการชมภาพยนตร์แอ็กชั่น เรื่อง “Fast & Furious : Hobbs & Shaw” (เร็ว…แรงทะลุนรก ฮ็อบส์ & ชอว์) เพิ่มดีกรีความสุขให้กับลูกค้า สมกับความตั้งใจสร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ เพราะสำหรับ ALL ความสุขของลูกบ้านต้องมาก่อนเสมอ

สำหรับใครที่อยากเป็นสมาชิก “อินสไปร์ ฮับ” และได้รับสิทธิพิเศษ ๆ เชิญแวะเข้าชมโครงการต่าง ๆ ได้ที่ www.allinspire.co.th หรือ โทร.0 2029 9999

“อาคเนย์ประกันชีวิต” ประกาศจุดยืนเติบโตยกกำลังสาม

‘ภฤตยา สัจจศิลา’ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาคเนย์ประกันชีวิต หนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นำทัพจัดประชุมระดับผู้บริหารตัวแทนทั่วประเทศ (Agency Mid Year Plan 2019) อย่างยิ่งใหญ่ หลังบมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยเดินหน้าวางแผนกลยุทธ์สนับสนุนฝ่ายขายช่องทางตัวแทน มุ่งเน้นการเติบโตแบบยกกำลังสาม : Year of Exponential Growth เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการขายและการบริการในการพิชิตเป้าหมายปี 2562 ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

PwC ประเทศไทยฉลองครบรอบ 60 ปี

PwC ประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดำเนินธุรกิจครบรอบ 60 ปีในปี 2562 ภายใต้ชื่อ “Growing Together” นำโดย นายศิระ อินทรกำธรชัย (ที่ 3 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย พร้อมด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงในอดีตประกอบด้วย นายอรรถพร ข่ายม่าน (ที่ 3 จากซ้าย) ศาสตราจารย์ หิรัญ รดีศรี (ที่ 2 จากซ้าย) อาจารย์ ณัฐเสกข์ ฉิมโฉม (ขวาสุด) นายสุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ (ที่ 2 จากขวา) และ นายประสันต์ เชื้อพานิช (ซ้ายสุด) ร่วมแสดงความยินดี พร้อมด้วยพนักงานของ PwC ประเทศไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันกว่า 800 คน

“แอกซ่าประกันภัย – ดี มันนี่” เสนอประกันภัยอุบัติเหตุฟรี ! ให้ชาวต่างชาติ

นายสมเจต ขุนศรีอุเชนทร์ (ที่ 3 จากซ้าย)ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และนางสาวรัศเมฆ ศรีเศรษฐี (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ ดี มันนี่ ร่วมกันนำเสนอสิทธิประโยชน์ประกันภัยอุบัติเหตุฟรีให้แก่ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แอกซ่า https://pa.axa.co.th/deemoney  และทำธุรกรรมทุกๆ เดือน เพื่อรับความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุในแต่ละเดือน โดยความคุ้มครองมีวงเงินตั้งแต่ 25,000 – 50,000 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แอกซ่า โทร.0 2118 8111 หรือ www.axa.co.th

“เซ็นทรัล” จัด 2 งานนาฬิกาหรูครั้งยิ่งใหญ่ ตั้งเป้ายอดขาย 800 ล้านบาท

 

alivesonline.com : ห้างเซ็นทรัล ผู้ริเริ่มการจัดมหกรรมนาฬิกาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ผนึกค่ายนาฬิกาชั้นนำ ทุ่มงบ 80 ล้านบาท จัดงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” มหกรรมนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 21 ณ ดิ อีเว้นต์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันที่ 20 ส.ค.-16 ก.ย.62 และงาน “เดอะ เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” รวบรวมนาฬิกาและจิวเวลรี่จากแบรนด์ดัง ครั้งแรกใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 25 ก.ย.-6 ต.ค.62 รวมมูลค่านาฬิกาและจิวเวลรี่กว่า 6 พันล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายทั้งสองงาน 800 ล้านบาท

ความครบครันของสุดยอดแบรนด์นาฬิการะดับเวิลด์คลาส แบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างเซ็นทรัล รวมถึงคอลเลกชันใหม่ล่าสุด “ลิมิเต็ด เอดิชั่น” รวมกว่า 180 แบรนด์ ส่งตรงจาก 2 งานแสดงนาฬิการะดับโลกที่บรรดา “วอทช์ เลิฟเวอร์” ทั่วเอเชียตั้งตารอคอยทุกปีคือ “บาเซิลเวิลด์ 2019” (Basel World 2019) และ “เอสไอเอชเอช” (SIHH-The Salon International de la Haute Horlogerie) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้อัปเดตพร้อมกันที่ประเทศไทย ด้วย “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” และ “โปรโมชั่นที่ดีที่สุด”

การจัดมหกรรมนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่ปีที่ 21 มาพร้อมจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่นับว่าเป็นปรากฏการณ์หน้าประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่น่าจับตาในรอบ 2 ทศวรรษ ทั้งเชิงรูปแบบการจัดงานและกลยุทธ์การตลาด โดย ห้างเซ็นทรัล ได้ลุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์การทำตลาดนาฬิกา ด้วยการจัดงานนาฬิกา 2 ครั้ง 2 สถานที่ สถานที่แรกคือ “ห้างเซ็นทรัล ชิดลม” ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 ส่วนครั้งที่สองจัดที่ ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล เวิลด์” ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้นำจิวเวลรี่เข้ามาร่วมในครั้งนี้บนพื้นที่ใหญ่ที่สุด เต็มพื้นที่ชั้น 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยคาดว่าทั้ง 2 สถานที่จะเป็นเดสทิเนชั่นแหล่งท่องเที่ยวและชอปปิงอันดับต้น ๆ ของกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ

การประกาศจัดงานสำคัญครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารแบรนด์นาฬิกาดัง มาร่วมนั่งพูดคุยถึงเทรนด์นาฬิกาและนาฬิกาไฮไลต์ที่เตรียมนำมาให้อัปเดทและจับจองกันเฉพาะในงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” ได้แก่ “ทิพาณัท เลณบุรี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด มากับนาฬิกาจาก LONGINES Master Collection และแบรนด์ TISSOT Seaster 1000 Quartz Chrono, “ยูมิ เคียงศิริ” ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกสื่อสารการตลาด บริษัท เพนดูลัม จำกัด มากับนาฬิกา FRANCK MULLER รุ่น VANGUARD GRAVITY TOURBILLON และ BREITLING รุ่น Navitimer 1 B01 Chronograph 43 Pan Am Edition, “เตย มหาดำรงกุล” ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด มากับนาฬิกา ORIS 40th Squadron Limited Edition และ GUCCI G-Timeless Automatic, “ศาศวัต ตัณมานะศิริ” บริษัท ที เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตัวแทนจำหน่าย TAG Heuer แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มากับนาฬิกา BOMBERG Bolt-68 MAYA และ Bomberg Bolt-68 racing, “เทวินทร์ เรศานนท์ บาชโทลด์” กรรมการบริหาร, ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท บาชโทลด์ จำกัด มากับนาฬิกา CORUM Golden Bridge Rainbow และPARMIGIANI FIEURIER Kalpagraphe Chronometre Parmigiani Flueurier และ “ไกรรพ เหลืองอุทัย” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG) ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยของ บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด มากับนาฬิกา GARMIN MARQ Series ทั้ง 5 เรือน ได้แก่ MARQ Driver, MARQ Aviator, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete

“ธาพิดา นรพัลลภ” ออมนิ-แชนแนล เมอร์ชั่นไดซิ่ง ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยถึงรูปแบบการจัดงานที่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาว่า ในปี 2562 ห้างเซ็นทรัล กำหนดจัดงานนาฬิกา 2 ครั้ง 2 สถานที่คือ “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์” และ “เดอะ เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยปรับกลยุทธ์จากเดิมที่จะจัดงานนาฬิกาที่เซ็นทรัลชิดลมเพียงแห่งเดียว แต่ปีนี้ต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จึงได้จัดงาน 2 สถานที่ และยังได้นำแบรนด์จิวเวลรี่เข้ามาร่วมเป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายทั้ง 2 งาน 800 ล้านบาท

ห้างเซ็นทรัลตั้งใจจัดงานเพื่อนำคอลเลกชันล่าสุดจากแบรนด์ดังระดับโลกตลอดจนเรือนไฮไลต์ ส่งตรงจากงาน Basel World 2019 และ SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้ผู้ที่รักนาฬิกาชาวไทยและต่างชาติที่รอคอยมาเลือกชม โดยหลายคอลเลกชันได้นำมาให้จับจองเป็นเจ้าของในงานนี้เป็นที่แรกและมีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น โดยได้เตรียมโปรโมชันที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ตอบโจทย์ลูกค้าทุกคนตั้งแต่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์จนถึงลักซ์ชัวรี่วอทช์ ด้วยมูลค่าคูปองสูงสุดถึง 135,000 บาท นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรบัตรเครดิต 9 บริษัทที่มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าด้วยโปรโมชันครอบคลุมทุกเรื่องทุกบัตร

นาฬิกาไฮไลท์ LONGINES (ลองจินส์) Master Collection

“เรามี Big Data จากบัตร The1 ที่สะสมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2549 เป็นเวลามากกว่า 10 ปี มีสมาชิกมากกว่า 15 ล้านคน เราจึงมีการเก็บข้อมูลและรู้พฤติกรรมของลูกค้าว่าแต่ละคนชอบอะไร และมีความถี่การซื้อของแค่ไหน ทำให้สามารถวางแผนกระตุ้นให้เกิดการซื้อและตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยพบว่าในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านนั้น ลูกค้าในประเทศเวียดนามมีสมาชิกผู้ถือบัตร The1 เป็นจำนวนถึง 10 ล้านคน ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะทราบพฤติกรรมการชอปปิงของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้และสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง”

ด้าน ช่องทางการจัดจำหน่าย ออมนิแชนแนล เรามีนาฬิกาจำหน่ายภายในห้างเซ็นทรัลชิดลม และห้างเซ็นทรัล 22 สาขา รวมถึงการจำหน่ายนาฬิกาในเซ็นทรัลออนไลน์ หรือบริการ Chat & Shop ลูกค้าจึงสามารถมาสั่งซื้อนาฬิกาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือมาทดลองในห้างแล้วตัดสินใจซื้อในออนไลน์ได้ โดยทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกันได้หมดแบบไร้รอยต่อ นอกจากนี้เราสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคผ่านสื่อทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ โดยห้างเซ็นทรัลเป็นที่ 1 ในทุกช่องทางที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาทิ Facebook มีผู้ติดตาม 1,302,599 ราย ขณะที่  Instagram มีผู้ติดตาม 93,612 ราย ส่วน Twitter มีผู้ติดตาม 970,000 ราย และ Line มีผู้ติดตาม 6,436,327 ราย จึงทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่า ๆ กัน

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ GUCCI (กุชชี่) รุ่น Gucci G-Timeless Autometic

ส่วนความพิเศษของการจัดงานนาฬิกาครั้งที่ 2 “เดอะ เวิลด์ พรีเมีย วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” (The World’s Premier Watch & Jewellery Expo) มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ที่รวบรวมนาฬิกาและจิวเวลรี่จากแบรนด์ดัง ครั้งแรกใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. – 6 ต.ค. 62 ซึ่งเป็น “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” เนื่องจากในช่วงเวลาจัดงานเป็นช่วง Golden Week หรือวันชาติของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยจำนวนมาก

นอกจากตลาดจีนแล้ว ยังมีตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ที่เข้ามาท่องเที่ยวช่วงปลายปี ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มชอปปิงที่ห้างเซ็นทรัลสูงขึ้น โดยในครึ่งปีแรกของ 2562 มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น 10% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 โดยประเทศที่มีอัตราเติบโตสูงสุดคือ กัมพูชามียอดใช้จ่ายสูงขึ้น 25%

“เรามองว่าจิวเวลรี่เป็นสินค้าที่อยู่ในหมวดลักซ์ชัวรี่ ซึ่งเป็นหมวดเดียวกับนาฬิกาที่หลายคนมักซื้อไว้เพื่อการสะสมและลงทุน เพราะสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าคงทนและมูลค่าจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ในช่วงที่ผ่านมาความต้องการซื้อของลูกค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่นิยมซื้อเพชรเพื่อใช้สำหรับการออกงานสังคม อีกกลุ่มหนึ่งซื้อไว้เพื่อเป็นสินทรัพย์และเพื่อการลงทุน”

นาฬิกาแบรนด์ FRANCK MULLER (แฟรงค์ มุลเลอร์)

สำหรับเทรนด์นาฬิกาจากบาเซิลเวิลด์ที่มาแรงในปีนี้ มี 5 เทรนด์ ได้แก่

1.Vintage Inspired ที่ได้รับความนิยมจากคนรักนาฬิกาทุกสมัย ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติมาอย่างยาวนานต่างก็นำดีไซน์อันเป็นตำนานกลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งให้โฉบเฉี่ยว รวมถึงดีไซน์หน้าปัดให้มีขนาดเล็กลงและสืบทอดซีรีส์รุ่นคลาสสิกให้เป็นที่รู้จักในทุกเจนเนอเรชั่น

2.3D Innovation แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างนำเสนองานฝีมือของช่างนาฬิกาที่สร้างสรรค์กลไกกับนวัตกรรมใหม่ ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์นั้น ๆ

3.Infusion of Color เทรนด์นาฬิกาหวนกลับไปหาดีไซน์หน้าปัดที่นำเอาเฉดสีมาไว้บนเรือนเวลา โดยในปีนี้เน้นไปที่นาฬิกากลุ่มสีเขียว น้ำเงิน หรือการใช้การประสานสี เพื่อสะท้อนความต้องการของผู้สวมใส่ที่มากขึ้น

4.Useful Functions นาฬิกาบนข้อมือที่บอกฟังก์ชันสำหรับผู้สวมใส่ตามไลฟ์สไตล์ รวมถึงออกแบบฟังก์ชันให้มีลูกเล่นและดีไซน์ให้เป็นมากกว่านาฬิกา หรือมีประโยชน์การใช้งานที่มากขึ้น

5.High-Tech Materials นำเสนอการใช้วัสดุใหม่ที่แตกต่างและแปลกใหม่โดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่มีใครทำในตลาดนาฬิกา

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ ORIS (โอริส) Oris 40th Squadron Limited Edition

เหล่าคนรักนวัตกรรมเรือนเวลาสามารถไปอัปเดต และชอปปิงงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” (Central | ZEN International Watch Fair 2019) ที่มาพร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดสูงสุดถึง 30% รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 45% จาก The 1 (เดอะวัน) และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

พิเศษโหลดรับฟรี!LINE คูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อนาฬิกามูลค่า 20,000 บาทขึ้นไป โดยดาวน์โหลดคูปองได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ Central Department Store รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 135,000 บาท เมื่อชอปตามเงื่อนไข และรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ ณ ดิ อีเว้นต์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ระหว่างวันที่ 20 ส.ค.-16 ก.ย. 62 และที่แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.-6 ต.ค. 62

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ TISSOT (ทิสโซต์)

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ BOMBERG (บอมเบิร์ก) รุ่น Bomberg Bolt-68 MAYA

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ CORUM (โฆรุ่ม) รุ่น Golden Bridge Rainbow

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ PARMIGIANI FIEURIER (พาร์มิเจียนี่ เฟลอริเยร์) รุ่น Kalpagraphe Chronometre Parmigiani Flueurier

นาฬิกาไฮไลท์แบรนด์ GARMIN (การ์มิน) MARQ SERIES

“ฟิลิปส์” ฉลอง 128 ปี จัดแคมเปญบนแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” 15 ส.ค.62

“ฟิลิปส์” (Philips) ฉลองครบรอบ128 ปี แห่งนวัตกรรม” จับมือพันธมิตรแถวหน้าด้านอีคอมเมิร์ช “ลาซาด้า” (Lazada) จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “Super Brand Day” ในวันที่ 15 สิงหาคม 2562 ขนทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าจัดโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่เอาใจผู้บริโภค

“ฟิลิปส์” ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค ตั้งแต่การผลิตหัวโกนแบบใหม่ของเครื่องโกนหนวดไฟฟ้ารุ่นแรกในปี ค.ศ.1939 และพัฒนามาเป็นเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าที่โกนได้แนบสนิทที่สุดในโลกในปัจจุบัน หรือการพัฒนาเทคโนโลยีปิ้งย่างแบบอินฟราเรดอัตโนมัติในปี ค.ศ.1964 จนมาถึงการคิดค้นหม้อทอดไม่ใช้น้ำมัน Philips AirFryer ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้

เนื่องในโอกาสครบรอบ 128 ปี แห่งนวัตกรรม “ฟิลิปส์” จึงได้จัดแคมเปญสุดพิเศษเพื่อตอบแทนลูกค้า ต่อที่ 1 พบสินค้าราคาพิเศษ ลดสูงสุด 70% ต่อที่ 2 รับฟรีทันที ! กระเป๋าช้อปปิ้งพกพา Limited edition ทุกคำสั่งซื้อ และต่อที่ 3 รับประกันสินค้าเพิ่มอีก 128 วันจากปกติ สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้า “ฟิลิปส์” ในร้านค้าทางการของ Philips บน Lazmall ในวันที่ 15 สิงหาคม 2562 เท่านั้น และอีกหลากหลายกิจกรรม เพื่อลุ้นรับของรางวัลมากมายตลอดทั้งวัน

ผู้สนใจติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าทางการของฟิลิปส์บนลาซาด้า https://www.lazada.co.th/shop/philips-official-online-store

“ซัสโก้” ร่วมบอกรัก “วันแม่”แจกขนมเพรียว “Shewy” แค่มีแม่นั่งรถมา

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายมาวีร์ สิมะโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการ ร่วมกับ นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) นำทีมพนักงาน จัดกิจกรรม “วันแม่” ให้บอกรักแม่ด้วยเพรียว “Shewy” กาแฟอัดเม็ด เมื่อเติมน้ำมันครบ 800 บาท รับ 1 ซองฟรี ! มูลค่า 30 บาท พิเศษ! เพื่อแม่…แค่นั่งมาในรถ รับเพิ่มทันที อีก 1 ซอง ให้คุณแม่เคี้ยวเพลิน ๆ ในช่วงเทศกาลวันแม่ 12 สิงหาคม 2562 ที่สาขาวิภาวดี 1 และสาขาบางชัน เท่านั้น

 

[ชมคลิป] พาณิชย์ มั่นใจ “บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 64” ดึงผู้ซื้อร่วมงานกว่า 2 หมื่นราย

alivesonline.com : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประกาศความพร้อมการจัดงาน “Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 64” ภายใต้แนวคิด “Thailand’s Magic Hands : The Spirit of Jewelry Making” แสดงศักยภาพการเป็นผู้นำแห่งวงการอัญมณีและเครื่องประดับโลก นำเสนอจุดเด่นของอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่มีความประณีต ผสมผสานฝีมือช่างไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน คาดดึงดูดนักธุรกิจและผู้ซื้อกว่า 2 หมื่นราย จาก 130 ประเทศทั่วโลก พร้อมมูลค่าซื้อขาย 2.4 พันล้านบาท

นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นในภาคการผลิต การค้า แรงงาน และการท่องเที่ยว จนรัฐบาลมีนโยบายผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Jewelry Hub โดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำหนดจัดงานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 64 ระหว่างวันที่ 10 – 14 กันยายน 2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair นับเป็นเวทีการค้าและเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการรักษาและขยายตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่าของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเวทีแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการรุ่นใหญ่และนักออกแบบรุ่นใหม่ สู่สายตาของผู้ซื้อจากทั่วโลก โดยในงานครั้งที่ 64 ยังคงเป็นเรื่อง Thailand’s Magic Hands : The Spirit of Jewelry Making ที่เน้นการผสมผสานความโดดเด่นของทักษะฝีมือช่างไทยและกระบวนการผลิตขั้นสูงของผู้ผลิตไทยกับความคิดสร้างสรรค์จากกลุ่มนักออกแบบและผู้ผลิตหน้าใหม่ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ที่ทำให้อัญมณีและเครื่องประดับไทยยังอยู่ในแถวหน้าของโลก

 

งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 64 จะรวบรวมผู้ประกอบการและ SMEs กว่า 900 ราย กว่า 1.9 พันคูหา รวมทั้งโซนผู้ประกอบการหน้าใหม่ (The New Faces) ซึ่งแสดงสินค้าเครื่องประดับจากผู้ประกอบการ SMEs ไทยจากภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมมั่นใจดึงดูดนักธุรกิจและผู้ซื้อกว่า 2 หมื่นราย จาก 130 ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการซื้อขายภายในงาน 2.4 พันล้านบาท

ภายในงาน มีการจัดนิทรรศการต่าง ๆ เพื่อนำเสนอเทรนด์สินค้าและกิจกรรมส่งเสริมโอกาสทางการค้าที่หลากหลาย อาทิ นิทรรศการ The Niche Showcase นำเสนอเครื่องประดับเฉพาะกลุ่ม คูหาแสดงสินค้าของกลุ่มนักออกแบบรุ่นใหม่ทั้งสร้างสรรค์และมีนวัตกรรมน่าสนใจในโครงการ The Jewellers และ Innovation and Design Zone บริการจับคู่ธุรกิจ กิจกรรมสัมมนาและเวิร์คชอปในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ การเจาะตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ การสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล เคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์เครื่องประดับรายใหญ่ ฯลฯ

อนึ่ง การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในช่วงหกเดือนแรกของปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน) เท่ากับ 7,245.63 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.20% เมื่อรวมทองคำยังไม่ขึ้นรูป มีมูลค่า 3,848.72 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลง -0.45% สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ อัญมณี (พลอยและไข่มุก) เครื่องประดับทำจากโลหะมีค่า เครื่องประดับอัญมณีเทียม ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อินเดีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ โดยในปี 2562 กรมฯ ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเติบโตเพิ่มขึ้น 1%

ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ www.bkkgems.com หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

“ลาซาด้า” พัฒนาเอสเอ็มอีไทยสู่ “ซูเปอร์ อีบิซิเนส”

alivesonline.com : “ลาซาด้า” กางแผนกลยุทธ์ส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีไทยทั้งระบบสู่ “ซูเปอร์ อี-บิซิเนส” หรือสุดยอดธุรกิจออนไลน์ ด้วย “ซูเปอร์-โซลูชั่น” เผย 3 กลยุทธ์หลักช่วงท้ายปี พร้อมแนะ 6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ เตรียมลงพื้นที่ชุมชนสร้างงานและส่งเสริมรายได้ผ่านอีคอมเมิร์ซ ตามโครงการ “สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์”

นายแจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ลาซาด้า” เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอีไทยอันเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 5,253,295 ราย โดยพันธกิจหลักของ “ลาซาด้า” คือการนำเสนอโอกาสที่เท่าเทียมเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะเชื่อว่าไม่มีแบรนด์ใดใหญ่เกินไป หรือเล็กเกินไปสำหรับการประสบความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงต้องการส่งมอบความรู้และส่งต่อเครื่องมือสำคัญอย่าง “ซูเปอร์ โซลูชั่น” (Super Solutions) เพื่อทำให้ผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างยั่งยืน

ภาพรวมธุรกิจของ “ลาซาด้า” ในระดับภูมิภาคตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนผู้ใช้บริการ (Buyers) เพิ่มขึ้นถึง 105% ส่วนกลุ่มผู้ขาย (Sellers) พบว่ามีการเติบโตขึ้นกว่า 90% ส่วนการส่งเสริมผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปี 2562 จะเน้นกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต มีโอกาสนำเสนอสินค้าที่หลากหลายประเภทมากขึ้น สนับสนุนด้านการบริหารงานและการตลาด สร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มผู้ขายเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์และกระตุ้นให้มีการเข้าร่วมในระยะยาว อาทิ สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์, ลาซาด้า ยูนิเวอร์ซิตี้ (Lazada University) คอร์สเรียนออนไลน์เพื่อเพิ่มทักษะและขีดความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้ขั้นตอน เทคนิค และการใช้เครื่องมือเพื่อเป็นผู้ค้าออนไลน์ที่มีคุณภาพ และกิจกรรมโรดโชว์ที่ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เป็นต้น 2.ขยายโซลูชั่นด้านการตลาดและกิจกรรมในรูปแบบ O2O (Online to Offline) เพื่อกระตุ้นการเข้าร่วมและเพิ่มโอกาสการขายของผู้ขาย 3.พัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถของระบบลอจิสติกและนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ของการชำระเงิน หรือสร้างสังคมไร้เงินสดให้มากขึ้น (Cashless Society) เพื่อสนับสนุนผู้ค้าจากทั่วโลก

นายแจ็ค กล่าวด้วยว่า สำหรับแคมเปญสำคัญที่ “ลาซาด้า” เตรียมไว้สำหรับกระตุ้นการสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ 9.9, 11.11 และ 12.12 ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของผู้ประกอบการในช่วงส่งท้ายปี ขณะเดียวกันยังมีแคมเปญ Payday ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก ๆ สิ้นเดือน และแคมเปญที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายอย่าง Women’s Festival ในเดือนตุลาคม แคมเปญ Momday Monday และ Trendy Tuesday เป็นต้น โดย “ลาซาด้า” พบว่า การจัดแคมเปญเหล่านี้จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่สูงกว่าช่วงเวลาปกติ ทำให้เกิดการชอปปิงในสินค้าหลากหลายประเภท อีกทั้งยังสร้างการสื่อสารระหว่างผู้ขายและลูกค้าได้มากขึ้นและกระตุ้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เกิดการติดตามร้านค้า

นอกจากแคมเปญที่ “ลาซาด้า” เตรียมไว้ ยังจะนำเสนอ 6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการออนไลน์ ได้แก่ 1.การแยกประเภทสินค้าอย่างเหมาะสม เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขายเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน 2.การสร้างทราฟฟิกให้เพิ่มขึ้นจากเครื่องมือของแพลตฟอร์ม อาทิ การใช้คีย์เวิร์ด 3.การแสดงผลส่วนบุคคลและความใกล้เคียงของประเภทสินค้า 4.การทำโปรโมชันและการวางแผนราคา อาทิ การสร้างคูปองส่วนลด หรือการกำหนดราคาในช่วงแคมเปญ 5.การใช้เครื่องมือเพื่อขยายขนาดของตะกร้าสินค้า อาทิ จัดส่งฟรีเมื่อมีการชอปปิงในจำนวนชิ้นที่กำหนด หรือการใช้เครื่องมือบางประเภทใจการจัดเซ็ตสินค้า 6.การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการช่วงแคมเปญ อาทิ การบริหารสต็อก, การบริการลูกค้า และการจัดการในหลังบ้าน การบริหารการจัดส่งสินค้าให้ทันเวลา รวมถึงการแพ็คสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง, การรับประกัน และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่าง ๆ

“ลาซาด้า” ยังมีโครงการสำคัญคือ การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนการการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศโดยใช้ธุรกิจออนไลน์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนในท้องถิ่น โดย “ลาซาด้า” ได้ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยกระดับผู้ประกอบการรากหญ้า และผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่การค้าออนไลน์ผ่านโครงการ “สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์” (Smart Village Online)

“โครงการดังกล่าวได้นำโมเดลจากชุมชนเถาเป่าจากประเทศจีนมาเป็นต้นแบบในการสร้างงานและส่งเสริมรายได้ผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยได้ทำการคัดเลือก 5 ชุมชนที่มีความพร้อม ได้แก่ ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี, ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา, ชุมชนแม่พระประจักษ์ จังหวัดสุพรรณบุรี, ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง และชุมชนใบชา จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีสินค้าแสดงถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เป็นชุมชนเข้มแข็ง มีทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ” นายแจ็ค กล่าวในตอนท้าย

ด้าน นายสุพัชเชษฐ์ เภาวะนิต รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่ “ลาซาด้า” เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สำคัญของอาลีบาบาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซมาช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมในประเทศไทยได้ จึงรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับภาครัฐในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลตลอดจนการร่วมพัฒนาระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการ “สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์” ได้เริ่มดำเนินการแล้วกับชุมชนนาข่า จ.อุดรธานี เป็นแห่งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดย “ลาซาด้า” ได้ลงพื้นที่สำรวจ สื่อสารกับชุมชนเป้าหมาย จัดกิจกรรมเวิร์คชอป มีการทำโปรโมชันผ่านแอปพลิเคชัน จัดงานแสดงสินค้าชุมชนที่ผ่านการพัฒนาด้านดิจิทัลแล้วอย่าง “ผ้านาข่าชุมชนอัจฉริยะออนไลน์” โดยภายในปี 2562 ยังจะมีการลงพื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คชอปกับชุมชนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง