RCL เปิดตัวเรือขนส่งสินค้าลำใหม่ มั่นใจส่งออกไทยดีต่อเนื่อง 5 ปี

alivesonline.com : RCL” ผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลสัญชาติไทย เปิดตัวเรือเดินสมุทรลำใหม่ มูลค่า 1 พันล้านบาท ด้วยนวัตกรรมใหม่รองรับระเบียบการเดินเรือโลก เผยผลประกอบการไตรมาสแรกทำรายได้ 4.25 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 8% คาดสิ้นปี 62 รายได้เพิ่มขึ้น 10% ด้านภาพรวมตัวเลขส่งออกลดลง แต่ไม่กระทบธุรกิจขนส่งทางทะเลมาก ย้ำมูลค่าการส่งออกลดลง แต่ปริมาณยังคงที่ มั่นใจภาพรวมอีก 5 ปี แนวโน้มยังคงดีต่อเนื่อง

นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ SVP Chief of Region and Business Development บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยตู้คอนเทนเนอร์สัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 40 ปี เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ จัดงานเปิดตัวเรือเดินสมุทรลำใหม่ มูลค่ากว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 พันล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีเรือเดินสมุทร 48 ลำ มีการให้บริการหลัก 5 ประเภท ประกอบด้วย 1.เป็นเจ้าของเรือเดินสมุทร (Ship Owner) 2.รับบริหารจัดการเรือเดินสมุทร (Ship Operator) 3.ดูแลรักษาเรือเดินสมุทร (Ship Management) 4.ให้บริการลอจิสติกส์ครบวงจร (Logistics) และ 5 ธุรกิจเจ้าของท่าเรือ (Port Operator) ทั้งที่กรุงเทพฯ และแหลมฉบัง นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัทในเครือ เพื่อความครบวงจรการให้บริการ เช่น ธุรกิจลานบรรจุตู้สินค้าเพื่อการส่งออก ธุรกิจโกดังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า ธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์พร้อมรถพ่วงจำนวนหนึ่ง และธุรกิจท่าเรือบก เป็นต้น

ธุรกิจขนส่งสินค้าของบริษัทฯ ถือว่าครอบคลุมทั้งหมดของภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง มีเส้นทางเดินเรือประจำอยู่กว่า 40 เส้นทาง สามารถกระจายสินค้าได้กว่า 60 เมืองทั่วภูมิภาค มีเรือให้บริการขนาดตั้งแต่ขนาด 200 ตู้ ไปจนถึงกว่า 8 พันตู้ โดยถือเป็นหนึ่งในบริษัทของไทยที่ให้บริการในระดับมาตรฐานและสามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ได้อย่างทัดเทียม

นายทวินโชค กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉลี่ยที่ผ่านมา มีรายได้ปีละประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 มีรายได้ประมาณ 133 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,250 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถือว่าโตขึ้นกว่า 11% จึงทำให้มั่นใจว่ายอดสรุปรายได้ครึ่งปี 2562 น่าจะเป็นไปตามเป้า ส่งผลให้รายได้สิ้นปีเป็นไปตามแผนงานคือ เติบโตขึ้นจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 9-10% ส่วนด้านแผนการปฏิบัติงานนอกจากเพิ่มจำนวนเรือแล้ว ยังได้นำเทคโนโลยี และเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยมากขึ้น ทั้งระบบหุ่นยนต์ ซอฟต์แวร์ระบบจัดการที่เน้นการบริหารจัดการ ผ่านการทำระบบ Big Data ที่จะช่วยให้การเข้าถึงลูกค้าดีมากขึ้น การแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีการส่งเสริมการนำระบบ Business Intelligence มาช่วยในการปฏิบัติงานในส่วนต่าง ๆ

“ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว การแข่งขันในตลาดก็สูงขึ้น ทุกบริษัทต่างมีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ เราจึงหยุดนิ่งไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจส่งออกมีมูลค่าที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และปัจจัยอื่น ๆ ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบ สำหรับธุรกิจขนส่งทางทะเลก็เช่นกันที่ต้องปรับตัวและเตรียมรับมือ ด้านผลกระทบจากตัวเลขส่งออกที่ลดลงนั้น เนื่องจากบริษัทฯ มีบริการที่ครบวงจรรองรับในทุก ๆ ขั้นตอน จึงยังให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบมากนัก ที่สำคัญแม้ว่ามูลค่าการส่งออกจะลดลง แต่ในเรื่องของปริมาณการส่งออกยังคงอยู่ในอัตราคงที่ มีการส่งออกสินค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจจะเปลี่ยนไปที่ตัวของสินค้าและราคาของสินค้าที่ส่งออก จึงอาจสรุปได้ว่า ณ ปัจจุบัน ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล ยังมีอัตราการเติบโตที่คงที่ ทั้งยังมั่นใจว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

นายทวินโชค กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันมีการเข้าถึงการสั่งสินค้าระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น แนวโน้มการขนส่งทางทะเลจึงยังคงเป็นไปในทางที่ดี แต่บริษัทฯ ก็ต้องมีการเตรียมแผนงานล่วงหน้าในการรับมือไว้เช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือการนำเทคโนโลยี และระบบ Business Intelligence มาช่วย ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้เราบริหารและจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

อนึ่ง เรือลำล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมีชื่อว่า “ลลิตภูมิ” (LALIT BHUM) หมายถึง “ดินแดนแห่งความงดงาม” มีขนาดความยาว 172.00 เมตร กว้าง 27.50 เมตร สูง 45.30 เมตร ทำความเร็วได้ 21 น็อต สามารถบรรทุกสินค้าได้ 1,668 TEUS มีลูกเรือประจำทั้งหมด 18 คน โดยจุดเด่นของเรือลำนี้คือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นคือ ด้านการประหยัดน้ำมันลดลงจากเรือในคลาสเดียวกันที่ผลิตก่อนประมาณ 20% ซึ่งจะช่วยทำให้ค่าปริมาณก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ลดลงตามไป นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งเครื่องกรองไอเสียเพื่อช่วยลดบริมาณกำมะถัน (Sulphur) ที่เรือปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศจากปกติ 3.5% จนเหลือไม่เกิน 0.5 % ตลอดจนติดตั้งเครื่องบำบัดน้ำอับเฉาเพื่อป้องกันผลกระทบจากการปล่อยน้ำที่มีสัตว์น้ำต่างถิ่นลงสู่ทะเลซึ่งจะทำลายความสมดุลทางชีวภาพในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับลูกเรืออย่างครบครัน

#นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ #บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) #LALIT BHUM #ลลิตภูมิ #ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล #ธุรกิจลอจิสติกส์

 

“โฮมโปร” โชว์กำไรครึ่งปีแรกเฉียด 3 พันล้านบาท

alivesonline.com : “โฮมโปร” อวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2562 มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 2,946.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 385.43 ล้านบาท หรือ 15.05% ทำรายได้รวม 34,118.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,753.37 ล้านบาท เผยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากอากาศร้อน ทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องทำความเย็นสูงกว่าปกติ เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 มีผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรกเท่ากับ 2,946.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 385.43 ล้านบาท หรือ 15.05% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม จำนวน 34,118.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,753.37 ล้านบาท หรือ 5.42% ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขาย จำนวน 31,826.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,506.91 ล้านบาท หรือ 4.97% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจ “โฮมโปร” และ “เมกา โฮม” รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่จากธุรกิจ “โฮมโปร.

บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าและบริการ จำนวน 1,285.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.15 ล้านบาท หรือ 11.75% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า “มาร์เกต วิลเลจ” และพื้นที่ให้เช่าของสาขา “โฮมโปร” และรายได้จากค่าบริการ “Home Service” นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นอีก จำนวน 1,006.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.31 ล้านบาท หรือ 12.43% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า ดอกเบี้ยรับ และรายได้เบ็ดเตล็ด

นายคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 8,371.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 496.51 ล้านบาท หรือ 6.31% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25.97% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.30% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไปและการเพิ่มอัตรากำไรของกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพวางแผนการจัดซื้อสินค้าของธุรกิจโฮมโปร, เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย

“เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2562 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการที่ภาคการส่งออกที่ลดลงโดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงทั่วโลก ส่งผลให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัวลงใน ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ โดยภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยลง รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลง แม้การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องแต่ยังได้รับแรงกัดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงราคาสินค้าการเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ แม้บางสาขาในกรุงเทพฯ ยังได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะก็ตาม”

จากสภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่องในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม โดยในหลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดขายจากสินค้ากลุ่มเครื่องทำความเย็นที่สูงกว่าปกติ เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการจัดกิจกรรม “โฮมโปร แฟร์” (HomePro Fair) ในจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา (หาดใหญ่)

นายคุณวุฒิ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการเติบโตของบริษัทย่อย ธุรกิจ “เมกา โฮม” มีแนวโน้มการปรับตัวของยอดขายที่ดีขึ้น ส่วนธุรกิจโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ยอดขายยังคงไม่เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้โดยมีปัจจัยหลักเป็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่าง ๆ ผ่านการปรับปรุงด้านอัตราการทำกำไรขั้นต้น และการบริหารค่าใช้จ่าย โดยการขยายสาขาในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้มีการขยายสาขาใหม่ 1 แห่งที่ โฮมโปร สาขาจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเปิดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขา ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 83 สาขา โฮมโปร เอส 8 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา

รพ.บำรุงราษฎร์ ออกโปรแกรมตรวจสุขภาพราคาประหยัดรับฤดูฝน

 

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ใส่ใจสุขภาพประชาชน จัดโปรโมชั่นสุขภาพต้อนรับหน้าฝนกับRainy Season Campaign 2019” ซึ่งรวบรวมแพ็คเกจหลากหลายตอบโจทย์ด้านสุขภาพทุกช่วงวัยในราคาประหยัด อาทิ โปรแกรมตรวจสุขภาพหลัก โปรแกรมตรวจสุขภาพเด็ก โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับสตรี และโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะโรค เป็นต้น

แคมเปญ Rainy Season Campaign 2019” จัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคม 2562 ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตั้งแต่เวลา 09.00–17.00 น. พร้อมมอบสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ โดยสามารถใช้สิทธิ์ตรวจสุขภาพได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2066 8888 หรือ www.bumrungrad.com

F

 

“คาราเพซ หัวหิน-เขาเต่า” ชวนล่าแสงเหนือ พร้อมลุ้นรางวัลกว่า 5 ล้านบาท

 

โครงการ “คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า” (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโดมิเนียมหรูริมชายหาด หัวหิน-เขาเต่า ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนที่เป็นดั่งรางวัลชีวิต พร้อมสัมผัสสุนทรียภาพแห่งการพักผ่อนที่หาที่เปรียบมิได้ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ ติดหาดเขาเต่า โดดเด่นด้วยสวนน้ำ และมีพื้นที่สระน้ำขนาดใหญ่ถึง 1,400 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน Services และ Facilities ระดับ World Class นอกจากนี้ CARAPACE Huahin-Khaotao ยังบริหารโดยเชนโรงแรมระดับโลก BEST WESTERN PLUS มืออาชีพมากประสบการณ์ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าด้านการลงทุน และสุนทรียภาพแห่งการพักผ่อน

พิเศษสุด จองวันนี้รับโชค 2 ชั้น ชั้นแรกสุดฟินกับปรากฏการณ์ออโรร่า ด้วยโปรแกรมล่าแสงเหนือ ชั้นที่ 2 ร่วมลุ้นเป็นเจ้ารถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ C220D Avantgarde, รถยนต์ เอ็มจี แซดเอส EV* (MG ZS EV) รถยนต์ SUV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% หรือทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 5,000,000 บาท โดยจะมีการจับฉลากในงาน Grand Opening ในช่วงเดือนธันวาคม 2562

โครงการ “คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า” บริหารงานโดยบริษัท วันเพลส เอสเตท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดชมโครงการได้ที่ โทร.08 6996 6662 , 08 6996 6663 หรือ คลิก www.carapacehuahin.com

 

 

ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 ชวนควงแขนคุณแม่ดินเนอร์อาหารอิตาเลียน

 

ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโทร โรงแรมเคป เฮ้าส์ กรุงเทพฯ ซอยหลังสวน ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองความสุขต้อนรับ “วันแม่แห่งชาติ” กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ “ชุดเมนูดินเนอร์อาหารอิตาเลียน” ที่หัวหน้าเชฟชาวอิตาเลียนคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำมารังสรรค์เป็นเมนูอิตาเลียนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เอาใจคุณและคุณแม่สุดที่รัก

เริ่มต้นความอร่อยกับ “โฮมเมดราวิโอลี่ไส้เห็ดคลุกเคล้าด้วยชีสเข้มข้นชั้นดี 4 ชนิด” ต่อด้วยเมนู “สเต็กปลากะพงแดงราดซอสเคเปอร์เลมอน เสิร์ฟคู่กับสตูว์ผัก” ปิดท้ายค่ำคืนความอบอุ่นด้วย “ฟรุตสลัดคัมพารีเสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ในราคาเพียง 980++ บาทต่อท่าน และพิเศษสำหรับน้อง ๆ ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ราคาเพียง 490++ บาท/ท่าน เปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำ เวลา 18.00-24.00 น. (รับออเดอร์อาหารถึง 23.30 น.) เฉพาะวันที่ 12 สิงหาคม 2562 เท่านั้น  

พิเศษ! กับสุดยอดเมนูโฮมเมดพาสต้าสูตรต้นตำรับ พร้อมให้คุณลิ้มลองกับเมนูจานเด็ด “พัพพาร์เดลล์พาสต้า หอยกาบและหอยแมลงภู่ ผัดซอสสไตล์อิตาเลียนในราคาเพียงจานละ 420++ บาท ตลอดเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น

 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่ง โทร.0 2658 7444 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capecollection.com

“Healthy Living Fair 2019” ที่สุดของอาหารเพื่อคนรักสุขภาพ

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Healthy Living Fair 2019 ที่สุดของอาหารเพื่อคนรักสุขภาพ”

กิจกรรมครั้งนี้เป็นการรวบรวมนวัตกรรมสินค้า อาหารและการบริการเพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร เพื่อร่างกายที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “360 Degree Healthy Lifestyle” เพื่อสุขภาพที่ดีได้ในแบบของคุณ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต่างมีวิธีการดูแลสุขภาพที่ดีและเหมาะสมในแบบที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง อาทิ สายตามใจปาก แต่ไม่อยากอ้วน, สายเฮลท์ตี้ แต่อยากมีทางลัด, สายบ้างาน แต่ไม่อยากป่วย, สายนอนดึก แต่กลัวโทรม

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักสุขภาพในแบบไหน มางานนี้ก็สามารถมาเลือกสรรสินค้า อาหารและบริการเพื่อสุขภาพที่ดีมากมายได้ภายในงาน อาทิ ขนมปังเพื่อสุขภาพ, น้ำปั่นไร้สาร ต้านโรคอุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารสำคัญจากพืช, ข้าวหน้าปลาดิบผสมผสานรวมกันกับผัก, โยเกิร์ตมะพร้าวออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ, Powerball ขนมธัญพืชเพื่อสุขภาพ, ไข่ขาวพร้อมรับประทาน, ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เซ็นโทร สูตรบำรุงข้อเข่า แล พาโบล สูตรช่วยให้นอนหลับสบาย เหมาะสำหรับคนทำงานหนักพักน้อย จาก Cordy Biotech น้ำนมข้าวยาคู ออร์แกนิก มีสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งมะเร็ง ลดคลอเรสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง อาหารเสริมต่าง ๆ จาก Mega We Care รวมถึงบริการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำ และแพ็คเกจประกันสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต พร้อมทั้งรับฟังคนดัง ดารา เซเลบริตี้ มาแนะนำการดูแลสุขภาพและความงามในแบบฉบับของแต่ละบุคคล

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น 7 สาขา ในกรุงเทพฯ โดยเริ่มสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม3 ในวันที่ 1-7 สิงหาคม 2562 และส่งมอบสุขภาพดี ๆ อีก 6 สาขา ดังต่อไปนี้  

  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 14 – 20 สิงหาคม 2562
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ 5 – 11 สิงหาคม 2562
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ 20 – 29 กันยายน 2562
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว 17 – 23 ตุลาคม 2562
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 1 – 10   พฤศจิกายน 2562
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา 13 – 21 พฤศจิกายน 2019

‘กันตภณ ผาณิตรัตน์’ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้า บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกยํ้าการเป็น Destination of Creative Lifestyle event ของ “ซีพีเอ็น” เราจึงสร้างคอมมูนิตี้ที่เกี่ยวกับงานของคนรักสุขภาพขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกับเทรนด์การรักสุขภาพซึ่งถือเป็นเทรนด์อันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก เห็นได้จากความสนใจและพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมไปถึงโฆษณาและสื่อต่าง ๆ ที่ออกไปตอนนี้จะสนับสนุนการออกกำลังกายและการหันมาใส่ใจการรับประทานอาหารและเลือกวัตถุดิบในการปรุงอาหารมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์การจัดงาน “Healthy Living Fair 2019” ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว ภายในงานเราได้รวบรวมนวัตกรรมสินค้า อาหารและการบริการเพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “360 Degree Healthy Lifestyle” พบสุดยอดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแห่งการดูแลสุขภาพจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่เลือกสรรค์สินค้าจากสตาร์ทอัพไทย กว่า 30 ร้านค้า อีกทั้งยังมีสินค้าและบริการเกี่ยวกับสุขภาพจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย รวมถึงแพ็คเกจเพื่อสุขภาพจากโรงพยาบาลชื่อดัง เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการดูแลสุขภาพในแบบฉบับของตัวคุณเอง

ผู้สนใจชมและเลือกสรรสินค้าเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับตัวคุณได้ภายในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั้ง 7 สาขา ได้แก่ พระราม 3, พระราม 9, อีสต์วิลล์, แจ้งวัฒนะ, ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวิลด์ และบางนา

“Mahidol R-I-SE NOW” งานแสดงผลงานวิจัยตอบสนองยุทธศาสตร์ประเทศ

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยมหิดล “Mahidol R-I-SE NOW” Research & Innovation Special Exhibition โดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยี และนวัตกรรม ร่วมกับ กองบริหารงานวิจัยและกองกิจการนักศึกษา เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี วันพระราชทานนาม 131 ปี มหาวิทยาลัยมหิดล

ภายในงาน Mahidol R-I-SE NOW มีการจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่เป็นไฮไลท์จากทุกคณะ และสถาบันของมหาวิทยาลัยมหิดล แบ่งเป็นโซนหลากหลาย อาทิ โซนด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ รวมไปถึงการแสดงนวัตกรรมที่ทันสมัยและพร้อมสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี มากกว่า 90 บูธ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงของบริษัทสตาร์ทอัปต่าง ๆ ที่พร้อมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงผลงานวิจัยและนวัตกรรมของอาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดลมีอีกหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการ หุ่นยนต์ เทคโนโลยี และสมองกลเพื่อช่วยพัฒนาด้านการแพทย์และความเป็นอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ อาหารสุขภาพและอาหารเพื่อผู้ป่วย รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสังคมและชุมชน นอกจากนี้ยังมีผลงานด้านวัฒนธรรมและดนตรีที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี

ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่โดดเด่นของมหิดล ในงาน Mahidol University’s Research & Innovation Special Exhibition (Mahidol R-I-SE NOW) ในวันศุกร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา คณะทันตแพทยศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2849 6050-3 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/MAHIDOLRISENOW

‘Qizz Sparkling Juice’ จัดคอนเสิร์ตเอาใจวัยทีน

บริษัท ชบาบางกอก จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้สัญชาติไทย แบรนด์ “Qizz” (คิซ) เดินสายบุกโรงเรียนดังร่วมกับ HITZ 99.5 คลื่นฮิตอันดับหนึ่งของคนไทยทั้งประเทศ จัดกิจกรรม “‘HITZ 95.5 มันส์ยก ม. FOR มัธยม” เขย่าความซ่ากับคอนเสิร์ตเอาใจวัยรุ่น โดยศิลปินชื่อดังขวัญใจวัยเรียน อาทิ Slot Machine, Gena Desouza, Mean, ทศกัณฐ์, นายนะ, นินิว และดีเจสุดเฟี้ยวจาก 95.5 Virgin HitZ อาทิ ดีเจบอย ดีเจบูม และอีกมากมาย เมื่อเร็วๆนี้

Roojai.com รับรางวัลระบบบริหารความปลอดภัยสารสนเทศ

‘นิโคลัส ฟาเกต์’ (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Roojai.com รับใบรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISMS) ในระบบธุรกิจประกันภัยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จาก อนงค์รัตน์ โชติกประคัลภ์ (ที่ 3 จากซ้าย) จาก TÜV NORD CERT (Thailand) มาตรฐานดังกล่าวตอกย้ำระบบจัดการข้อมูลของ Roojai.com ในด้านการรักษาความลับ ความครบถ้วนถูกต้อง และความพร้อมท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

 

นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 2

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จัดงานนิทรรศการศิลปกรรมเพื่อผู้ลี้ภัย ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562 เพื่อระดมทุนจัดหาที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยจำนวน 2 ล้านคนใน 12 ประเทศทั่วโลก ภายใต้แคมเปญ “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างนอก” โดยได้รับความเมตตาจาก พระเมธีวชิโรดม (ท่านว.วชิรเมธี) (ที่ 3 จากซ้าย) เป็นประธานจัดงาน ร่วมกับ UNHCR โดยมี ‘เพีย คาร์เมลา พากีโอ’ (ที่ 3 จากขวา) รองผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจําประเทศไทย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมได้รับเกียรติจาก ‘ชัย เบญจรงคกุล’ (กลาง) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ร่วมด้วย ‘ฯพณฯ โดนิกา พอตตี’ (ที่ 2 จากขวา) เอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย ‘ฯพณฯ ลัยลา อะห์มัด บะฮาอุดดีน’ (ขวาสุด) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ประจำประเทศไทย ‘ชยชัย แสงอินทร์’ (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ‘ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล’ (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมงานเปิดอย่างเป็นทางการ ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย กรุงเทพฯ