กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ดัน “AMAZING THAILAND MARATHON” ขึ้นชั้น “มาราธอนเอเชีย” ใน 3 ปี

alivesonline.com : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึก ททท. การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ไทยแลนด์ไตรลีก เปิดตัวการแข่งขันวิ่งมาราธอน “วิ่งผ่าเมือง” ระดับเอเชีย ครั้งที่ 2 รายการ “AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2019 BY TOYOTA” หวังบูมกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬาช่วงต้นปี คาดมีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมแข่งขัน 2.5 หมื่นคน สร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท ตั้งเป้าขึ้นชั้นเป็น “มาราธอนแห่งเอเชีย” ภายใน 3 ปี

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก รายการ “AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2018 BY TOYOTA” จัดงานเปิดตัวการแข่งขันและการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วย นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจากภาครัฐและภาคเอกชน ท่ามกลางสื่อมวลชนและเหล่านักวิ่งจากชมรมต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานที่ปรึกษาและผู้ออกคำสั่งกระทรวงฯ ในการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่มีโอกาสดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมเป็นจำนวนมากอย่างกีฬาวิ่งมาราธอน หรือไตรกีฬา ให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักในระยะยาว โดยมีแผนการสร้างแบรนด์ระดับโลกด้วยตัวเอง

“ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล จึงได้ออกเป็นคำสั่งของกระทรวงฯ โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเป็นเจ้าภาพในแต่ละส่วน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและสามารถจัดการแข่งขันมาราธอนในระดับโลกได้ในที่สุด โดยกระทรวงฯ ตั้งเป้าให้การแข่งขัน AMAZING THAILAND MARATHON จะต้องจัดอย่างน้อย 3 ปี และรายการนี้จะต้องติดอันดับต้น ๆ ของมาราธอนที่คนทั่วโลกอยากเดินทางมาร่วมแข่งขันมากที่สุดและต้องการเป็นน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดในวงการวิ่งมาราธอน” นายอิทธิพล กล่าว

กำหนดจัดต่อเนื่องทุกเดือน ก.พ.

ด้าน นางสุจิตรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท. ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ให้เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดแข่งขันครั้งนี้ โดยจะดำเนินการร่วมกับไทยแลนด์ไตรลีก โดยกำหนดจัดการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 และจะจัดต่อเนื่องทุกปีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ วัตถุประสงค์หลักของการแข่งขันเพื่อต้องการยกระดับให้ไทยเป็นจุดหมายปลายด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา หรือ Sport Tourism destination อย่างยั่งยืน

“การจัดมาราธอนระดับโลกในเมืองหลวงนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าไม่มีใครริเริ่มโครงการ ประเทศไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็นการแข่งขันมาราธอนในระดับโลกอย่างแน่นอน สำหรับตนหากจะจัดมาราธอนระดับโลกต้องจัดที่เมืองหลวงเท่านั้น เหตุผลคือมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่พัก การเดินทาง และความปลอดภัย เนื่องจากจะต้องรองรับนักกีฬาและผู้ติดตามหลานหมื่นคน ซึ่งตนคิดว่าหากจัดได้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านชื่อเสียง ด้านการสร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาสังคม ฯลฯ”

ททท. จะใช้กระแสของกีฬาวิ่งที่กำลังบูมในขีดสูงสุด เป็นเครื่องมือหลักในการดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมแข่งขันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันประมาน 2.5 หมื่นคน เป็นชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 5 พันคน ก่อให้เกิดรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมในระบบเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 3 ปี AMAZING THAILAND MARATHON จะเป็นรายการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาร่วมมากที่สุดรายการหนึ่งของเอเชีย”

โชว์ไฮไลท์เส้นทางการแข่งขัน

นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแลนด์ไตรลีก ในฐานะผู้จัดงานกล่าวถึงรายละเอียดของการแข่งขันว่า การแข่งขัน “AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2018 BY TOYOTA” แบ่งเป็น 4 ระยะคือ ประเภทมาราธอน ระยะ 42.195 กม. ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21.10 กม. ประเภทมินิมาราธอนระยะ 10 กม. และประเภทแฟมิลี่รัน ระยะ 3.5 กม. ส่วนเส้นทางการวิ่งนั้นถือเป็นไฮไลท์สำคัญของการจัดมาราธอนในครั้งนี้ โดยการวิ่งในประเภทมาราธอนมีจุดปล่อยตัวที่ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก วิ่งผ่านถนนรามคำแหง (ใช้สะพานต่างระดับ) ถนนราชวิถี (อุโมงค์ลอดใต้สะพาน/ใช้สะพานต่างระดับ) ถนนดินแดง (ใช้สะพานต่างระดับ) พระรามเก้า ถนนราชดำเนินนอก ถนนวิสุทธิกษัตริย์ สะพานพระรามแปด ถนนบรมราชชนนี (สะพานต่างระดับ) วกกลับมาที่ถนน (ต่างระดับราชดำเนินนอก) เลี้ยงขวาเข้าถนนพระสุเมรุ ออกถนนราชดำเนินกลาง เข้าเส้นชัย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ประเภทฮาล์ฟมาราธอน เริ่มจากถนนราชดำเนินกลาง ผ่านถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนราชวิถี ผ่านพระบรมรูปทรงม้า ขึ้นสะพานพระรามแปด ถนนบรมราชชนนี (สะพานต่างระดับ) วกกลับมาที่ถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวาเข้าถนนพระสุเมรุ ออกถนนราชดำเนิน วกกลับเข้าเส้นชัย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ส่วนประเภท 10 กม. เริ่มจากถนนราชดำเนินกลาง ผ่านถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนราชวิถี ผ่านพระบรมรูปทรงม้า อ้อมใต้สะพานพระรามแปด วกกลับมาถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวาเข้าถนนพระสุเมรุ ออกถนนราชดำเนินกลาง เข้าเส้นชัย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ภาคเอกชนร่วมสนับสนุน

นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า โตโยต้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมของการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศในฐานะ Presenting Sponsor และมั่นใจว่าการร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะสามารถทำให้งานแข่งขันวิ่งมาราธอนในครั้งนี้ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนระยะ 10 กม. กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ยินดีให้การสนับสนุนรายการมาราธอนรายการนี้ โดยหวังว่าจะได้เห็นสนามแข่งขันของเมืองไทยเป็นเสมือนสนามแข่งขันในต่างประเทศในอีกไม่นานนี้ นอกจากนี้แล้ว ยังสนับสนุนเรื่องการมอบส่วนลดให้ผู้แข่งขัน โดยผู้ที่มีบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขอธนาคารกรุงเทพ จะได้ส่วนลด 15% ในทันที ทั้งนี้ ผู้สนใจจะต้องดำเนินการสมัครผ่านทาง www.amazingthailandmarathon2019.com เท่านั้น

นางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนระยะ 3.5 กม. ภายใต้ชื่อ “เมืองไทย สไมล์รัน” กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมเป็นหนึ่งผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรมดี ๆ ช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพชีวิตมนุษย์ โดยจะช่วยดูแลนักวิ่งโดยมีประกันอุบัติเหตุให้กับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมแข่งขันในงานครั้งนี้ด้วย

“อินเด็กซ์ฯ” เลือกฮานอยจัดงานวิ่ง “KILORUN” ประเดิมต้นปี 62

alivesonline.com :  “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ”จับมือสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” และสายการบิน “ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์” ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญจัดงานวิ่งกินเที่ยวระดับนานาชาติ “KILORUN HANOI 2019 : RUN EAT FUN IN ONE GO” พร้อมเปิดฉากตะลุยจัดงานวิ่งรูปแบบใหม่ที่รวมเรื่องวิ่งกินเที่ยวให้เป็นเรื่องเดียวกัน ท้าผู้แข่งขันวิ่งสร้างประสบการณ์สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมเมืองที่มีเอกลักษณ์และตะลุยแข่งกินอาหารจานเด็ดพื้นเมืองที่เป็น SIGNATURE ประจำชาติ หลังจากประเดิมซีรีย์แรกคัดเมืองโดดเด่นแห่งเอเชีย อาทิ KILORUN BANGKOK THAILAND และ KILORUN BALI INDONESIA ฯ ประสบความสำเร็จล้นหลามเตรียมเปิดสนามแข่งขันวันที่ 2 มี.ค.62 ณ Ly Thai To Park (ริมทะเลสาบหว่านเกี๋ยม) เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงานรวมมากกว่า 2.5 พันคน

นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน และผู้อำนวยการสร้างสรรค์กิจกรรม “KILORUN” เปิดเผยว่า KILORUN เป็นงานวิ่งกินเที่ยวระดับนานาชาติที่ครบเครื่อง “วิ่ง กิน เที่ยว” โดยเราเลือกเมืองที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์เฉพาะโดดเด่นของเอเชีย โดยเฉพาะด้านอาหารจานเด็ดพื้นเมืองที่เป็นสสัญลักษณ์ประจำชาติเวียดนาม

ความแปลกใหม่และความสนุกของกิจกรรมนี้คือผู้แข่งขันจะมีความสุขกับอาหารจานเด็ดอร่อย ๆ อย่างเต็มอิ่ม ขณะที่เส้นทางที่จัดให้วิ่งยังผ่านแลนด์มาร์คสวย ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง (The Iconic City) ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของกิจกรรมนี้ ซึ่งแต่ละเมืองที่จัดนั้นจะมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันในทุกประเทศ โดย KILORUN HANOI 2019 ถือเป็นอีเว้นท์แรกในต้นปี 2562 ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยดึงดูดนักวิ่งชาวเวียดนาม นักท่องเที่ยวไทย และชาวต่างชาติทั่วทั้งเอเชียให้สนใจมาร่วมในกิจกรรม KILORUN HANOI 2019 อย่างแน่อน โดยคาดว่าน่าจะมีนักวิ่งนักกินร่วมแข่งขันในงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันคน

สำหรับการจัดกิจกรรม  KILORUN HANOI 2019 จะจัดการแข่งขันวันเดียวกันทั้ง 2 ประเภทคือวันที่ 2 มีนาคม 2562 ณ Ly Thai To Park (ริมทะเลสาบหว่านเกี๋ยม) เมืองฮานอย คือ 1.ประเภท KM (กิโลเมตร) ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 05.00–08.30 น. ณ Ly Thai To Park เมืองฮานอย โดยจะให้ผู้แข่งขันวิ่งผ่านเส้นทางแลนด์มาร์คไฮไลท์ของเมือง อาทิ Ly Thai To Statue, Hoan Kiem Lake, Old Quarter, Hanoi Opera House, Hanoi, Ho Chi Minh’s Mausoleum แบ่งออกเป็น 3 ระยะทาง คือ L RUN 10.7 กม., M RUN 6.7 กม. และ S RUN 2.3 กม.

2.ประเภท KG (กิโลกรัม) ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 14.00-18.30 น.ผู้แข่งขันสามารถเดินชิลล์วิ่งกินอาหารจานเด็ดแห่งเมืองฮานอยไปตลอดระยะทาง 2.3 ก.ม. ที่จะตั้งไว้ตามจุดแลนด์มาร์คต่าง ๆ ของเมือง HANOI รวมกว่า 10 จานเด็ด อาทิ Glass Noodles with Deep-Fried Eel Mien Xao Luon, Barbecued Pork with Rice Vermicelli, Rice Vermicelli with Chicken Egg Pork Bun Thang, Banh Cuon (Steamed Rice Rolls) Gia Truyen, Fried Dumplings Banh Goi, Sweet Sticky Rice Xoi Xeo เป็นต้น

ด้าน นางสาวทอปัด สุบรรณรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร สายการบิน “ไทยเเอร์เอเชีย” กล่าวว่า ฮานอย เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์ ทั้งวัฒนธรรมอาหารการกิน และสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ต่าง ๆ นับเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างดี ขณะที่การเดินทางเชื่อมต่อกันระหว่างประเทศไทยและเมืองฮานอยก็สะดวกคุ้มค่ามาก โดย “ไทยแอร์เอเชีย” มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฮานอย 2 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-ฮานอย 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์ และอาทิตย์)

“งาน KILORUN เป็นมากกว่างานวิ่งทั่วไป เพราะส่งเสริมให้เราได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมในแต่ละสนาม โดยเฉพาะด้านอาหารการกิน ผ่าน KG RUN รวมทั้งการวิ่งชมเมืองและทิวทัศน์ ผ่าน KM RUN ซึ่งเราได้รับการตอบรับที่ดีจากทุก ๆ สนาม เชื่อว่างาน KILORUN ครั้งนี้จะช่วยทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองฮานอย และเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจของนักวิ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแน่นอน” นางสาวทอปัด กล่าว

สำหรับกิจกรรม KILORUN HANOI 2019 “แอร์เอเชีย” จะนำเสนอเที่ยวบินราคาประหยัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงาน KILORUN HANOI 2019 ได้สะดวกและประหยัดมากขึ้น ในราคาเริ่มต้นที่ 1,390 บาท หรือ 1,028,000 VND หรือ 50 เหรียญสหรัฐ สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 หากนักท่องเที่ยวสนใจร่วมสนุกกับกิจกรรม KILORUN HANOI สามารถนำรหัสการจอง 6 หลัก (Booking no.) ที่เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนลด 20% สำหรับบัตรวิ่งในแต่ละรายการได้ พร้อมลุ้นรับของรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินโปรโมชั่นพิเศษ ๆ อื่น ๆ อาทิ เส้นทาง เชียงใหม่-ฮานอย, ดอนเมือง–โฮจิมินห์, ดอนเมือง-ดานัง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ www.airasia.com

ทั้งนี้ ภาวะการท่องเที่ยวของเวียดนามติดอันดับ 6 ใน 10 อันดับจุดหมายปลายทางที่มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก โดยได้รับตำแหน่งผู้ประกอบการยอดเยี่ยมในเอเชียในปี 2560 โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคิดเป็น 7.5% ของตัวเลขจีดีพีของประเทศ โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเวียดนามเกือบ 13 ล้านคน ทำรายได้ให้ประเทศมากกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2559

ผู้สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์วิ่งกินเที่ยวนานาชาติ “KILORUN HANOI 2019” จองบัตรช่วง Early Bird ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ประเภทการแข่งขัน KM S RUN 450 บาท จากราคาปกติ 500 บาท, M RUN 630 บาท จาก ราคาปกติ 700 บาท และ L RUN 900 บาท จากราคาปกติ 1,000 บาท ประเภทการแข่งขัน KG (0.5 KG และ 1.0 KG) ราคา 1,350 บาท จากราคาปกติ 1,500 บาท

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ kilorun.com, FACEBOOK, LINE, TWITTER : @Kilorun และ IG: KILORUN2019

ททท.ผุดโครงการ “Passport Privileges” กระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี

alivesonline.com : ททท.ดึงพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมโครงการ Amazing Thailand Grand Sale “Passport Privileges” กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ จัดเต็มส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย หวังสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคักในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561–15 มกราคม 2562

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน จัดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale “Passport Privileges” เพื่อกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจากตลาดระยะใกล้ในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561–15 มกราคม 2562 โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าว

ททท. ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อเพิ่มสิทธิ์การรับส่วนลด ผ่านการออกแบบโปรแกรมบริการพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ (Non-Residence Tourist) เมื่อแสดงหนังสือเดินทางเพื่อแลกรับสิทธิ์ส่วนลด หรือของที่ระลึกจากร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดอากร (Duty-Free) ร้านอัญมณีและเครื่องประดับ ร้านสปา และสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ

สำหรับกิจกรรมหลักประกอบด้วย “ส่วนลดเพิ่ม” (On Top) ให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากปกติที่ร้านค้ามอบให้นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว “ส่งเสริมการจัด Sales Promotion” ในหมวดสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่นักท่องเที่ยวนิยม “ส่งเสริมการจัด Shopping Event” ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้มากขึ้น ททท. พร้อมนำคณะ FAM Trip กลุ่ม KOL (Key Opinion Leaders) กลุ่ม Blogger Travel/Shopping และกลุ่ม Vlogger จากภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ เข้ามาร่วมประสบการณ์ชอปปิ้งและสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย อีกทั้งยังจะร่วมมือกับ Travel Agent และ Online Travel Tech สนับสนุนข้อมูลสินค้าและบริการ แหล่งท่องเที่ยว สิทธิประโยชน์ผ่านทุกช่องทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดตามรายชื่อผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมข้อมูลสิทธิพิเศษได้ที่ https://tourismthailand.org/passportprivileges

“ททท. คาดหวังว่า โครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ที่นิยมเดินทางมาใช้จ่ายในประเทศไทย โดยจะกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มดังกล่าวที่จะเข้ามาตลอดฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสร้างบรรยากาศในการเดินทางท่องเที่ยวไทยให้คึกคักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายยุทธศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย

“วอลโว่” เปิดราคา Volvo XC90 Inscription เริ่มต้นที่ 4.19 ล้านบาท

XC90 เอสยูวีรุ่นใหญ่ล่าสุดจาก “วอลโว่” รถครอบครัวในฝันที่ที่มอบความกว้างขวางสะดวกสบายในห้องโดยสารมากที่สุด ตกแต่งภายในด้วยวัสดุธรรมชาติเกรดพรีเมียม ผสานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อการใช้งานที่ง่ายดายและมอบความรู้สึกผ่อนคลายตลอดเส้นทาง ภายใต้รูปลักษณ์ที่เรียบหรูด้วยงานดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนสมัยใหม่เพื่อมอบสุนทรียสัมผัสในทุกจังหวะการขับขี่ พร้อมเครื่องยนต์ขุมพลังที่มอบสุดยอดสมรรถนะและความเงียบที่คุณต้องการ ให้คุณทะยานไปในทุกเส้นทางได้อย่างราบรื่นและมั่นใจในความปลอดภัย

เครื่องยนต์รุ่น T8 Twin Engine AWD Inscription ซึ่งแม้มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงต่ำมากเพียง 2.2 ลิตร/100 กม. แต่กลับมอบกำลังเครื่องแรงเต็มพลังด้วยเทคโยโลยีการขับเคลื่อนดกำลังไฟฟ้า Electric All Wheel Drive ร่วมกับการใช้แบตเตอรี่ 10.4-kWh, Li – on Battery และระบบส่งกำลัง Automatic 8-speed transmission จึงให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและความปลอดภัยขั้นสูงสุด พร้อมอัตราแรงบิดสะใจที่ 640 นิวตันเมตร

นอกจากนี้ เครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD Inscription ยังติดตั้งมากับโครงช่วงล่าง Active chassis และระบบถุงลมกันสะเทือน 4 ทิศทาง Four-C air suspension เพื่อมอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่นุ่งนวลยิ่งขึ้น โดยระบบ Four-C air suspension จะตรวจสอบสภาวะการขับขี่ในอัตรา 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อการดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงมอบประสบการณ์การขับที่นิ่มนวล ซึ่งสามารถเลือกจากโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับตัวตนและสถาพอากาศโดยรอบจากโหมดต่าง ๆ ได้แก่

  •  AWD – จะสั่งงานการขับเคลื่อนทุกล้อตลอดเวลาเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนบนพื้นถนนที่ลื่น
  • Pure – จะเน้นการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ที่ทำให้สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางถึง 40 กม. ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • Hybrid – มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินจะทำงานร่วมกันเพื่อให้สมรรถนะ, ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และความสะดวกสบายที่เหมาะสมที่สุด
  • Power – จะนำกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้เพื่อให้สมรรถนะสูงสุด
  • Off Roadเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนที่พื้นผิวถนนมีความแตกต่างกันมาก จะทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม. /ชม.

นอกจากเครื่องยนต์ AWD XC90 T8 Twin Engine Inscription วอลโว่ XC90 ยังมอบความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและการตกแต่งที่โดดเด่น อาทิ

  • เบาะหุ้มหนังแบบ Perforated Nappa Leather
  • เบาะหน้าระบบระบายอากาศหรือทำความร้อน
  • ล้ออัลลอยแบบ Diamond-cut 20 นิ้ว
  • ระบบอินโฟเทนเมนท์ Sensus Connect
  • กล้องแบบ 360° มอบทัศนียภาพมุมสูงให้ผู้ขับมองเห็นได้รอบทิศทาง
  • ระบบตรวจจับจุดบอดสายตาเตือนเมื่อมียานพาหนะที่มองไม่เห็นกำลังแล่นเข้ามา
  • ระบบเสียงพรีเมียมจากแบรนด์ Bowers & Wilkins

นักขับสามารถเลือก XC90 จากรุ่นเครื่องยนต์ต่าง ๆดังนี้

  • T8 Twin Engine AWD Inscription         4,790,000 บาท
  • T8 Twin Engine AWD R-Design             4,590,000 บาท
  • T8 Twin Engine AWD Momentum        4,290,000 บาท
  • D5 AWD Momentum                                  4,190,000 บาท

“มิชลิน ไกด์” ประกาศรายชื่อร้านอาหารไทยคว้ารางวัลประจำปี 62

alivesonline.com :  “มิชลิน” เปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา” ประจำปี 2562 โดยเป็นคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย และเป็นฉบับแรกที่ครอบคลุมพื้นที่นอกเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา และจังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพฯ (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ) คู่มือเล่มล่าสุดนี้บรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 217 แห่ง และที่พัก 67 แห่ง โดยมีร้านอาหารได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน จำนวน 4 ร้าน เป็นร้านอาหารใหม่ 1 ร้าน และ 1 ดาวมิชลิน จำนวน 23 ร้าน เป็นร้านอาหารใหม่ 10 ร้าน

นายเกว็นเดล พูเลเนค ผู้อำนวยการนานาชาติ “มิชลิน ไกด์” เปิดเผยว่า ร้านอาหารที่ได้รับเลือกในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ด้านอาหารที่หลากหลาย ทั้งในและนอกเขตกรุงเทพฯ นอกจากนี้ เรายังเห็นแนวโน้มความนิยมในการให้เชฟเป็นผู้กำหนดเมนูครบคอร์ส (Degustation Menu) เพื่อให้ผู้รับประทานอาหารได้สัมผัสประสบการณ์ด้านอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ในคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ฉบับล่าสุดนี้ ร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรให้ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลินในปีก่อนทุกร้านยังคงรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้ ได้แก่ ร้าน Gaggan (กากั้น), Le Normandie (เลอ นอร์มังดี) และ Mezzaluna (เมซซาลูน่า)  โดยมี Sühring (เซือริ่ง) เป็นร้านอาหารเพียงร้านเดียวที่มีรายชื่อเพิ่มเข้ามาในปีนี้ โดยเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมิชลิน เป็น 2 ดาวมิชลิน ด้วยฝีมือการรังสรรค์เมนูอาหารยุโรปร่วมสมัยในสไตล์เยอรมันโมเดิร์นตามแบบฉบับตนเองของเชฟสองพี่น้อง “มาธิอัส” (Mathias) และ “โธมัส เซือริ่ง” (Thomas Sühring)

นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร 23 ร้านได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน โดย “ฤดู” (Le Du) และ “GAA” (กา) เป็นเพียงสองร้านที่ครองรางวัล 1 ดาวมิชลินด้วยการเลื่อนระดับมาจากรางวัล “เพลท” (Plate) ซึ่งมอบให้กับร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพดีโดยใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และสะท้อนความสามารถในการปรุงอาหารที่ดี

ในบรรดาร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินปีนี้เป็นร้านที่ติดอับดับในคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ครั้งแรกจำนวน 8 ร้าน โดย 5 ร้านในจำนวนนี้อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ “Canvas” (แคนวาส) ร้านที่ผสานอาหารและศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน อาหารทุกจานเปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกที่เชฟบรรจงรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมโดยใช้เทคนิคประกอบอาหารที่หลากหลาย, “เมธาวลัย ศรแดง” ร้านที่โดดเด่นด้วยอาหารรสชาติเข้มข้นถึงเครื่องและปรุงขึ้นอย่างประณีต จนทำให้ลูกค้าแวะเวียนกลับมาตลอด 60 ปี, “R-Haan” (อาหาร) ร้านที่นำเสนออาหารไทยสไตล์ต้นตำรับ ทั้งอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านและอาหารชาววัง โดยใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศ, “สวรรค์” ร้านอาหารที่นำเสนอเฉพาะเซตเมนูอาหารไทย 10 คอร์ส ซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดเลือกจากแหล่งชั้นดี ทุกจานมีรสชาติและรสสัมผัสที่ซับซ้อนแต่กลมกล่อมและลุ่มลึก และ “ศรณ์” ร้านอาหารที่ได้ชื่อว่าคืนชีวิตให้แก่ศิลปะแห่งอาหารใต้ที่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา โดยใช้วัตถุดิบจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรและชาวประมง ผ่านการปรุงด้วยความรักและความใส่ใจอย่างละเมียดละไมในทุกขั้นตอน

ร้าน 1 ดาวอีก 2 แห่งตั้งอยู่ในจังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพฯ ได้แก่ “เรือนปั้นหยา” (สมุทรสาคร) ธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงจากการบอกต่อกันปากต่อปากด้วยความอร่อยและคุณภาพที่เหนือชั้น โดยเจ้าของร้านบรรจงปรุงทุกเมนูเองอย่างพิถีพิถัน และ “สวนทิพย์” (นนทบุรี) ร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีริมแม่น้ำที่นำเสนออาหารไทยโบราณแสนประณีตสไตล์ชาววัง และมีร้านอาหารแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับรางวัล 1 ดาว นั่นคือ “PRU” (พรุ) ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในรีสอร์ทสุดหรู นำเสนออาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันและจัดแต่งอย่างประณีต วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากฟาร์มออร์แกนิกเนื้อที่ 600 ไร่ของร้านเอง แม้กระทั่งเนยที่ร้านก็ทำเองด้วยนมวัวจากกระบี่

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ร้านอาหาร 3 ร้าน ซึ่งได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ “Elements” (เอเลเมนท์), “Nahm” (น้ำ) และ “เสน่ห์จันทน์” ยังคงสามารถรักษาสถานะดาวของตนเองไว้ได้ แม้จะมีการเปลี่ยนเชฟประจำร้านก็ตาม

อนึ่ง จำนวนร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกและจัดอันดับในคู่มือ “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ตและพังงา” ประจำปี 2562 ประกอบด้วย ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 4 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 1 ร้าน)

ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 23 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 10 ร้าน) และร้านอาหารรางวัล “บิบ กูร์มองด์” จำนวน 72 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 42 ร้าน)

ผู้สนใจสามารถคลิกดูรายชื่อและข้อมูลร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ตและพังงา” ประจำปี 2562 ซึ่งจัดทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ทางเว็บไซต์ www.guide.michelin.com ส่วนคู่มือแบบรูปเล่มจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละ 650 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

“เครือสหพัฒน์ ประชารัฐร่วมใจ” ครั้งที่ 2 ชมแนวคิดโครงการ ร่วมกิจกรรมฟรี 19 พ.ย.นี้

เครือสหพัฒน์ ขอเชิญชาวลำพูนและผู้สนใจ ร่วมงาน “เครือสหพัฒน์ ประชารัฐร่วมใจ” ครั้งที่ ณ สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ลำพูน ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น. พบกับการแสดงผลงานโครงการประชารัฐในเครือสหพัฒน์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาศึกษาวิธีคิดและรายละเอียดการดำเนินงาน เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนาชุมชนของตนเอง และยังมีกิจกรรมพิเศษที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ สาธิตการเย็บถุงผ้า อบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพผิวอย่างถูกวิธีและสอนการแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน อบรมให้ความรู้การดูแลสุขอนามัยช่องปาก ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและสอนวิธีตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองโดยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ กิจกรรมฐานการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมทำสบู่จากสมุนไพร การจำหน่ายสินค้าจากชุมชน และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย

ฉลอง “เทศกาลขอบคุณพระเจ้า” ที่ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่

โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ ขอเชิญทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองเติมเต็มความสุขกับ เทศกาลขอบคุณพระเจ้า บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำบรรยากาศแสนอบอุ่นพร้อมครอบครัวกับเมนูพิเศษเฉพาะเทศกาล อาทิ ไก่งวงอบที่คัดสรรมาอย่างดีแบบตัวโตเนื้อแน่น หมักด้วยซอสสูตรพิเศษให้เนื้อหวานฉ่ำโดยเชฟมืออาชีพของโรงแรมฯ  และอีกหลากหลายรายการที่ไม่ควรพลาด ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.00 – 22.00 น. ณ ห้องอาหารนิมมาน บาร์ & กริลล์ ในราคาเพียงท่านละ 720++ บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ โทร. 053-222-111 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kantarycollection.com

เซรั่มบำรุงผิว PAUL & JOE คุณค่าจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

สำอาง  PAUL & JOE (พอล แอนด์ โจ) จากประเทศฝรั่งเศส แนะนำ PAUL & JOE SERUM (พอล แอนด์ โจ เซรั่ม) เซรั่มบำรุงผิวสามสูตรใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิวที่แตกต่าง ให้ผลลัพธ์แห่งผิวสวย สุขภาพดี ฟูนุ่ม แลดูอ่อนวัย ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ให้คุณเติมพลังให้ผิวในทุกวันอย่างอ่อนโยน ที่เคาน์เตอร์ PAUL & JOE สาขาเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม

ต้อนรับเทศกาลความสุขแห่งปี ด้วย “อัลมอนด์ บรีซ กิ๊ฟ บ็อกซ์”

บลูไดมอนด์ โกรเวอร์ส” สหกรณ์ผู้ผลิตอัลมอนด์จากเมืองซาคราเมนโตรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้อนรับเทศกาลความสุขส่งท้ายปี ด้วย “อัลมอนด์ บรีซ กิ๊ฟ บ็อกซ์” โดยคัดสรรนมอัลมอนด์คุณภาพเพื่อสุขภาพ ทั้ง 6 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล สูตรไม่เติมน้ำตาล รสวานิลลา รสช็อกโกแลต รสมัทฉะ และรสลาเต้ มาในชุดกล่องของขวัญสุดพิเศษเพื่อคนพิเศษ พร้อมบรรจุนมอัลมอนด์คละรส จำนวน 10 กล่อง มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ ชุด “อัลมอนด์ บรีซ กิ๊ฟ บ็อกซ์” รุ่นสีน้ำเงิน วางจำหน่ายเฉพาะที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ มาร์เก็ต ทุกสาขา และ ชุด “อัลมอนด์ บรีซ กิ๊ฟ บ็อกซ์” รุ่นสีฟ้า วางจำหน่ายแล้วที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, แม็คโคร, และร้านค้าชั้นนำทั่วไป ในราคาชุดละ 229 บาท หาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือจนกว่าของจะหมด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2813 0954-5 หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ www.facebook.com/Bluediamondthailand และ IG:Bluediamondthailand

“ไวไว” รสหมูสับ (โฉมใหม่) ซุปกลมกล่อม หอมน้ำมันเจียว

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไว” ขอแนะนำ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว รสหมูสับ ปรับโฉมใหม่” เอาใจคนรักหมูสับ กับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรสหมูสับ ที่สุดของความอร่อยจากส่วนผสมจริงของวัตถุดิบที่สดใหม่ น้ำซุปเข้มข้น กลมกล่อม ได้รสชาติน้ำซุปหมูแท้ๆ เคล้าความหอมของกลิ่นน้ำมันเจียว พร้อมเส้นเหนียวนุ่ม…ไม่อืด ตัวจริงเสียงจริง ตามแบบฉบับของ “ไวไว”

พิสูจน์รสชาติความหอมอร่อยของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” รสหมูสับโฉมใหม่กับซุปกลมกล่อมหอมน้ำมันเจียวได้แล้ววันนี้ในราคาซองละ 6 บาท ที่ร้านค้าสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด โทร.0 2431 1786 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเว็บไซต์ www.waiwai.co.th หรือทาง FB: waiwaifriends