alivesonline.com : บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัด) มหาชน หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เตรียมขายสินค้าใหม่ก๊าซ CBG ให้กลุ่ม ปตท. คาดเซ็นสัญญาเร็ว ๆ นี้ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อขยายตลาดสถานีบริการ NGV ย่านอีสานใต้ เป็น 3,285 ตันต่อปี มั่นใจเปิดใช้บริการ ธ.ค.61 เพิ่มรายได้โตกว่า 15%
นายชัชชัย สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมผลิตก๊าซ CBG ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ โดยเตรียมทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับ กลุ่มปตท. ทั้ง 100% ของกำลังการผลิตคือ 9 พันกิโลกรัมต่อวัน (9 ตันต่อวัน) หรือหากคิดเป็นปีจะสามารถผลิตก๊าซ NGV ได้ประมาณ 3.285 ล้านกิโลกรัมต่อปี (3,285 ตันต่อปี) เพื่อสร้างความมั่นคงของธุรกิจ โดยการขายก๊าซ CBG ให้ กลุ่มปตท. เป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่จะเน้นการขายปลีกให้ลูกค้ารายย่อย เป็นการขายส่งให้กลุ่มปตท เนื่องจาก กลุ่มปตท เป็นทั้งพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญและเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานอันดับหนึ่งของประเทศที่มีความมั่นคงทางธุรกิจสูงสุด ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสที่จะเพิ่มรายได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน การซื้อก๊าซ CBG จาก SKE จะทำให้ กลุ่ม ปตท. สามารถลดต้นทุนในการขนส่งและเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรในธุรกิจ NGV
ในอนาคตอันใกล้ บริษัทฯ ยังเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซ CBG เพื่อเจาะกลุ่มสถานีบริการก๊าซ NGV ในเขตภาคอีสานใต้ อาทิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น โดยเหตุผลที่บริษัทฯ เปิดให้บริการ CBG ล่าช้า เนื่องจากระบบก๊าซ CBG ที่ทางบริษัทฯ ทำออกมาได้มีคุณภาพที่ดีอยู่ที่ 92-94% ซึ่งดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ประมาณ 85% ทำให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับปรุงก๊าซและตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด โดยมั่นใจว่าจะสามารถเปิดใช้บริการภายในเดือน ธ.ค.61 และจะสามารถเริ่มทำการขายก๊าซ CBG เต็มรูปแบบเดือน ม.ค.62
“การลงทุนในครั้งนี้ยังได้รับการอนุมัติเงินทุนสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมการผลิตไบโอมีเทนอัดในสถานประกอบการที่มีระบบก๊าซชีวภาพจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นเงินจำนวน 12 ล้านบาทอีกด้วย โดยภายในต้นปี 2562 จะยังได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร”
นายชัชชัย กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2561 สิ้นสุด 30 กันยายน 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 255.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้ 247.3 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการอัดก๊าซที่เพิ่มขึ้น และในงวดนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 45.16 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังสามารถรักษาโครงสร้างการเงินที่ดี โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ดีคือ 0.15 เท่า และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ประมาณ 40% และอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 18%
“บริษัทฯ คาดว่าในปี 2562 จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักในการบริการอัดก๊าซ NGV ซึ่งขยายตัวตามภาคขนส่งและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการ EEC และการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และเนื่องจากการขายก๊าซ CBG ให้กับปตท. 100% เพื่อสร้างศักยภาพที่ดีให้แก่บริษัทฯ และการเติบโตที่ยั่งยืนในธุรกิจพลังงาน แม้ปัจจุบันจะได้รับผลกระทบบ้างจากการเปิดใช้ท่อก๊าซเส้นใหม่ของกลุ่มปตท. ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงทำให้ก๊าซ NGV ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักของภาคขนส่งขนาดใหญ่ บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีในปีหน้า”
ทั้งนี้ SKE มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร โดยมีธุรกิจหลักคือ ประกอบธุรกิจบริการอัดก๊าซ NGV ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีสถานีก๊าซธรรมชาติของบริษัท 2 สถานี คือ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักปทุมธานี และสถานีก๊าซธรรมชาติหลักสระบุรี ซึ่งมีกำลังการอัดก๊าซสูงถึง 750 ตันต่อวัน โดยบริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคงและมีรายได้สม่ำเสมอมาโดยตลอดและรักษาปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติมากกว่าปริมาณขั้นต่ำตามสัญญาธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักเอกชนที่ทำกับกลุ่มปตท.ซึ่งมีระยะเวลาสัญญานานถึง 20 ปี จะทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ขยายตัวอย่างมีนัยยะ และบริษัทฯ มีพื้นฐานดีและการบริหารต้นทุนที่ดี เชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปจะมีรายได้และกำไรที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นที่เติบโตอย่างมั่นคง