alivesonline.com : “สิงห์ เอสเตท” เปิดตัว โครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ที่สุดแห่งความเอ็กซ์คลูซีฟของบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่อย่างเป็นทางการด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 6 พันล้านบาท ในทำเลสุดศักยภาพบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม บนเนื้อที่โครงการกว่า 45 ไร่ ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงกับสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียง 25 หลัง ในราคาเริ่มต้น 245 ล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” คือโครงการแนวราบโครงการแรกของ สิงห์ เอสเตท มีมูลค่าโครงการสูงถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดเทียบกับโครงการระดับเดียวกัน ถือเป็นก้าวสำคัญของ “สิงห์ เอสเตท” ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครอบคลุมทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบในระดับลักซ์ชัวรี่จนถึงอัลตราลักซ์ชัวรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของที่อยู่อาศัยเพื่อความสุขครอบครัว
สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่นั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ายังมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยในส่วนของ “สิงห์ เอสเตท” ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดเช่นกัน จึงเชื่อว่า โครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” จะทำให้ บริษัทฯ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดที่พักอาศัยระดับบนสุดอย่างแท้จริง
ด้าน นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา และเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2559 ซึ่งมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับจำนวนโครงการต่าง ๆ ในตลาดที่ยังมีน้อย โดยส่วนมากมักเป็นบ้านเดี่ยวแนวสูงที่อยู่ใจกลางเมือง หรือบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณชานเมือง ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนั้นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่และอยู่ในบริเวณรอบใจกลางเมืองจึงน่าจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มในจุดนี้ได้
โครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 45 ไร่ ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นทำเลที่เรียกได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ในขณะนี้ เพราะนอกจากจะเป็นย่านที่ใกล้เมือง มีสภาพแวดล้อมที่ดีแล้ว ยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงเรียนชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นทำเลที่การคมนาคมสะดวกเพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และมีแผนที่จะพัฒนารถไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย
“เราใช้เวลาในการพัฒนาโครงการมานานเกือบ 4 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การทำวิจัยร่วมกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูงเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกว่าความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร ซึ่งเราพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ทั้งยังมีประสบการณ์ในการซื้อและอยู่บ้านที่มีระดับราคาสูง หรือสร้างบ้านของตัวเองมาก่อนแล้ว จึงค่อนข้างใส่ใจในเรื่องรายละเอียดที่ลึกซึ้งและต้องการบ้านที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้จริง ๆ”
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แนวคิดหลักของโครงการ ฯ คือ “CONNOISSEUR OF PLEASANT LIVING” หรือ “ลึกซึ้งถึงทุกรายละเอียดความสุข” ทำให้บริษัทฯ ตั้งใจทำบ้านเดี่ยวที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนบ้านทั้งโครงการเพียง 25 หลัง โดยบ้านแต่ละจะปลูกสร้างอยู่บนที่ดินขนาดไม่น้อยกว่า 1 ไร่ โดยมีพื้นที่กว่า 15 ไร่เป็นพื้นที่ส่วนกลางโดยสร้างทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมที่ดี ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การคัดเลือกสายพันธุ์ต้นไม้ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศและฤดูกาลต่าง ๆ ให้ความสวยงามและความร่มรื่นตลอดทั้งปี
“สำหรับตัวบ้านเราไม่ได้มองแค่ความสวยงามภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการให้บ้านเป็นบ้านที่อยู่สบายตลอดทั้งวันและทุกฤดูกาล เราจึงเลือกที่จะนำรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ LUXURY MODERN TROPICAL มาใช้กับโครงการนี้ เพราะเป็นการออกแบบที่เน้นความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีความทันสมัยและโก้หรู และมีความเหมาะสมกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศไทย บ้านทุกหลังหันหน้าทิศเหนือ-ใต้ มีการนำกระจกบานใหญ่พิเศษเข้ามาเป็นส่วนประกอบของบ้าน เพื่อเปิดรับความเป็นธรรมชาติเข้าสู่ภายใน ทำให้บ้านได้รับแดดและลมในเวลาที่เหมาะสม มีการระบายอากาศที่ดี เรียกได้ว่ามีทั้งความหรูหราและอยู่สบายในเวลาเดียวกัน”
นายณัฐวุฒิ กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของฟังก์ชั่นภายในบ้านมีแบบบ้านมาตรฐาน 3 แบบและมีคาแร็กเตอร์ของฟังก์ชั่นที่ต่างกัน โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการบ้านแบบไหน บนที่ดินแปลงใด นอกจากนั้นหากลูกค้าต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในจากฟังก์ชั่นมาตรฐาน บริษัทฯ ยังยินดีจะทำให้โดยขอควบคุมความสวยงามภายนอก เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านที่ตรงกับความต้องการแต่สิ่งแวดล้อมภายในโครงการยังสวยงามซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่จะซื้อบ้านในระดับราคานี้