alivesonline.com : “นกสกู๊ต” เผยความสำเร็จปี 61 มีการพัฒนาหลายด้านทั้งเพิ่มเส้นทางการบินและบริการ เตรียมแผนเพิ่มฝูงบินอีก 7 ลำ ขยาย 9 เส้นทางการบินไปยังจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อของเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น
นายยอดชาย สุทธิธนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน “นกสกู๊ต” เปิดเผยว่า ในปี 2562 “นกสกู๊ต” จะเริ่มก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 โดยคาดว่าจะมีเครื่องบินใหม่เพิ่มขึ้นอีก 7 ลำ ประกอบไปด้วยเครื่องบินลำตัวแคบจำนวน 5 ลำและเครื่องบินลำตัวกว้างจำนวน 2 ลำ เพื่อใช้ในการขยายเส้นทางเชิงรุกให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียมากขึ้น โดยมีการวางแผนสำหรับเส้นทางบินใหม่ 9 เส้นทางในเมืองสำคัญ ๆ ไปยังประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการบินให้สายการบิน “นกสกู๊ต” ด้วยการให้บริการการเดินทางจากเอเชียเหนือและเอเชียใต้สู่ประเทศไทยได้สะดวกและรวดเร็ว พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่อของเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปี 2561 สายการบิน “นกสกู๊ต” มีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์กรุงเทพฯ – โตเกียว ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น โดยการให้บริการทุกวันในเที่ยวบินนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นสากลและเป็นสายการบินชั้นนำในเอเชีย
ต่อมาเดือนตุลาคม ได้เปิดเส้นทางเที่ยวบินแรกสู่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการขยายเส้นทางการบินไปสู่ท่าอากาศยานเมืองที่สองในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์แผนการขยายเครือข่ายเส้นทางไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยการตกลงของสองประเทศในรูปแบบการจราจรแบบทวิภาคี
“นกสกู๊ต” ยังประสบความสำเร็จในการทำสถิติการบิน ทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินนานาชาตินาริตะตลอดระยะเวลา 3 เดือนแรกของการบินได้ตรงเวลาที่สุด ซึ่งมีคะแนนความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติการบิน (OTP) สูงถึง 94.68% สถิติดังกล่าวทำให้ “นกสกู๊ต” เป็นหนึ่งในสายการบินที่ให้บริการบินที่สนามบินนาริตะที่มีคะแนน OTP ที่สูงและถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากนั้น แคมเปญ “Xi’an Troops” เพื่อโปรโมทเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เมืองซีอาน เมื่อเดือนธันวาคม ยังสามารถคว้ารางวัล Gold Dragon สาขา Best Use of Public Relations และรางวัล Blue Dragon สาขา Best Campaigns by Country จากเวที Dragons of Asia 2018 เวทีมอบรางวัลให้ผลงานการสื่อสารการตลาดที่ได้รับการยอมรับ.o;’d;hk’
“นกสกู๊ต” ยังเปิดตัวเมนูอาหารใหม่เพื่อพร้อมเสิร์ฟบนความสูง 34,000 ฟุต และการเปิดครัว “นกสกู๊ต คาเฟ่” เพื่อรองรับการขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ ๆ พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้นของผู้โดยสาร โดยล่าสุดคือการเปิดตัวเส้นทางการบินล่าสุดกรุงเทพฯ – เดลี ประทศอินเดีย เมื่อเดือนธันวาคม
“นกสกู๊ต” ให้บริการเที่ยวบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 415 ที่นั่ง แบ่งเป็นชั้นธุรกิจ (ScootBiz) 24 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 391 ที่นั่ง โดยผู้โดยสารสามารถเลือกประสบการณ์การเดินทางได้ตามที่ต้องการและจ่ายเฉพาะสิ่งที่ผู้โดยสารเลือก อาทิ ตำแหน่งที่นั่ง อาหาร การเพิ่มน้ำหนักสัมภาระ รวมไปถึงบริการอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังเอาใจผู้โดยสาร โดยเพิ่มการให้บริการด้านการขนส่งสัมภาระจากเส้นทางการบินภายในประเทศของสายการบิน “นกแอร์” คือ เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ไปยังเส้นทางระหว่างประเทศของสายการบิน “นกสกู๊ต” คือ โตเกียว และเทไป
สายการบิน “นกสกู๊ต” ให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยให้บริการเส้นทางบินไปยังเมืองนานกิง ชิงเต่า เสิ่นหยาง เทียนจิน และซีอาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน เมืองนาริตะ และเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และเดลี ประเทศอินเดีย