New Issues » “โฮมโปร” โชว์ศักยภาพรับความเปลี่ยนแปลงปี 62

“โฮมโปร” โชว์ศักยภาพรับความเปลี่ยนแปลงปี 62

3 กุมภาพันธ์ 2019
0

alivesonline.com : “โฮมโปร” โชว์ผลกำไรเฉลี่ย 29% ต่อปี เผยกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยอดขายพุ่งเป็นสัดส่วนถึง 30% เตรียมเสริมสินค้าเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกลุ่มอสังหาฯ เร่งปรับทัพใหม่ใช้เทคโนโลยีพัฒนาช่องทางจำหน่ายออนไลน์ 24 ชั่วโมง พร้อมพัฒนาระบบ ASRS ในศูนย์กระจายสินค้า ใช้หุ่นยนต์ช่วยจัดเก็บและกระจายสินค้าเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายสินค้า

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ“โฮมโปร” เปิดเผยว่า ตลอดปี 2561 บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บริหารการใช้สินทรัพย์ได้คุ้มค่า รวมถึงบริหารอัตรากำไร หรือ GP ได้สูงขึ้น มีกำไรเฉลี่ย 29% ต่อปี ทำให้ภาพรวมของบริษัทฯ มีกำไรเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เติบโตไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาล สร้างความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล “องค์กรที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” (Outstanding Sustainability Awards) และรางวัล “บริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน” DJSI (Dow Jones Sustainability Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในปี 2562 “โฮมโปร” จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เริ่มตั้งแต่ชุดเครื่องแบบพนักงานที่ใช้กันในทุกระดับ ไม่มีการแบ่งแยกตำแหน่งใด ๆ เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมมีนโยบายกระตุ้นพนักงาน ให้รู้จักการ “ปรับตัว เปลี่ยนแปลง อย่างแข็งขัน” นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยพร้อมใช้งานแอปพลิเคชัน “Home Service App” ที่มีการปรับเวอร์ชั่นใหม่เรียบร้อยแล้ว

นายคุณวุฒิ กล่าวต่อไปว่า “โฮมโปร” ยังมุ่งเน้นจุดยืนการเป็นผู้นำด้าน Home Solution and Living Experience ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเน้นย้ำเรื่องสินค้าใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์และคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนารูปแบบนวัตกรรมของสินค้าและบริการ พร้อมทั้งให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตลอดจนถึงการส่งมอบสินค้า และบริการที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย

ปัจจุบัน “โฮมโปร” มีสินค้าตกแต่งบ้านที่พร้อมอัพเดทเทรนด์ใหม่ตลอดปีและยังจัดทำ QR Code ติดที่ป้ายราคาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECO Choice 6 กลุ่มสินค้า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด ได้แก่ 1.กลุ่มสินค้าปลอดภัย ยอดจำหน่าย 36.6 ล้านชิ้น 2.กลุ่มสินค้าประหยัดพลังงาน ยอดจำหน่าย 3.1 ล้านชิ้น 3.กลุ่มสินค้าลดก๊าซเรือนกระจก ยอดจำหน่าย 3.5 ล้านชิ้น 4.กลุ่มสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยอดจำหน่าย 0.9 ล้านชิ้น 5.กลุ่มสินค้าประหยัดน้ำ ยอดจำหน่าย 1.4 ล้านชิ้น 6.กลุ่มสินค้ารักษาป่าไม้ ยอดจำหน่าย 46,384 ชิ้น นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาสินค้าของกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัย เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย

นอกจากสินค้าเพื่อกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปแล้ว “โฮมโปร” ยังได้รองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ๆ เช่น สินค้าประเภทเครื่องนอนสำหรับลูกค้ากลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท, เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลากสไตล์สำหรับร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมไปถึงกลุ่มโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น กระเบื้อง และสุขภัณฑ์ เป็นต้น

“โฮมโปร” ยังมีทีมช่างมืออาชีพผู้ชำนาญการที่มีความรู้ในงานปรับปรุงบ้านที่มีบริการครบวงจร ตรวจสุขภาพบ้าน ตรวจสอบการทำงานของระบบภายในบ้านต่าง ๆ ออกแบบ 3 D Design บริการติดตั้ง ตกแต่ง ซ่อมแซม ตรวจเช็ค และบำรุงรักษา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งสามารถควบคุมงบประมาณและเวลาได้ตามต้องการ

นายคุณวุฒิ กล่าวด้วยว่า .ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย e-Commerce ได้พัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยีสู่ Omni Channel เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ พร้อมช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า และบริการของ “โฮมโปร” ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งบริการจัดส่ง ติดตั้ง และรับประกันคุณภาพภายใต้มาตรฐาน “โฮมโปร” และยังเสริมด้วยการวางมาตรฐานด้านระบบซัปพลายเชน ทั้งการจัดหาสินค้า การสั่งซื้อสินค้า การกระจายสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บสินค้า ด้วยการนำหุ่นยนต์มาใช้ในศูนย์กระจายสินค้า ภายใต้ระบบ ASRS โดยใช้หุ่นยนต์ในการจัดเก็บและกระจายสินค้า เพื่อความรวดเร็วในการจ่ายสินค้าได้ 24 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“โฮมโปรเดินทางมายาวนานถึง 23 ปีแล้ว ในปี 2562 จึงถือเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้านที่สูงขึ้นทั้งเทคโนโลยี เศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบในการดำเนินงานทุกภาคส่วนในองค์กร ซึ่งต้องยอมรับว่าในวันแรกที่เราเริ่มเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่สมบูรณ์แต่เราต้องแข็งขันกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อปรับให้สมบูรณ์อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นเราต้องยึดมั่นกับ 3 สิ่งคือ ปรับตัว ยอมรับการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าและแข็งขันอย่างเอาจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเราทำ 3 สิ่งนี้ให้สำเร็จได้ โฮมโปร จะก้าวต่อไปแบบกราฟขึ้นตลอดยาวนาน” นายคุณวุฒิ กล่าวในตอนท้าย