Variety » อาหารไทย…ฟีลนี้ต้อง “ฟิวชั่น”

อาหารไทย…ฟีลนี้ต้อง “ฟิวชั่น”

17 กุมภาพันธ์ 2019
0

alivesonlime.com : เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปและชอบการผสมผสานของวัฒนธรรม รวมถึงความโมเดิร์นและสมัยใหม่ จึงดูเป็นเรื่องธรรมดาที่คนยุคนี้จะชื่นชอบความแปลกที่ไม่เหมือนใครในเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกินสไตล์ “ฟิวชั่น ฟู้ด”

อะไรคือ “ฟิวชั่น ฟู้ด” ?

นาทีนี้คงไม่ต้องสาธยายให้มากความว่าเป็นอาหารอีกสไตล์หนึ่งที่ผสมผสานกันระหว่างวัตถุดิบและสไตล์อาหารตั้งแต่ 2 สัญชาติขึ้นไป หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น “อาหารลูกครึ่ง” นั่นเอง เพียงแต่การประกอบอาหารสไตล์นี้จำเป็นต้องคำนึงถึงความลงตัวของรสชาติ รวมถึงการจัดแต่งรูปร่างหน้าตาของอาหารนั้น ๆ ให้มีความเก๋ไก๋สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอาหารเพื่อแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การจัดงานเทศกาลมหกรรมอาหารAOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPOSEASON 4” ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ภายใต้ความรับผิดชอบของหัวเรือใหญ่ผู้จัดงานคือ ‘ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์’ บุตรชายคนโตของพิธีกรชื่อดัง ‘ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์’ จึงต้องการสร้าง “ความแตกต่าง” จากการจัดงานในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากกระแสเสียงเรียกร้องจากบรรดาแฟน ๆ รายการ จึงทำให้เขาเพิ่มเติมการนำเสนอ “เมนูอาหารนานาชาติ” ที่คัดสรรมาร่วม 20 ร้าน

ในขณะที่บรรยากาศของงานยังเพิ่มความแปลกใหม่มากขึ้นนอกเหนือจากการออกบูธของร้านอาหารชื่อดังกว่า 200 ร้านแล้วคือ การจัดพื้นที่ “Live Exhibition” เพื่อนำเสนอและสาธิตวิธีการทำกันแบบติดขอบเวทีกับเรื่องราวขนมไทยชั้นประณีต กับ ขนมอาลัวสดร้อยมาลัย ที่ผู้ร่วมงานจะได้โอกาสมาร่วมทำขนมนี้กันจริง ๆ กับวิทยากร หรือการสาธิตแกะสลักแต่งจานเพื่อเพิ่มมูลค่าอาหาร การแสดงความแตกต่างระหว่างอาหารไทยฟิวชั่น อาหารไทยโมเดิร์น และอาหารไทยร่วมสมัย หรือจะเป็นการแสดงต้นกำเนิดของขนมไทยโบราณ ที่มาของชื่อขนมแต่ละชนิด และสอนการนำวัตถุดิบพื้นถิ่นมาทำเป็นเมนูนวัตกรรมใหม่ หรือเมนูใหม่ให้เป็นจริงขึ้นมา ขายได้ ทานอร่อยและส่งออกได้ ทำให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมซึมซับเนื้อหาในรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่เกี่ยวกับอาหารไทยที่ตกทอดและส่งต่อภูมิปัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแนวทางสานต่อสู่อนาคต ตลอดจนในงานจะพบเมนูหายากและวัตถุดิบสุดพิเศษจากทั่วประเทศ

นอกจากนั้น ยังมีการนำเสนอ “เมนูอาหารฟิวชั่น” จากการทำเมนูอาหารไทยดั้งเดิมด้วยมือสู่การใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาให้เป็นเมนูอาหารตะวันออกรสจัดจ้านผสมผสานเข้ากับความกลมกล่อมของอาหารสไตล์ตะวันตก ขณะเดียวกันยังได้เชิญนักวางแผนการตลาดชื่อดังมาร่วมให้คำแนะนำเคล็ดลับการทำอาหารให้ลูกค้าติดใจสำหรับผู้สนใจนำไปต่อยอดธุรกิจในลักษณะ “ทำเองก็ง่าย ทำขายก็รวย”

  • แนวคิดและเสน์ห์การจัดงานครั้งที่ 4

‘ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์’ บอกถึงแนวคิดการเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ๆ ในงาน “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” ครั้งนี้ว่า เขาอยากให้เจ้าของร้าน หรือผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธ มองถึงโอกาสในการสร้างแบรนด์ หรือสร้างการรับรู้ไปยังผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนนับแสนรายมากกว่าจะคิดถึงเพียงยอดขายที่จะทำได้เฉพาะช่วงเวลาการจัดงานเพียง 4 วันเท่านั้น เพราะประโยชน์ที่จะได้รับภายหลังจากการจัดงานถือว่ามีมูลค่ามากกว่าหลายเท่านัก”

เขายังบอกด้วยว่า อยากทำให้งานมีเสน่ห์มากกว่ามีคนมางานเพื่อซื้ออาหาร แต่อยากให้ผู้มาร่วมงานได้เห็นคุณค่าของอาหารไทยว่าอาหารบางชนิดบางประเภทถ้าขาดการสนับสนุนจากผู้ซื้อ หรือคนไทยด้วยกันแล้ว อาหารไทยย่อมมีโอกาสที่จะสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย ขณะเดียวกันถ้าทุก ๆ ฝ่ายต่างมีส่วนร่วมกันพัฒนาอาหารไทยแล้ว การยกระดับอาหารไทยสู่ครัวโลกอาจเห็นผลในเร็ววันก็เป็นไปได้

“โดยเฉพาะในส่วนของเมนูอาหารฟิวชั่นซึ่งถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการจัดงานครั้งนี้ถือได้ว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ทั้งผู้มาร่วมงานและเจ้าของร้านที่มาร่วมออกบูธ เพราะถือเป็นการต่อยอดความคิดในการเพิ่มมูลค่าให้รายการอาหารธรรมดา ๆ ได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะการใช้วัตถุดิบที่คัดสรรเป็นพิเศษเพื่อนำมาผสมผสานกับอาหารที่หลาย ๆ อาจคุ้นชิน แต่เมื่อพัฒนาเป็นเมนูใหม่ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างเกินคาดก็เป็นไปได้ โดยสิ่งสำคัญในการทำอาหารฟิวชั่น เราต้องมีความเข้าใจในรสชาติของอาหารแต่ละชนิดและสไตล์การตกแต่งอาหารแต่ละชาติ โดยใช้จินตนาการมาสร้างสรรค์อาหารใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความสุขให้ผู้มีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรส”

  • EST.33 รังสรรค์เมนูอาหารจากส่วนผสมของ “เบียร์”

หนึ่งในร้านอาหารฟิวชั่นที่มาร่วมออกงาน “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” คือ EST.33 จากค่าย “สิงห์ คอร์ปอเรชั่น” ซึ่งปัจจุบันมี 4 สาขาคือ The Nine พระราม 9, CDC, The Up พระราม 3 และสิงห์ คอมเพล็กซ์ โดยแต่ละสาขาล้วนมีอาหารสูตรเด็ดตามที่ เชฟใหญ่ ‘ปิ๊ก สรมย์เวท ธีระพจน์’ บอกคือ เมนูอาหารทุกชนิดล้วนมีส่วนผสมของเบียร์!

เริ่มจาก “ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิวรสเผ็ด” (Spicy Roasted Bier-B-Q Pork Ribs) ซึ่งมีความพิเศษที่ความนุ่มของซี่โครงเพราะใช้เบียร์ตุ๋น พร้อมกับใช้ซอสถึง 33 ชนิด โดยมีอุปกรณ์หลักที่ใช้เสิร์ฟคู่กันคือ “ตะเกียบ” เพื่อให้ลูกค้าพิสูจน์ได้ถึงความนุ่มของซี่โครงที่สามารถคีบซี่โครงให้หลุดออกมาได้อย่างง่ายแสนง่าย ที่สำคัญความพิเศษของเมนูนี้ยังการันตีด้วยรางวัล Superior Tasted Award 2016 จากสถาบัน International Taste & Quality Institute (ITQI) ประเทศเบลเยียม

 

‘เชฟปิ๊ก’ ยังแนะนำอาหารเด่นอีก 2 เมนูคือ “พาสต้าผัดพริกขิง” ซึ่งนำเส้นพาสต้ามาผัดร่วมกับปลาดุกฟูผัดพลิกขิง จึงทำให้เมนูนี้มีความเป็นลูกครึ่ง อิตาเลียน-ไทย” ส่วนอีกเมนูคือ “ทงคัตสึ บอมบ์” ซึ่งเป็นหมูทอดสไตล์ญี่ปุ่น แต่เพิ่มเติมชีสสไตล์ยุโรปเข้าไปด้านใน จนทำให้เวลากินจะมีความรู้สึกเหมือนชีสทะลักอยู่ในปาก ส่วนอาหารอื่น ๆ ที่มีอยู่มากมายเกือบ 100 รายการนั้นส่วนใหญ่มีรสจัดจ้านสไตล์ไทย ๆ ถึง 70% เลยทีเดียว

  • “ราดหน้าอาหลิว” ต้นตำรับเส้นสปาเก็ตต้ดำรายแรกของไทย

อีกหนึ่งร้านที่ต้องพูดถึงเพราะมีความโดดเด่นในการรังสรรค์เมนูจนมีความแปลกใหม่และคงคุณค่าความอร่อยคือ “ราดหน้าอาหลิว” ร้านอาหารชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของคนนอนดึกย่านฝั่งธนฯ ใกล้กับสะพานซังฮี้ เยื้องห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี เพราะร้านนี้เปิดมานานกว่า 50 ปีแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ร้านนี้ยังเปิดขายตลอดเวลา 24 ชั่วโมง !

แน่นอนว่าเมนูหลักของร้านนี้ย่อมหนีไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ข้าวผัดหมูอาหลิว ข้าวราดหน้าอาหลิวไข่มะตูม ข้าวคะน้าหมูหมักน้ำมันหอย ข้าวกะเพราหมูอาหลิว นอกจากนี้ยังมีอาหารกินเล่นอีกหลายรายการ เช่น หมูหมักอาหลิวจิ้มแจ่ว, หมูผัดอาหลิว, หมูสะเต๊ะ, คะน้าซอสน้ำมันหอย, แฮ่กึ๊น, ทอดมันกุ้ง

แต่ที่ถือว่า “ฟิวชั่นสุด ๆ ” คือการนำสปาเกตตีเส้นดำที่ทำจากหมึกปลาหมึกมาเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เจ้าแรกของไทย เพราะเจ้าของร้าน “ราดหน้าอาหลิว” คือ ภรรยาเจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ “GIANNI” ซอยต้นสน ถนนสุขมวิท นั่นเอง

“สปาเกตตีเส้นดำราดหน้าอาหลิว” ยังโดดเด่นที่ความนุ่มของเนื้อหมูหมัก ปรุงสดจานต่อจาน ทั้งยังมีเมนูพิเศษคือ “เส้นดำชุบไข่” ซึ่งต้องท้าให้ลองกินทั้งที่ร้าน หรือจะซื้อกลับบ้านก็จะมีน้ำราดหน้าสำเร็จแยกให้ต่างหากอีกด้วย

มาถึงตรงนี้ คงไม่แปลกนักถ้าจะบอกว่า นักชิมทั้งหลายต้องนับวันรอพบกับความแปลกใหม่ของเมนูอาหารต่าง ๆ ที่จะ “ไปกันได้อย่างไม่ผิด” ในงาน “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี