New Issues » ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์สัญชาติเบลเยียม ทุ่มงบลงทุนกว่า 450 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่คลังสินค้ามาบตาพุด

ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์สัญชาติเบลเยียม ทุ่มงบลงทุนกว่า 450 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่คลังสินค้ามาบตาพุด

22 มีนาคม 2019
0

alivesonline.com : “คาทูน นาที” ผู้นำด้านโลจิสติกส์ครบวงจรระดับโลก สัญชาติเบลเยียม มั่นใจศักยภาพไทยเอื้อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ขยายการลงทุนกว่า 450 ล้านบาท สร้างคลังสินค้าสุดไฮเทคเพิ่มในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ภายใต้แนวคิด “โลจิสติกส์ โซลูชั่น” ชูการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า พร้อมตั้งเป้าปี 2565 สร้างรายได้กว่า 2 พันล้านบาท

นายเฟอร์นานด์ ฮัทส์ ประธานกลุ่ม “คาทูน นาที” ผู้นำด้านโลจิสติกส์ครบวงจรระดับโลก สัญชาติเบลเยียม เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีเครือข่ายให้บริการมากกว่า 165 แห่งครอบคลุมทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมถึงเอเชีย ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย โดยมีรูปแบบการให้บริการด้านขนส่งและบริการคลังสินค้า ในลักษณะ Ready Build Warehouse (RBW) และ Built to Suit (BTS) ซึ่งมีมาตรฐานโครงสร้างคลังสินค้าที่มีเทคโนโลยีและระบบวิศวกรรมแบบครบวงจร พร้อมการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมความต้องการทุกประเภท ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เครื่องจักร สินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็น แช่แข็ง และสินค้าเกษตร เป็นต้น รวมถึงบริการด้านการขนส่ง การจัดการ และการเก็บสะสมงานศิลปะสำหรับพิพิธภัณฑ์ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยบริษัทฯ ได้ออกแบบสโตร์เก็บผลงานศิลปะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ แสงสว่าง และความปลอดภัยโดยได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการศิลปะโดยเฉพาะ

“คาทูน นาที” ได้เข้ามาลงทุนด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทยเป็นเวลา 20 ปี ภายใต้ชื่อ บริษัท คาทูน นาที (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท คาทูน นาที เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยงบการลงทุนรวมกว่า 9 พันล้านบาท เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพในพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งด้านระบบการขนส่งภายในประเทศและการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อไปสู่ประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศ CLMV จึงได้เปิดให้บริการด้านโลจิสติกส์ภายใต้แนวคิด “โลจิสติกส์ โซลูชั่น” ทั้งคลังสินค้า (Warehouse) ในลักษณะ RBW และ BTS ที่ใช้ระบบการออกแบบและการดำเนินงานตามมาตรฐานของบริษัทฯ รวมถึงบริการคัดแยกและบรรจุผลิตภัณฑ์ (Packaging) จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง รวมพื้นที่ทั้งหมด 4 แสนตารางเมตร แบ่งออกเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และสินค้าอุปโภคบริโภค ณ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จำนวน 2 แห่ง กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีชนิดพิเศษ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง จำนวน 2 แห่ง

ล่าสุด บริษัทฯ ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 450 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้าใหม่ขึ้นมาอีก 1 แห่ง บริเวณนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จ.ระยอง ขนาดพื้นที่ 1.8 หมื่นตารางเมตร เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้าในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor (EEC) โดยเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่มีเครื่องมือและระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยสำหรับเคมีภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ

นายเฟอร์นานด์ กล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพที่มั่นคง เห็นได้จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีกลุ่มนักลงทุนบริษัทต่างชาติหันเข้ามาลงทุนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งตลาดทางด้านโลจิสติกส์ที่น่าดึงดูดกลุ่มนักลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาระบบให้สอดรับกับการเป็น “โลจิสติกส์ โซลูชั่น” รวมถึงการขยายศูนย์กระจายสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยตั้งเป้าในปี 2565 จะสามารถสร้างรายได้กว่า 2 พันล้านบาทต่อปี จากเดิมที่ทำได้ประมาณ 1.5 พันล้านบาทต่อปี