alivesonline.com : บลจ.วี พร้อมให้บริการด้านกองทุนรวมอย่างเป็นทางการแล้ว ประเดิมเปิดเสนอขาย IPO 2 กองทุนตราสารหนี้ WE-MONEY และ WE-INCOME เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศที่สร้างโอกาสผลตอบแทนส่วนเพิ่มในภาวะดอกเบี้ยเงินฝากในระดับต่ำ เล็งเปิดตัวกองทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี) เปิดเผยว่า บลจ. วี เกิดขึ้นโดยมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่สร้างผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ พร้อมด้วยความหลากหลายด้านนวัตกรรมทางการเงิน และมุ่งที่จะออกแบบกองทุนรวมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันเพื่อความมั่งคั่งของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “We design your wealth…We grow together”
บลจ.วี ก่อตั้งโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดเงินและตลาดทุน มีประสบการณ์ในธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนและธุรกิจหลักทรัพย์มานานกว่า 20 ปี ดังนั้นผู้ลงทุนจึงเชื่อมั่นได้ว่า บลจ. วีมีความชำนาญทั้งในด้านการสรรหาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 โดยในช่วงแรกพร้อมให้บริการด้านกองทุนรวมให้นักลงทุนผ่านช่องทางการขายคือ ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Selling Agent) ของบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นายอิศรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2562 ซึ่งประเมินว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังสามารถเติบโตได้ดี แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังสามารถเติบโตได้ดีที่ระดับ 2.3-2.5% แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1/62 อาจจะชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผลกระทบจากเรื่องสงครามการค้า แต่คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในปลายไตรมาส 2/62 ดังนั้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในภาพรวมยังเป็นการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ยังมีแนวโน้มที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นต่อไป
“ในส่วนของเศรษฐกิจไทยด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง ภาพรวมของเศรษฐกิจที่สามารถเติบโตได้ที่ระดับ 3.5-4% ในปีนี้ ดังนั้น บลจ.วี จึงมีแผนที่จะนำเสนอกองทุนใหม่ที่มีนโยบายลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดี”
ด้าน นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ. วี กล่าวว่า บลจ.วี มุ่งเน้นการออกแบบกองทุนรวมที่สนองตอบความต้องการของนักลงทุนเป้าหมาย โดยในช่วงแรก บลจ.วี จะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 2 กองทุนที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากตลาดเงินในปัจจุบัน จึงคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่จากช่องทางการขายของ KTBST ที่มีฐานลูกค้าบุคคลธรรมดารายใหญ่ (High Net Worth) ซึ่งต้องการหาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากเงินฝากธนาคารในภาวะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ จากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ บลจ.วี พร้อมเสนอขายกองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ได้แก่ กองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต (WE-MONEY) กองทุนตลาดเงินเหมาะสำหรับการบริหารสภาพคล่องระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน มีความเสี่ยงต่ำ ลงทุนในเงินฝาก ตราสารภาครัฐ ตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยกองทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 18-19 มีนาคม 2562
หลังจากนั้นจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด วี ฟิกซ์ อินคัม ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (WE-INCOME) มีนโยบายลงทุนในพันธบัตร หรือตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) เป็นหลัก และกระจายการลงทุนบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non–Investment Grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ระยะสั้นที่มีฐานะทางการเงินและมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยกองทุนมีสภาพคล่องสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ประมาณวันที่ 21-22 มีนาคม 2562 นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะออกกองทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า เช่น กองทุนประเภทคอมเพล็กรีเทิร์น, กองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ และกองทุนต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี จำกัด โทร.0 2648 1555 หรือ www.weasset.co.th และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร.0 2648 1111
ทั้งนี้ การลงทุน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยกองทุน WE-INCOME ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนได้ในระดับสูงเท่านั้น