alivesonline.com : “เฮเฟเล่ กรุ๊ป” กวาดยอดขายในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ระบบควบคุมการเข้าออกอาคาร และระบบไฟส่องสว่าง LED จาก 150 ประเทศทั่วโลก รวม 1,397 ล้านยูโร ส่วนประเทศไทยกวาดรายได้กว่า 3.7 พันล้านบาท มียอดขายเป็นอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ
นางซิบิลี เธียเรอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานใหญ่ ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทลูกของเฮเฟเล่ในต่างประเทศรวม 37 แห่ง มีการเติบโต 2.3% ทำให้ภาพรวมของบริษัทฯ เป็นบวก โดยบริษัทแม่ในประเทศเยอรมนีและบริษัทลูกทั้ง 5 แห่งที่เป็นบริษัทผู้ผลิตมีการเติบโตเล็กน้อยที่ 0.4% จากธุรกิจส่งออก โดยในปีที่ผ่านมาหลายประเทศมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง อันเนื่องมาจากปัจจัยหลาย ๆ ด้าน ทั้งความหวังที่จะได้ข้อยุติในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนก็ลดลง ในขณะที่ประเทศตุรกีและอาร์เจนตินาก็ประสบกับภาวะวิกฤติค่าเงิน ส่วนบราซิลก็มีปัญหากับสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนทางฝั่งยุโรปตะวันตก บรรยากาศทางเศรษฐกิจแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง และการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร หรือ Brexit ก็ยังคงส่งอิทธิพลต่อสภาวะตลาด ส่วนตลาดในเอเชียและยุโรปตะวันออกยังคงไปได้ดี
ในปี 2562 เรายังคงเดินหน้าลงทุนในตลาดใหม่ ๆ และลงทุนพัฒนาสินค้าใหม่พร้อมกับยกระดับกระบวนการสร้างคุณค่าจากการผลิตสินค้าไปจนถึงกระบวนการขนส่งและกระจายสินค้า โดยมีแผนลงทุนประมาณ 73 ล้านยูโรในด้านการตลาด การขนส่งและกระจายสินค้า ระบบไอที และการผลิตในปี 2562 ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคตท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางตลาดที่ท้าทายมากขึ้น โดยในปีนี้ “เฮเฟเล่” ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในระดับ 4-6% โดยยังคงมองเห็นความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งด้านอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูง ตลอดจนเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในหลายประเทศ
ด้าน นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับ เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) มียอดขายเป็นอันดับที่ 3 ของ “เฮเฟเล่” ทั่วโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอังกฤษ และมียอดขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับ ประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ ในกลุ่มของบริษัท “เฮเฟเล่” ทั่วโลก โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 มียอดขายเติบโตเป็น 2 หลักซึ่งเป็นไปตามทิศทางการ ดำเนินธุรกิจในปี 2562 ที่คาดว่าจะทำยอดขาย ถึง 4 พันล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายจากสินค้าในหมวดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เช่นเดียวกับยอดขายของสินค้ากลุ่มอื่น ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
“ในปีนี้ เฮเฟเล่ มีการขยายคลังสินค้าที่ศูนย์กระจายสินค้า บางนา-ตราด กม.22 โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 350 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าอีกมากกว่าหนึ่งเท่าตัว รวมเป็นพื้นที่ 2.4 หมื่นตารางเมตร เพื่อผลักดันให้พร้อมสำหรับการฉลองครบรอบปีที่ 25 ของ เฮเฟเล่ ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังได้ออกแบบและปรับปรุง เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ ในกรุงเทพฯ ที่ ซอยสุขุมวิท 64 และอัพเกรดเฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สาขาอื่น ๆ ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 40 ล้านบาทอีกด้วย”
นายโฟลเคอร์ กล่าวในตอนท้ายว่า ตลอดระยะเวลา 25 ปี เฮเฟเล่ ประเทศไทย เติบโตและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น เป็น 3.7 พันล้านบาท โดยในปี 2561 มีพนักงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 พันคน มีสินค้าคงคลังจำนวนมาก รวมมูลค่ามากกว่า 1.7 พันล้านบาท มีสินค้ามากกว่า 2 หมื่นรายการ และมีสินค้ามากกว่า 5 หมื่นรายการที่พร้อมส่งจากประเทศเยอรมนีภายใน 7 วันทำการทางเครื่องบิน
เสริมความแกร่งให้กับความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์
“เฮเฟเล่” เน้นขยายบริการด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักสู่ความสำเร็จของบริษัทฯ โดย ศูนย์กระจายสินค้าแห่งที่ 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่เมือง Lehrte ใกล้กับเมือง Hanover ซึ่งจะให้บริการลูกค้าในแถบตอนเหนือของประเทศเยอรมนีและประเทศใกล้เคียง โดยการขยายศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงการขยายเวลาการรับคำสั่งซื้อและสามารถส่งสินค้าไปยังลูกค้าในประเทศเยอรมนีได้ภายในวันเดียวกัน
การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในด้านระบบไฟส่องสว่าง
จากการเข้าซื้อกิจการของ “Nimbus” ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบไฟห้องระบบ LED คุณภาพสูงของประเทศเยอรมนีเมื่อช่วงต้นปี โดย “เฮเฟเล่” อยู่ระหว่างการขยายธุรกิจให้กว้างกว่าระบบไฟเฟอร์นิเจอร์ โดย นางซิบิลี เธียเรอร์ กล่าวว่า “เฮเฟเล่” ได้รับการยอมรับในตลาดทางด้านระบบไฟ LED ภายใต้แบรนด์ Loox และในอนาคต “เฮเฟเล่” จะนำเสนอระบบไฟ LED ที่ตอบโจทย์แบบองค์รวม สำหรับการติดตั้งในอาคาร และโครงการต่าง ๆ ให้พันธมิตรและคู่ค้า
เพิ่มโอกาสในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ 200 คน
ในปี 2561 จำนวนพนักงานของบริษัทฯ ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 200 คน ทำให้บริษัทฯ มีจำนวนพนักงานรวมทั้งหมด 7.8 พันคน โดยในประเทศเยอรมนี จำนวนพนักงานประจำ พนักงานฝึกงานและนักศึกษายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีจำนวนพนักงานรวม 1.6 พันคน “เฮเฟเล่” ได้เตรียมโครงการฝึกอบรมเพื่อเสริมทักษะความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ จึงได้เพิ่มตำแหน่งฝึกงานด้านอี-คอมเมิร์ซ พร้อมกับจัดตำแหน่งงานให้กับนักศึกษาที่เรียนด้านบริหารธุรกิจและนักศึกษาที่เรียนด้านการบริหารธุรกิจดิจิตัล ซึ่งเดิม “เฮเฟเล่” มีตำแหน่งฝึกงานให้กับนักศึกษาฝึกงานทางด้านค้าส่งและการค้าระหว่างประเทศ และมีโครงการศึกษาอบรมที่เป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Baden-Wuerttemberg Cooperative State University (DHBW)
โซลูชั่นแบบครบวงจร 360 สำหรับงานด้านโรงแรม
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรม “เฮเฟเล่” ได้สนับสนุนความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติที่มาพร้อมความชำนาญระดับท้องถิ่น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับตลาดโรงแรมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นงานที่ “เฮเฟเล่” มีความเชี่ยวชาญทั้งอุปกรณ์ติดตั้ง เฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่งทางสถาปัตยกรรม ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุก ๆ ส่วนงานด้านการก่อสร้าง กลุ่มบริษัทยังเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติและขยายความเชี่ยวชาญในด้านการให้คำปรึกษาผ่านการเรียนการสอนและการฝึกอบรม ผู้เชี่ยวชาญด้านงานโรงแรมของบริษัทให้การสนับสนุนสถาปนิก บริษัทก่อสร้าง โรงแรม ผู้วางผังทางเทคนิค ผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ประกอบชิ้นส่วนสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผนเบื้องต้นไปจนถึงการเริ่มดำเนินงาน ทั้งนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญตลาดโลก ความรู้ทางด้านผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษาที่ไม่อิงผู้ผลิตรายใด ถือเป็นเสาหลักของโซลูชั่นแบบครบวงจร 360° ของ “เฮเฟเล่” สร้างประโยชน์ให้แก่เชนโรงแรมระดับโลก โรงแรมและโฮสเทลที่ดำเนินธุรกิจเองหรือดำเนินการโดยธุรกิจครอบครัว
“เฮเฟเล่” ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมแห่งการพัฒนาจำนวนมาก อาทิ กระจกห้องน้ำอัจฉริยะที่ฟังเพลงและปรับโทนสีได้ ตู้เก็บของดีไซน์ใหม่พร้อมฟังก์ชันภายใน กุญแจห้องพักโรงแรมที่ล็อกด้วยสมาร์ทโฟน หน้าจอดิจิตัลเพื่อควบคุมอาคาร ระบบกุญแจไดอะล็อก หรือระบบควบคุมการล็อกอิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมสัญญาณเชื่อมต่อระบบเครือข่าย และระบบควบคุมการเข้าออกอาคาร พร้อมการทำงานแบบอัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชัน “เฮเฟเล่ คอนเน็ค” (Häfele Connect) สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงการได้รับการยอมรับในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรของ “เฮเฟเล่”
ผู้นำเทรนด์ฟังก์ชันการทำงานแบบอัจฉริยะเพื่อโลกดิจิทัล
“เฮเฟเล่” ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ยังเป็นผู้บุกเบิกในตลาดสมาร์ทโฮมที่มีการเติบโตสูง ด้วยการจัดทำ Häfele Connect ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตสามารถควบคุมแสงเสียงและอุปกรณ์ไฟฟ้าในเฟอร์นิเจอร์ผ่านระบบเครือข่าย มี Loox ระบบไฟ LED และกล่องเซิร์ฟเวอร์ Häfele BLE เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับระบบดังกล่าวนี้ “เฮเฟเล่” ได้กรุยทางสู่โลกอัจฉริยะของเฟอร์นิเจอร์และห้องต่าง ๆ เพื่อผู้ใช้รุ่นใหม่แห่งโลกอนาคต “เฮเฟเล่” ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่นอกเหนือไปจากโลกยุคเดิม ๆ ของอุปกรณ์ฟิตติ้งสำหรับประตูและวัสดุภายใน ด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มาพร้อมนวัตกรรมเหล่านี้ ทำให้ “เฮเฟเล่” ได้รับการยอมรับในโลกดิจิตัล ดังคติพจน์ของบริษัทที่ว่า “Thinking ahead”
“เฮเฟเล่” และพันธมิตรคือเครือข่ายระดับโลก
“เฮเฟเล่” ได้ผลิตวัสดุอุปกรณ์และส่งมอบสินค้าและบริการให้กับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ สถาปนิก ผู้วางผังโครงการ ผู้ประกอบและผลิตตู้ต่าง ๆ รวมทั้ง พันธมิตรและดีลเลอร์ชั้นนำระดับโลก สิ่งเหล่านี้ได้ดำเนินการผลิตและให้บริการตามความต้องการของลูกค้า ผ่านการผลิตโดยฐานการผลิตทั้ง 5 แห่งของบริษัท หรือสายการผลิตของพันธมิตรที่ได้รับมาตรฐานคุณภาพเยอรมนีของ “เฮเฟเล่” (Häfele German Quality Standards) ซึ่งมีอยู่กว่า 1.5 พันรายทั่วโลก นอกจากนี้ “เฮเฟเล่” ยังสามารถดำเนินการผลิตผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร โดยในปี 2562 พันธมิตรเหล่านี้มีแผนการขยายการผลิตเพิ่มเติมเพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้กับลูกค้าของ “เฮเฟเล่” อาทิ ลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่ง “เฮเฟเล่” สามารถส่งมอบสินค้าและโซลูชั่นด้านโรงแรม เช่น กุญแจล็อกผ่านสมาร์ทโฟน การส่งมอบประสบการณ์ให้กับแขกผู้มาพัก การบริหารห้องพัก และการเช็คอินด้วยตัวเอง