New Issues » “สมาร์ทคอนกรีต” เผยอากาศร้อนเอื้อผลประกอบการ Q2

“สมาร์ทคอนกรีต” เผยอากาศร้อนเอื้อผลประกอบการ Q2

11 พฤษภาคม 2019
0

alivesonline.com : SMART โชว์ผลประกอบการ Q1/62 กำไรสุทธิ 2.717 ล้านบาท รายได้รวม 107.198 ล้านบาท เผยไตรมาส 2 ธุรกิจฟอร์มดีต่อเนื่อง สภาพอากาศร้อนหนุนความต้องการวัสดุลดความร้อนและประหยัดพลังงาน ด้านสินค้าอิฐมวลเบาโครงสร้าง-ตกแต่งกระแสตอบรับดี ขณะที่อสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนทยอยลงทุนเปิดโครงการใหม่ ชูกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 107.198 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 88.447  ล้านบาท จำนวน 18.751 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  21.20 % และมีกำไรสุทธิ 2.717 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 8.058 ล้านบาท

ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีการปรับตัวดีขึ้นและสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ เนื่องจากปริมาณความต้องการวัสดุอิฐมวลเบาของโครงการภาครัฐและเอกชน รวมถึงราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/62 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพอากาศร้อน ส่งผลให้ปริมาณวัสดุลดความร้อนและประหยัดพลังงานมีความต้องการเพิ่มขึ้น อีกทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน ทั้งแนวราบและแนวสูง ทยอยเปิดโครงการต่อเนื่อง โดยในส่วนของงานภาครัฐ บริษัทฯ ยังคงได้รับงานขนาดกลางที่มีการลงทุน อาทิ โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน สถานศึกษนอกจากนี้ยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศทุกช่องทาง อาทิ โมเดิร์นเทรด ตลอดจนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายร้านค้าวัสดุก่อสร้างเพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดต่างประเทศในกลุ่ม AEC ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจากดีลเลอร์ในประเทศกัมพูชาและลาวต่อเนื่อง โดยนำสินค้าเข้าไปใช้กับงานโครงการต่าง ๆ และนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 400 ล้านบาท เติบโตอย่างน้อย 10% และคาดว่าจะเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิและล้างขาดทุนสะสมภายในปี 2562 โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 28 % ภาคเอกชน 70 % และต่างประเทศ 2 %