alivesonline.com : “ทีเส็บ” ร่วมกับ “ทิก้า” และสมาคม SITE ประจำประเทศไทย จับมือพันธมิตรธุรกิจ “การบินไทย – บางกอกแอร์เวย์ส – BMW” จัดงานใหญ่ TIME 2019 หวังใช้เป็นเวทีระดับชาติขับเคลื่อนธุรกิจการจัดประชุมและการจัดอินเซนทิฟในเมืองไทย พร้อมผนึกกำลังทุกภาคส่วนในประเทศ สร้างความแตกต่างเจาะตลาด ASEAN+6
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า “ทีเส็บ” ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ “ทิก้า” และ สมาคม SITE ประจำประเทศไทย โดยการสนับสนุนของพันธมิตรธุรกิจด้านการขนส่ง ประกอบด้วย การบินไทย, สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และค่ายรถยนต์ BMW (Thailand) จัดงาน Thailand Incentive and Meeting Exchange 2019 หรือ TIME 2019 ระหว่างวันที่ 10-15 มิถุนายน 2562 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มุ่งหวังให้เป็นเวทีสร้างประสบการณ์ระดับสากลในการขับเคลื่อนธุรกิจการจัดประชุมและการจัดอินเซนทิฟ หรือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยพบปะเจรจาธุรกิจ และเปิดมุมมองการทำตลาดใหม่ ๆ อย่างสร้างสรรค์กับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นตลาด ASEAN +6 ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย
จากสถิตินักเดินทางไมซ์กลุ่มการประชุม (Meeting) และกลุ่มการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) ในครึ่งปีงบประมาณ 2562 พบว่า มีจำนวนนักเดินทางรวมทั้งสิ้น 348,645 คน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 58% ของตลาดไมซ์ต่างประเทศทั้งหมด สร้างรายได้ถึง 25,727 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของรายได้ไมซ์รวม เมื่อเทียบกับครึ่งปีงบประมาณ 2561 ตลาดจำนวนนักเดินทางกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในกลุ่มประเทศ ASEAN+6 มีสัดส่วนถึง 86.96% โดยมีจำนวนนักเดินทาง 303,182 คน เติบโตถึงร้อยละ 23.70
นายจิรุตถ์ กล่าวอีกว่า ด้วยทิศทางการเติบโตของตลาดกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในกลุ่มประเทศ ASEAN+6 “ทีเส็บ” จึงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจัดงาน TIME 2019 ภายใต้แนวคิด “Togetherness” คือ การทำงานร่วมกันแบบบูรณาการในประเทศสู่โอกาสขยายความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยอิงวัฒนธรรมของคนเอเชียที่รักพวกพ้อง ชอบความสนุกสนาน นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจภายในภูมิภาค ผ่านการร่วมกิจกรรมและสัมผัสประสบการณ์จัดงานไมซ์ในประเทศไทย สอดคล้องกับบทบาทของ “ทีเส็บ” ในฐานะผู้นำความคิด ผู้ร่วมสร้างสรรค์ ผู้ร่วมมือทางธุรกิจและเป็นพันธมิตรเครือข่าย เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำรายได้หลักและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ การจัดงาน TIME 2019 ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ ส่วนที่หนึ่ง “Knowledge Exchange” เป็นเวทีสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบมีส่วนร่วมระหว่างผู้ประกอบการไมซ์ในฐานะผู้ขาย และผู้ซื้อเป้าหมายจากกลุ่ม ASEAN+6 เจาะลึกผ่านการพูดคุย 3 หัวข้อคือ Getting buyers attention at the point of enquiry, The art of negotiation that closes the deal และ The after-sales service that makes events successful โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 250 คน
ส่วนที่สอง “Business Exchange” เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยซึ่งเป็นผู้ขาย จำนวน 40 ราย พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อกลุ่มเป้าหมาย ASEAN+6 จำนวน 40 ราย และจัดให้มีเวลาพิเศษที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นในช่วง Networking และ Be My Dinner Date โดยกิจกรรม Knowledge Exchange และ Business Exchange จะจัดขึ้นวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพ
ส่วนที่สาม “Experience Exchange” คือ กิจกรรมสร้างประสบการณ์ผู้ซื้อกลุ่มเป้าหมายร่วมกิจกรรมในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน 2562 เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตอัตลักษณ์ของเมืองภูเก็ตและพังงาผ่านหลากหลายกิจกรรม อาทิ กิจกรรมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ณ หมู่บ้านชาวประมง จ.พังงา กิจกรรมสานสัมพันธ์กลุ่มบนเรือยอร์ช ตัวอย่างการจัดงานเลี้ยงรับรองในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการนำกลุ่มประชุมและกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัลขององค์กรต่าง ๆ เข้ามาจัดงานในประเทศไทย
“ทีเส็บ” ยังได้จัดแคมเปญพิเศษ “TIME to MEET” สนับสนุนเฉพาะลูกค้าที่เข้าร่วมงาน TIME 2019 สำหรับบริษัทที่นำกลุ่มประชุมและกลุ่มการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลที่มีจำนวน 50 คนขึ้นไปและมีวันพักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน โดยสนับสนุนงบประมาณ 500 บาทต่อคน และสูงสุดถึง 5 แสนบาทต่อกลุ่ม รวมถึงการสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ ของที่ระลึก การจัดแสดงต้อนรับแบบไทย บริการช่องทางพิเศษตรวจคนเข้าเมือง หรือ MICE Lane สำหรับวีไอพี ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้มีแคมเปญ “M & I Reward” สำหรับลูกค้าที่ได้มีการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทยอย่างน้อย 3 ครั้งต่อปี ในรูปแบบเงินสนับสนุนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการดึงงานเข้ามาจัดในประเทศไทย ในวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท ตามเงื่อนไขที่กำหนดอีกด้วย
ด้าน นายธวัชชัย กิตติศรีบูรณ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้าองค์กรระหว่างประเทศ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทย ตระหนักถึงความสำคัญและศักยภาพของนักเดินทางไมซ์ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งกองขายลูกค้าการประชุมและสัมมนา (MICE Department) เพื่อให้บริการการเดินทางสำหรับลูกค้าตลาดไมซ์โดยเฉพาะ โดยบริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการและการจัดกิจกรรมของ “ทีเส็บ” อย่างต่อเนื่อง อาทิ งาน TIME อีกหนึ่งกิจกรรมของ “ทีเส็บ” ที่ การบินไทย ร่วมเป็นพันธมิตรให้การสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยคาดหวังขับเคลื่อนธุรกิจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย โดยมั่นใจว่ามีเที่ยวบินรองรับกลุ่มนักเดินทางตลาด ASEAN รวมถึงจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเที่ยวบินของการบินไทย ซึ่งมีเส้นทางรองรับกว่า 1 จุดบินในหลายประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย รวมถึงเที่ยวบินของสายการบินไทยสมายล์ และสายการบินพันธมิตร Star Alliance
นางสาวเพลินพิศ โกศลยุทธสาร ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการตลาด บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์สในฐานะเป็นสายการบินสัญชาติไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย สนับสนุนนโยบายภาครัฐร่วมกับ “ทีเส็บ” ตลอดมา โดยในปี 2562 โครงการ Fly and Meet Double Bonus – Redefined ซึ่งเป็นแคมเปญร่วมเจาะตลาดลูกค้าองค์กรในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม หรือ CLMV ได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ สามารถกระตุ้นตลาดให้เกิดความสนใจเดินทางมาจัดงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล โดยทางสายการบินฯ ก็เห็นอัตราเติบโตของผู้โดยสารจากกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้นเช่นกัน
นายเศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นประสิทธิภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ในไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการร่วมงานกับพันธมิตรที่หลากหลาย ในการจัดอีเวนต์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ยนตรกรรมหรูอย่างรอบด้าน บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อร่วมขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์และเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในระดับสากล โดยในโอกาสนี้ได้สนับสนุนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 5 และซีรี่ส์ 7 รวม 20 คัน เพื่อเป็นรถรับส่งระดับพรีเมียมสำหรับพันธมิตรในงาน TIME 2019 ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมหรูของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเต็มรูปแบบ
อนึ่ง จากการจัดงาน TIME 2019 คาดว่าจะมีจำนวนนักเดินทางกลุ่มการประชุมและอินเซนทิฟที่ได้จากการจัดงานกว่า 2 พันคน สร้างรายได้ถึง 152 ล้านบาท และจะช่วยผลักดันเป้าหมายภาพรวมนักเดินทางไมซ์ให้เพิ่มขึ้นเป็น 1,320,000 คน สร้างรายได้ 100,500 ล้านบาทภายในปี 2562 และเติบโตต่อเนื่องภายในปี 2563