alivesonline.com : “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” จัดงาน “ท่องเที่ยวเมืองสนุก ณ สุขสยาม” ตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำโขง ชูจุดเด่น “ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม” มั่นใจศักยภาพและความพร้อมด้านการคมนาคม หวังเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชื่อมโยงลาว เวียดนาม พม่า จีนตอนใต้ คาดภายใน 5 ปี นักท่องเที่ยวทะลักปีละ 4 ล้านคน สร้างเม็ดเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเริ่มให้ความสำคัญกับสถานที่ท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงซึ่งกำลังได้รับความนิยมและถือเป็นจุดหมายปลายทางทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 หรือ “กลุ่มจังหวัดสนุก” ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนปีละประมาณ 2 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 6 พันล้านบาท คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมายังกลุ่มจังหวัดสนุกสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์โดยใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีท่าอากาศยานถึง 2 แห่งคือ ท่าอากาศยานนครพนมซึ่งเป็นท่าอากาศยานศุลกากร สามารถรองรับเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำได้โดยมีความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยขณะนี้ภาครัฐและเอกชนกำลังเร่งผลักดันให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพื่อรองรับการเติบโตทางการบินและเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงไปสู่เวียดนามและจีนตอนใต้ นอกจากนี้ยังมีท่าอากาศยานสกลนครซึ่งกำลังเร่งผลักดันให้เป็นท่าอากาศยานศุลกากรต่อไป
ขณะเดียวกันกลุุ่มจังหวัดสนุกยังมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวถึง 2 แห่งคือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 (มุกดาหาร – สะหวันเขต) ถือเป็นสะพานระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) เชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาวที่มีศักยภาพด้านการค้าสูงมีมูลค่าการค้าผ่านสะพานแห่งนี้ประมาณ 1 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนอีกแห่งหนึ่งคือสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) เชื่อมต่อเข้าสู่แขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งเป็นแขวงที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่บนระเบียงเศรษฐกิจใหม่ หนานหนิง-สิงคโปร์ ถือเป็นสะพานที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุดมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี
นายชยันต์ จากศักยภาพและความพร้อมดังกล่าว “กลุ่มจังหวัดสนุก” จึงต้องการสร้างการรับรู้ไปยังนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปในวงกว้าง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงต่อไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม พม่า และจีนตอนใต้ จึงได้ร่วมกันจัดงาน “ท่องเที่ยวเมืองสนุก ณ สุขสยาม” ระหว่างวันที่ 2-6 ก.ค.62 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น ณ เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ภายใต้โครงการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุกตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำโขง โดยเน้นจุดเด่น 3 ด้านคือ “ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม” สู่สากล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุกให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งอัตลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพานและริมแม่น้ำโขง วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ไทญ้อ ผู้ไท ไทโส้ ไทกะเลิง ไทข่า ไทแสก ไทลาว คนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ซึ่งมีวิถีชีวิตที่งดงาม วัฒนธรรม ประเพณีที่หลากหลายบนวิถีแห่งลุ่มน้ำโขง โดยนำมาจัดแสดงเพื่อให้ชาวกรุงและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศได้สัมผัสครบทุกประสบการณ์
สำหรับงาน “ท่องเที่ยวเมืองสนุก ณ สุขสยาม” มีการจัดแสดงศิลปวัฒธรรมอัตลักษณ์ของ “กลุ่มจังหวัดสนุก” รวมทั้งคัดสรรผลิตภัณฑ์โอทอปที่โดดเด่นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยมาให้ชาวเมืองได้ ชม ชอป กันอย่างจุใจ อาทิ เนื้อโคขุนมุกดาหาร, ผ้าหมักโคลน, งานฝีมือจากต้นกก, ผ้าย้อมมูลควาย, ข้าวฮางงอก มาจำหน่ายในราคาย่อมเยารวมกว่า 20 บูธ โดยคาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก “กลุ่มจังหวัดสนุก” ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน
นายชยันต์ กล่าวด้วยว่า ภายในงานยังได้มีการจัดมหกรรมโคเนื้อโคขุนหนองสูง มุกดาหาร สนับสนุนโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร และมีการจัดแสดงนิทรรศการ และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งการสาธิตการปรุงเมนูเนื้อโคขุนมุกดาหารจากเชฟมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการขยายตลาดเนื้อโคขุนคุณภาพพรีเมียมของประเทศไทย สร้างการรับรู้การเลี้ยงโคขุนและการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพ ซึ่งจังหวัดมุกดาหาร มีสมาชิกเลี้ยงโคขุนที่เพียงพอต่อการขยายการตลาด ตลอดจนเนื้อโคขุนคุณภาพและแปรรูปผลิตภัณฑ์ รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาโคขุนแก่บุคคลทั่วไปที่เข้าชมงาน เพื่อให้ผู้เข้าชมงาน นักวิจัย นักวิชาการ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวความคิดด้านการเลี้ยงโคเนื้อโคขุน เกิดการเจรจาทางการค้าทั้งในระดับภูมิภาค ประชาคมอาเซียน และระดับสากล อันจะส่งผลให้เกิดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับโคเนื้อโคขุนครบวงจร ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ ประชาชน และผู้บริโภคถึงความปลอดภัยจากโคเนื้อโคขุน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดมุกดาหารรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วยและร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลตลอดงาน