alivesonline.com : คลินิกเสริมความงามมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ยังสดใส “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” เปิดสาขาระดับพรีเมียมใหม่แห่งที่ 4 เลียบด่วนรามอินทรา ต่อจาก พระราม 2, ปากซอยท่าอิฐ จ.นนทบุรี, เดอะมอลล์ บางแค ก่อนเตรียมขยายสาขาเข้าใจกรุงเมืองกรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท เตรียมใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท พร้อมจัด “เรียลลิตี้ตามหาทีมหมอรัสมิ์ภูมิ” เฟ้นหาหมอหน้าใหม่ร่วมทีม พร้อมสร้างการรับรู้เรื่องการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ให้ผู้บริโภค
นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ ผู้ก่อตั้ง “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” เปิดเผยว่า “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” มีจุดเริ่มต้นจากการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและเจาะจงที่จะมารักษากับตนประกอบกับคนไข้ที่เดินทางมาส่วนใหญ่ต้องการที่จะปรับรูปหน้าเป็นหลัก โดยเป็นการบอกปากต่อปากถึงความเชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ หรือแม้กระทั่งการทำเลเซอร์ จึงเป็นสาเหตุให้ต้องมาเปิดคลินิกเพื่อรองรับลูกค้าที่มาจากหลากหลายแห่ง
สำหรับ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” สาขาแรกเปิดที่ พระราม 2 ซอย 60 กรุงเทพฯ สาขาที่ 2 ปากซอยท่าอิฐ จ.นนทบุรี สาขาที่ 3 เดอะมอลล์ บางแค ฝั่งธน ล่าสุดสาขาที่ 4 ถนนเลียบด่วนรามอินทรา กรุงเทพฯ ใกล้กับเซ็นทรัล อีสต์วิว ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดให้บริการครบวงจรแบ่งเป็น 3 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นที่ 1 เปิดให้เป็นบริการเสริมความงามครบวงจร ตั้งแต่การปรับรูปหน้า การฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ เลเซอร์ ร้อยไหม ฯลฯ ชั้นที่ 2 เปิดเป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามที่รวมถึงการปลูกผม โดยในอนาคตอาจเปิดด้านทันตกรรม และเวชศาสตร์ชะลอวัย ส่วนชั้นที่ 3 จัดเป็นศูนย์การเรียนการสอนโดยสถาบันรัสมิ์ภูมิ RMI ให้เป็นแพทย์ที่มาลงเรียนกับสถาบันโดยตรง หรือจากภายนอกเข้ามาจัดสอนภายในสถาบันฯ โดยตนเองเป็นวิทยากรให้การอบรม
“ในส่วนนี้จะแบ่งห้องอบรมออกเป็น 2 ห้องรองรับการอบรมในลักษณะ Hand on ทั้ง 2 ห้อง ได้แก่ ห้องเรียนแลคเชอร์ที่สามารถรองรับผู้เข้าเรียนได้ถึง 80 คน และห้องสอนแบบลงมือปฏิบัติจริงที่มีเตียงรองรับ 5-6 เตียง เน้นการสอนแพทย์ให้เรียนรู้ถึงเทคนิควิธีการฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบท็อกซ์ การร้อยไหม ฯลฯ อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย โดยสถาบันฯ ให้ความสำคัญในเรื่องของความรู้ ต้องรู้จริงและสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนรู้ถึงเทคนิควิธี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทักษะและความสามารถในการรักษาอย่างปลอดภัย สำหรับแพทย์ที่เรียบจบคอร์ดจะได้รับ Certificate จากทางสถาบันรัสมิ์ภูมิ RMI เป็นการรับรอง”
ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีสถานเสริมความงาม หรือคลินิกเสริมความงามเปิดกันเป็นจำนวนมากทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่คิดหนักกับการเลือกเข้าบริการว่าที่ไหนให้การรักษาเห็นผลชัดเจนและปลอดภัยที่สุด สิ่งนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” ได้รับความไว้วางใจทั้งจากประสบการณ์อันยาวนานและการบอกกันปากต่อปากซึ่งได้รับการตอบรับจากคนไข้จำนวนมากเพราะที่ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” ใช้แต่สินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจาก (อย.) และผ่าน FDA (Food and Drug Adninistration) ของสหรัฐอเมริกา มีเครื่องมือที่ทันสมัย และความใส่ใจในบริการดูแลคนไข้จากพนักงานและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
จุดเด่นของ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” จะเป็นเรื่องของปรับรูปหน้าที่มีความเชี่ยวชาญมากจนได้รับฉายาว่า “หมอนักปั้นหน้า” ซึ่งฉายานี้ได้จากคนไข้ที่เข้ามาปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ เพราะหลังจากฉีดแพทย์ก็จะทำการนวดปรับรูปหน้าให้เข้าที่ทำให้คนไข้รู้สึกเหมือนหมอกำลังปั้นหน้าให้จึงเป็นที่มาของฉายา “หมอรัสมิ์ภูมิ์ หมอนักปั้นหน้า” ทั้งนี้ คนไข้ที่มารักษากับ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” เป็นเรื่องของการมาฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์เป็นส่วนมาก จนล่าสุด บริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้เป็นแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์และโบทูลินั่ม ท็อกซิน มากที่สุดในเอเซีย โดยในแต่ละเดือนจะมีคนไข้เข้ามาฉีดฟิลเลอร์มากกว่า 400 เคสต่อเดือนคิดเป็น 90% ของผู้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง สำหรับราคาเริ่มต้นของการฉีดฟิลเลอร์อยู่ที่ 18,000-35,000 บาท ต่อหลอด (1 cc) ฉีดครั้งหนึ่งสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี แต่จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เพราะคนไข้แต่ละคนที่เข้ามารับการรักษามาด้วยอาการที่แตกต่างกัน
นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ กล่าวอีกว่า เมื่อมีหลายสาขาประกอบกับมีคนไข้เข้ารับการรักษาจำนวนมากการควบคุมคุณภาพการให้บริการจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นบุคลากรและแพทย์ทุกคนของ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” จะต้องผ่านการคัดเลือกและเข้ารับการอบรมจากสถาบันฯ เพื่อให้เป็นมาตรฐานการให้บริการเดียวกันทั้ง 4 สาขา โดยวัตถุประสงค์หลักจะเน้นให้แพทย์ที่ประจำแต่ละสาขาต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญเทียบเท่าตนเองจนสามารถเรียกได้ว่า “ทีมแพทย์รัสมิ์ภูมิ ” เพราะฉะนั้นคนไข้จึงมั่นใจได้ว่าทุกสาขาของ “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” จะมีความเป็นมาตรฐานและความปลอดภัยในการรักษาเท่าเทียมกัน
“การเปิดสาขาเลียบด่วนรามอินทราเป็นสาขาที่มีความทันสมัยและมีความเป็นพรีเมียมมากขึ้นกว่าทุกแห่งเพื่อรองรับคนไข้กว่า 50% ในย่านรามอินทรา เพราะฉะนั้นแผนการตลาดทั้งหมดจะเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และการให้บริการจะปรับภาพลักษณ์ให้มีความเป็น Beauty Craft มากขึ้น รวมถึงความเป็น “รัสมิ์ภูมิ ทีม” โดยในปีนี้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ทั้งหมด”
ในปี 2562 จะใช้งบการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท รวมไปถึงครึ่งปีสุดท้ายจะทยอยจัดแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น “เรียลลิตี้ตามหาทีมหมอรัสมิ์ภูมิ ” ซึ่งเป็นโชว์เกี่ยวกับการตามหาทีมแพทย์ที่อยากจะเข้ามาเรียน อยากหาประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งอยากจะมาทำงานกับนายแพทย์รัสมิ์ภูมิ์ ซึ่งจะเป็นการคัดเลือกแพทย์ที่อยากได้ความรู้หรือเข้ามาทำงานกับนายแพทย์รัสมิ์ภูมิจริง ๆ และอีกประการหนึ่งทำเพื่อให้ความรู้กับผู้ชมถึงผลเสียของการฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะเป็นรายการที่จะตามหาทีมแล้วยังเป็นรายการที่คุณหมอจะเข้าไปช่วยคนไข้ด้วยการให้ความรู้ถึงการฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าให้คนไข้ไม่โอกาสจะได้เข้ามาตรงจุดนี้อย่างน้อยก็จะได้มีข้อมูลในการคัดกรองสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ทำให้ตัวเองเสียหาย
นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ กล่าวอีกว่าทุกวันนี้ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงาม เรื่องผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา เพื่อให้ตัวเองดูอ่อนกว่าวัย วิทยาการทางการแพทย์ที่มีวิวัฒนาการก้าวหน้าและทันสมัยจึงเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในยุคดิจิทัลสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง หน้าตาให้สวยหล่อได้ดั่งใจ ประกอบกับรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์น่าเชื่อถือก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจในผลการรักษา
ส่วนการขยายสาขาไปต่างจังหวัดยังไม่คิดไปถึงตรงนั้น หากเป็นใจกลางเมืองก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสาขาในโซนสุขุมวิท แต่ก็ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะการขยายสาขาเร็วเกินไปจะทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการได้ ซึ่งปัจจุบัน “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” จัดอยู่ในอันดับหนึ่งของคลินิกเสริมความงามในเรื่องของมาตรฐานการให้บริการความปลอดภัย การเลือกใช้สินค้าเกรดพรีเมียมทั้งหมด แต่เป็นราคาที่คนไข้สามารถเอื้อมถึงและได้รับประโยชน์ดีที่สุดและสูงสุด
นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมูลค่ารวมของตลาดความงามอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทและมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “รัสมิ์ภูมิ คลินิก” พร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพการให้บริการเน้นความทันสมัยทุกด้านไม่ว่าจะเป็นวิทยาการใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพมาให้บริการกับคนไข้ของเราก่อน ล่าสุดก็มีฟิลเลอร์ตัวใหม่ของสหรัฐอเมริกาเป็นฟิลเลอร์ที่ฉีดสำหรับปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้นซึ่งส่งมาให้ประเทศไทยเป็นที่แรกและตนเองก็เป็นหมอไทยคนแรกที่ฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้ เพราะฉะนั้นทิศทางของเราก็จะเน้นที่วิทยาการและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพมาให้บริการกับผู้บริโภค
“ฝากถึงคนไข้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายว่า การดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใบหน้า ร่างกาย หรือแม้กระทั่งเรื่องของผิวพรรณก็ตามถ้าเราปล่อยไว้ไม่ดูแลตัวเองมันก็จะทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ เปรียบเทียบก็เหมือนรถถ้าเราไม่ดูแลใส่ใจแก้ไขข้อบกพร่อง วันหนึ่งถ้ามันพังก็คือพัง แต่ถ้าเราดูแลรักษาอยู่ตลอดก็จะอยู่ได้นานเหมือนกับสภาพร่างกายเราถ้าไม่ดูแลมันก็จะทรุดโทรมไม่สามารถฟื้นคืนสภาพได้เพราะฉะนั้นเราควรใส่ใจดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม การเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจดูสภาพใบหน้า หรือร่างกายก็เพื่อเป็นการดูแลและแก้ปัญหาเพราะอย่างน้อยเป็นการป้องกันอนาคตไม่ให้มันทรุดโทรมมากไปกว่าเดิม”
อนึ่ง นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ เป็นแพทย์ประจำ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และอาจารย์แพทย์ โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อโศก เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง Board of Dermatology และได้รับการยกย่องจาก บริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีด Botox & Filler แห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งยังได้รับเชิญเป็นวิทยากรสอนแพทย์ผิวหนังและความงามด้าน Botox & Filler ในประเทศไทยและต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี รวมทั้งมีความชำนาญพิเศษด้านการปรับแต่งรูปหน้าได้ได้สัดส่วนสวยงาม และเป็นผู้คิดค้นเทคนิค Triangular Face lift ซึ่งเป็นเทคนิคการปรับรูปหน้าแนวใหม่เห็นผลทันทีตั้งแต่แรกทำ