New Issues » ททท. ประกาศแผนการตลาดปี 63 มุ่งรายได้ 3.71 ล้านล้านบาท

ททท. ประกาศแผนการตลาดปี 63 มุ่งรายได้ 3.71 ล้านล้านบาท

8 กรกฎาคม 2019
0

alivesonline.com : ผู้ว่าฯ ททท. แถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 63 กำหนดแนวทางขับเคลื่อนสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมปรับตัวเลขอัตราการเติบโต 10% รักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก เตรียมจัดแคมเปญตามแนวคิด “ก้าวต่อไป เพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน” ฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 63

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2563 โดยได้รับเกียรติจาก คณะกรรมการ ททท. ผู้บริหารของภาครัฐ ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และผู้บริหาร ททท. ณ โรงแรมเซนทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 2563 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ททท. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการตลาด จึงต้องแสวงหาแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุความคาดหวังของรัฐบาล โดย ททท. ประเมินตัวเลขการเติบโตของปริมาณและรายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2562 ซึ่งยังคงมีอัตราที่น่าพอใจ โดยได้กำหนดทิศทางการเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากการท่องเที่ยว จาก Mass Tourism เข้าสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ซึ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมีการปรับตัวเลขอัตราการเติบโตเพื่อนำไปสู่การวางแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มรายได้เป็นสำคัญ

“การจัดทำทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2563 ได้นำจุดแข็งของประเทศที่สะท้อนจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเป็นแนวทางหลักในการทำการตลาดเพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้แรงกดดันของสถานการณ์โลกที่มีความผันผวน รวมทั้งความเสียหายของสภาพแวดล้อมจากน้ำมือมนุษย์ที่มีผลต่อธรรมชาติ อันเป็นทรัพยากรสำคัญของการท่องเที่ยว อีกทั้ง ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลข่าวสารที่ ททท. ต้องก้าวให้ทันและนำมาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

ในปี 2563 ททท. จะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของแบรนด์ประเทศไทย โดยผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบให้เป็นรูปธรรมในทุกมิติของการสื่อสารและลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการรับรู้และตระหนักในวงกว้าง ผ่านช่องทางของอนุสาร อ.ส.ท. เพื่อให้มั่นใจในสินค้าและบริการที่ ททท. นำเสนอด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบการเดินทาง รวมไปถึงการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์การให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในแง่มุมของกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรและไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและสังคมททท. จะเดินหน้าการนำเสนอสินค้าและบริการที่สามารถชูเอกลักษณ์วิถีไทยที่ทรงเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีกระบวนการพัฒนา ต่อยอด เพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ผ่านการใช้นวัตกรรมที่ผสมผสานกับเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นกับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ที่รักและต้องการพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นของตนเองให้มีการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ท้องถิ่นต้องการเพื่อสืบสานและส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป อีกทั้งยังเป็นการออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ช่วยเพิ่มการใช้จ่ายหรือกิจกรรมที่ดึงให้นักท่องเที่ยวอยู่นานวันขึ้น

นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม และการแข่งขันในหลากหลายสาขาที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวนั้น ททท. ได้กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงและที่ให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าราคา โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกและสรรหาสินค้าและบริการที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การบริโภคทรัพยากรที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทางท่องเที่ยว การลดละและเลิกการกระทำที่จะส่งผลช่วงอายุของทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมขาติ วิถีชีวิตท้องถิ่น

ททท. ยังได้มีแนวทางในการคัดสรรกลุ่มเป้าหมายโดยตลาดต่างประเทศ เน้นการเจาะกลุ่มคุณภาพรายกลุ่ม (Segment) ต่อยอดจากปีที่ผ่านมา โดยแนวคิดของตลาดต่างประเทศคือ Go High คือ มุ่งเจาะและขยายกลุ่มกำลังซื้อสูง มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อม Go New Customer คือ ขยายกลุ่ม First Visit จากกลุ่มลูกค้าใหม่ (New Segment) ในพื้นที่เดิมและการหาลูกค้าในพื้นที่ใหม่ ๆ (New Area) Go Local คือ เจาะกลุ่มลูกค้าที่สนใจการท่องเที่ยววิถีถิ่น Go Low Season การกระตุ้นการเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และ Go Digital เป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการเข้าถึงลูกค้าสำหรับตลาดในประเทศ แบ่งกลุ่มเป้าหมายในหลายมิติ จำแนกตามลักษณะ (Profile) ได้หลากหลายกลุ่ม ได้แก่ Gen X / Gen Y / Family and Millennial Family / Silver Age / Lady / First Jobber / Multi-Gen / Corporate  โดยจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักและกลุ่มเป้าหมายร่วมของภูมิภาค ทั้งนี้ จะมุ่งเจาะและขยายตลาดคนไทยให้ทั่วทุกภูมิภาค เพื่อขยายฐานตลาดใหม่ ๆ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดกรุงเทพฯ มากจนเกินไป รวมทั้ง แก้ปัญหาเรื่องการแย่งตลาดกันเองอีกด้วย

สำหรับแนวทางการสื่อสารการตลาดในปี 2563 นั้น ในตลาดต่างประเทศคือ Amazing Thailand ยังคงใช้ Working Concept “Open to the New Shades” ที่เนื้อหามุ่งเน้นให้การนำเสนอประสบการณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจจากประสบการณ์จริงและเกินความคาดหมายที่นักท่องเที่ยวมีต่อประเทศไทย โดยจะจัดทำชุดโฆษณาจำแนกตามกลุ่มเป้าหมายตลาดในประเทศคือ amazing ไทยเท่ ภายใต้ Working Concept “เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์” ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุและกลุ่มความสนใจ หรือข้ามกลุ่มลูกค้า กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคนไทยมีความสนุก ความสุข และความภูมิใจในออกแบบการท่องเที่ยวของตัวเอง และความต้องการส่งต่อวิธีเที่ยวของตนให้กับผู้อื่นให้เกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบการท่องเที่ยวในสไตล์ของตนเองบ้าง

“ในปี 2563 ยังเป็นโอกาสที่ ททท. จะครบ 60 ปี ในการก่อตั้งหน่วยงาน จึงได้ทำแคมเปญตามแนวคิด “ก้าวต่อไป เพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน” ควบคู่กับแคมเปญทางการตลาด มุ่งสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ พนักงาน ททท. ประชาชนทั่วไป และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับประเทศต่อการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบอันหมายรวมถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะเพิ่มความน่าสนใจให้นักท่องเที่ยว อาทิ ตลาดต่างประเทศ มีแนวคิดจัดทำ “Amazing Thailand Week” ผ่านการทำงานของ สำนักงาน ททท. สาขาต่างประเทศทุกแห่งทั่วโลก โดยร่วมกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วน กระตุ้นความสนใจนักท่องเที่ยวให้อยากเดินทางมาเมืองไทยเพิ่มเติม ผ่านการดำเนินงานรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ทุก Touch Point มีเรื่องราวที่ดีเกี่ยวกับประเทศไทยตลอดทั้งสัปดาห์ โดยหวังว่าการผนึกกำลังลักษณะนี้จะทำให้ประเทศไทยโดดเด่น เป็นที่จับตามองมากขึ้นกว่าปกติในช่วงเวลาที่กำหนดจัดกิจกรรม

สำหรับตลาดในประเทศ มีแนวคิดจัดทำ “โครงการ 60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะ ซีรีส์” กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายใต้แรงบันดาลใจของ 3 ฤดูกาลที่แตกต่าง โดยเส้นทางที่สร้างสรรค์จะใช้ระบบการขนส่งของภูมิภาคและพาหนะท้องถิ่นเป็นเครื่องมือส่งต่อการท่องเที่ยวใน 60 เส้นทางความสุขทั่วประเทศ โดยจุดหมายปลายทางจะเชื่อมโยงเมืองท่องเที่ยวหลักและรอง ไปจนถึงชุมชนที่มีความพร้อมในการรองรับ

นายยุทธศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ททท. ได้วางเป้าหมายเชิงการตลาดในปี 2563 ไว้อย่างชัดเจนในการรักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก สร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3.71 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป้าหมายด้านการสร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย และสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง