New Issues » “สลิงชอท กรุ๊ป” รุกธุรกิจใหม่ Leadership Wellness เจาะกลุ่มผู้นำองค์กร

“สลิงชอท กรุ๊ป” รุกธุรกิจใหม่ Leadership Wellness เจาะกลุ่มผู้นำองค์กร

29 กรกฎาคม 2019
0

alivesonline.com : เผยองค์กรทั่วโลกเร่งสร้าง Wellness Culture ม.ฮาร์วาร์ด ชี้ชัดองค์กรที่มี Wellness Culture ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบทางธุรกิจ ด้าน “สลิงชอท กรุ๊ป” บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำและองค์กรในไทย สบช่องเปิดธุรกิจใหม่ “Leadership Wellness” ตอบโจทย์ตลาด มั่นใจช่วยธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 30% ในปี 62

ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาให้บริการด้านการพัฒนาผู้นำและองค์กร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาและเป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาผู้นำและพัฒนาองค์กรที่ดำเนินธุรกิจมาจนครบรอบ 15 ปีในปี 2562 ได้มีส่วนให้คำปรึกษาผู้นำองค์กรมามากกว่า 100,500 คน ให้สามารถก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงในแต่และยุค จึงได้เปิดตัวธุรกิจใหม่คือ “Leadership Wellness” ขึ้นเป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30%

จากการศึกษาพบว่า ผู้นำในปัจจุบันหันมาใส่ใจตนเองตามเทรนด์สุขภาพ ซึ่งหากศึกษาตลาดสุขภาพในระดับโลกจะพบว่า เป็นธุรกิจที่โตเร็วกว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยสัดส่วนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ธุรกิจความงามและชะลอวัย (25%) ตามด้วยธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและลดน้ำหนัก (16%) ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (15%) ส่วนด้านสุขภาพของผู้นำและในที่ทำงานมีเพียง 1% เท่านั้น จึงถือเป็นตลาดใหม่ที่ “สลิงชอท กรุ๊ป” จะเข้าไปเจาะเพื่อให้ความรู้และสร้างการเติบโต

ดร.สุทธิโสพรรณ กล่าวอีกว่า ล่าสุด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยว่า องค์กรใดให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและนำเรื่องสุขภาพมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์และวัฒนธรรมองค์กร (Wellness Culture) ถือเป็นองค์กรที่อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบทางธุรกิจของโลกยุคนี้ ขณะเดียวกันองค์กรในภูมิภาคอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้หันมาให้ความสำคัญกับประเด็นผู้นำและ Wellness Culture ด้วยเช่นกัน โดย สถาบัน MDA Leadership Consulting เปิดเผยผลงานวิจัยผนวกกับผลการพยากรณ์ของนักอนาคตศาสตร์พบว่า บทบาทใหม่ของผู้นำแห่งอนาคตคือ การสร้างวัฒนธรรมสุขภาพ Wellness Culture ซึ่งจะกลายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

“หลักการสำคัญของการสร้าง Wellness Culture ให้ประสบผลสำเร็จคือ การสร้างต้นแบบที่ดีผ่านผู้นำ เพราะการที่ผู้นำมีสุขภาพดีจะช่วยให้สามารถดูแลสนับสนุนคนอื่นรอบตัวทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้ดีขึ้นถึง 10 เท่า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นสุขภาพจึงเป็นเทรนด์ที่ผู้นำและองค์กรไม่ควรพลาด ทั้งนี้ การจะสร้างองค์กรที่มีสุขภาพดี ผู้นำต้องมีสุขภาพดีก่อนในฐานะต้นแบบ เพราะผู้นำที่แข็งแรงจะนำพาองค์กรให้แข็งแรงและเป็นกุญแจนำองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน”

ธุรกิจใหม่ Leadership Wellness จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งให้คำปรึกษาไปยังผู้นำระดับสูง ผู้เป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายและนำพาองค์กรก้าวเข้าสู่ Wellness Culture โดยปัจจุบันหลายองค์กรกำลังประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ผู้นำยุคใหม่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานจากงานวิจัยเกี่ยวกับผู้นำและความเครียดพบว่า

1.ผู้นำ 66% เชื่อว่าตนเองเครียดกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

2.ผู้นำ 88% บอกว่างานคือต้นเหตุแห่งความเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานในบทบาทผู้นำองค์กร

3.ผู้นำ 60% มองว่าองค์กรไม่ได้เตรียมเครื่องมือ หรือวิธีการเพื่อช่วยเหลือการจัดการกับความเครียดในองค์กร

4.ผู้นำ 80% เชื่อว่าการมีโค้ช มีกลุ่มเพื่อนสามารถช่วยให้บริหารความเครียดและสร้างสุขภาพที่ดี

ด้าน นางมัณฑนา รักษาชัด กรรมการผู้จัดการ กลุ่มกิจการธุรกิจหลัก บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลวิจัยของ Aro Ha Wellness Retreats ศูนย์ปรับวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตตามหลักการ Wellness ชั้นนำระดับโลก ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่ผ่านการโค้ชชิ่งจากสถาบันใน 6 วันแรก การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดย 16% มีความเป็นอยู่และมีความสุขมากขึ้นหลังจากผ่านไป 1 เดือน

ผลการศึกษายังพบว่าด้านการทำงาน 13% ของผู้เข้าร่วมโปรแกรมมีผลการทำงานที่ดีขึ้น ในด้านของสุขภาพทางร่างกายพบว่ามีพัฒนาที่ดีขึ้น 22.4% นอกจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวถึงความเครียดซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อ Wellness ซึ่งการเกิดความเครียดฉับพลันจะส่งผลต่อการตัดสินใจ โดยทำให้มีการใช้อารมณ์เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจมากกว่าการตัดสินใจบนพื้นฐานของเป้าหมายทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดทางธุรกิจจนเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา

“จากข้อมูลในสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ที่พยายามสร้าง Wellness ด้วยตัวเองมีโอกาสล้มเหลวสูงถึง 80% และผู้คนส่วนใหม่มองหาที่ปรึกษาช่วยโค้ชให้พวกเขาสามารถสร้าง Wellness ซึ่งโปรแกรมแรกที่ สลิงชอท กรุ๊ปเปิดตัวคือ Leading Well, The Leadership Wellness อยู่ภายใต้ธุรกิจใหม่ Leadership Wellness เป็นโปรแกรมการพัฒนาเปลี่ยนแปลงผู้บริหารให้สร้าง Wellness ตลอดระยะ 12 เดือน”

จุดเด่นของโปรแกรมคือ การเน้นโค้ชผู้นำให้ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ทัศนคติและวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนสามารถมี Wellness ได้ในระยะยาว รวมทั้งสามารถนำไปกำหนดนโยบายและใช้เป็นต้นแบบในสร้าง Wellness Culture ที่เข้มแข็งให้องค์กรต่อไป ครอบคลุม Wellness ทั้งหมด 6 ด้าน เพราะ Wellness มากกว่าแค่มีสุขภาพทางกายที่ดี ได้แก่

1.Emotional Wellness หรือ Wellness ด้านอารมณ์ 2.Physical Wellness หรือ Wellness ด้านร่างกายและสุขภาพ 3.Spiritual Wellness หรือ Wellness ด้านจิตใจ 4.Intellectual Wellness หรือ Wellness ด้านสติปัญญา 5.Social Wellness หรือ Wellness ด้านสังคม และ 6.Environmental Wellness หรือ Wellness ด้านสิ่งแวดล้อม จุดเด่นคือเน้นการสร้าง Wellness Culture ให้องค์กรผ่านผู้นำ เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้เน้นที่การเปลี่ยนพฤติกรรมที่ยั่งยืน เราให้สูตรการเปลี่ยนแปลงกับผู้นำและพาผู้นำผ่านประสบการณ์ตรง ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

ทั้งนี้ ผู้นำที่มี Wellness จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการทำงาน 2 ด้านได้แก่ 1.เพิ่มประสิทธิภาพผลการดำเนินงานขององค์กรจากผลการทำงานที่ดีขึ้น 2.ในด้าน Business Continuity หรือการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องด้วยสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจ (Business Risks) ไม่ว่าจะที่เกิดจากการที่ผู้นำเจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งการถึงการเสียชีวิตจากการความเครียดและปัญหาสุขภาพ

นางมัณฑนา กล่าวในตอนท้ายว่า ข้อมูลจาก London Business School ยังพบว่า จากการติดตามผลการดำเนินงานตลอด 25 ปีของบริษัทชั้นนำในอเมริกาที่ถูกระบุว่าเป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด มีมูลค่าหุ้นสูงกว่าบริษัททั่วไปถึง 50% โดยกลุ่มเป้าหมายจะเน้นไปยังผู้นำองค์กรที่มีนโยบายสร้าง Wellness Culture ให้เป็นส่วนหนึ่งเป็นองค์กร เช่น ผู้นำองค์กรระดับสูง ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี เจ้าของที่ต้องการเกษียณแต่ทายาทยังไม่พร้อมรับช่วงต่อจึงพร้อมพัฒนาด้าน Wellness เพื่อดูแลตัวเองเพื่อสามารถบริหารธุรกิจต่อไปก่อน และกลุ่มผู้บริหารที่เคยอยู่ในหลักสูตร Executive Coaching โดยตั้งเป้ามีผู้บริการระดับสูงเข้าร่วมโปรแกรมจำนวน 100 คน ภายในปี 2563