New Issues » ประเมินเศรษฐกิจอเมริกา “ขัดแย้ง” มุมมองนักลงทุน

ประเมินเศรษฐกิจอเมริกา “ขัดแย้ง” มุมมองนักลงทุน

31 กรกฎาคม 2019
0

alivesonline.com : “ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุชัดเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังถดถอย แม้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่น เพราะดัชนีความเชื่อมั่นหลายด้านยังหดตัว ขณะที่ผลประชุม G-20 งานด้านต่าง ๆ ไม่คืบหน้าอย่างที่หลายคนคาดหวัง

นายจิมมี่ ซู หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินระดับโลก เปิดเผยว่า การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับเพิ่มการคาดการณ์สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปี 2562 แม้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะเป็นขาลง แต่การปรับเพิ่มดังกล่าวถูกมองว่าขัดแย้งกับมุมมองของนักลงทุน (Trader) ในวอลล์สตรีท ซึ่งวางเดิมพันข้างภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกามากขึ้นเรื่อย ๆ และตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐในเวลาเดียวกัน ดังนั้น แม้ว่าหุ้นสหรัฐอเมริกาจะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่นักลงทุนก็ไม่แสดงความเชื่อมั่นต่อการเติบโตในประเทศของสหรัฐ ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21% ตั้งแต่ต้นปี แต่ดัชนีรัสเซล (RUSSELL) 2000 ซึ่งมุ่งเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศกลับเพิ่มขึ้นเพียง 16% ในช่วงเวลาดังกล่าว

จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารายได้ประมาณครึ่งหนึ่งของบริษัทต่าง ๆ ในตลาดดัชนี S&P 500 นั้นส่วนใหญ่มาจากส่วนอื่น ๆ ของโลก ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ในตลาดดัชนี Russell 2000 มุ่งเน้นไปที่ตลาดในประเทศเป็นหลัก ตัวเลขราคาดังกล่าวในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมองสภาพเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่สู้ดีนักและขาดความเชื่อมั่นหากราคาหุ้นเป็นดัชนีชี้วัดที่น่าเชื่อถือสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคต

“บริษัทขนาดย่อมต่าง ๆ กลายเป็นธุรกิจประเภทที่มุ่งเน้นการเติบโตมากขึ้น ซึ่งราคาหุ้นของธุรกิจเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างความแม่นยำกว่า เมื่อนักลงทุนไม่มั่นใจในเส้นทางการเติบโตในอนาคต พวกเขามักจะทิ้งหุ้นเหล่านั้นก่อนที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะมาถึง ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐของเฟด นักลงทุนยังไม่เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาจะสามารถช่วยเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้ในขณะนี้”

นายจิมมี่ กล่าวอีกว่า บริษัทต่าง ๆ ใน Russell 200 มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 เท่าในปี 2561 ดัชนีรัสเซล 2000 ลดลง 13% ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ดัชนีรัสเซล 2000 เพียงเพิ่มขึ้น 6% เทียบกับ ดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 9% ผลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของนโยบายด้านการเงินแบบผ่อนปรนจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

“จากการเจรจาด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่เซี่ยงไฮ้รอบนี้ยังไม่เห็นความก้าวหน้าเท่าที่ควรและดูเหมือนว่ามุมมองในแง่ดีของ G-20 จะจางหายไปในไม่ช้า จึงมีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะเกิดข้อตกลงอย่างรวดเร็วระหว่างทั้งสองฝ่าย เพราะแต่ละฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งในประเด็นสำคัญ เช่น ความต้องการของกรุงวอชิงตันในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของจีน ขณะที่กรุงปักกิ่งมีการเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกายกเลิกภาษีศุลกากรขาเข้าสำหรับสินค้าของจีนที่ยังคงมีอยู่ ความตึงเครียดทางการค้าจะเป็นตัวชักชวนให้ธนาคารกลางเข้ามาร่วมสมาคมผู้รักนโยบายบรรเทาเศรษฐกิจมากขึ้น” นายจิมมี่ กล่าว

ทั้งนี้ นายจิมมี่ ซู จะมาร่วมคาดการณ์ตลาดทั้งสำหรับประเทศไทย อาเซียน และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เป็นครั้งแรกในรอบปี พร้อมรับฟังแนวโน้มตลาดครึ่งปีที่เหลือของ 2562 รวมถึง นายมาริโอ ซิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังจะมาแนะนำวิธีการปรับตัวให้กับนักลงทุนเพื่อทำกำไรและอยู่รอดในตลาดขาลง พร้อมกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้ก่อตั้งสมาคมการลงทุนเน้นคุณค่าแห่งประเทศไทยที่จะร่วมให้ข้อมูลการพัฒนาเส้นทางการลงทุนทั้งแนวทางการเรียนรู้วิธีเอาชนะความท้าทายในฐานะนักลงทุนและการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการลงทุนที่มีมูลค่าสูงในตลาดปัจจุบัน ในงาน “Bangkok ASEAN Tour 2019” ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 13.00.-17.00น. ณ บางกอก แมรีออท โฮเต็ล สุขุมวิท กรุงเทพฯ

นักลงทุน นักธุรกิจและผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมได้ฟรี โดยลงทะเบียนที่ https://bit.ly/2KBoxLv ติดตามรายละเอียดการจัดงานเพิ่มเติมที่ http://www.fullertonmarkets.com https://www.facebook.com/pg/FullertonMarkets http://twitter.com/fullertonmkts https://www.instagram.com/fullertonmarkets