New Issues » “อมตะ” จับมือ “ดีป้า” พัฒนาบุคลากรยุคดิจิทัลรับสมาร์ทซิตี้ 1.8 แสนคนใน 5 ปี

“อมตะ” จับมือ “ดีป้า” พัฒนาบุคลากรยุคดิจิทัลรับสมาร์ทซิตี้ 1.8 แสนคนใน 5 ปี

27 สิงหาคม 2019
0

alivesonline.com : นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ร่วมมือ กับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดตัว  “ห้องเรียนรู้อัจฉริยะ” แห่งแรกในนิคมฯ อมตะซิตี้ หวังเป็นศูนย์กลางพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลรองรับเมืองอัจฉริยะแห่งแรกของไทยในพื้นที่อีอีซี พร้อมโชว์โมเดลเมืองแห่งอนาคตใน “อมตะ สมาร์ท ซิตี้ โชว์เคส” มุ่งเพิ่มทักษะด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลให้บึคลากร 1 หมื่นคนต่อปี พร้อมพัฒนาบุคคลมีความรู้ทั้งในระดับทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระดับมืออาชีพ 4 หมื่นคนต่อปี ก่อนก้าวสู่เป้าหมายพัฒนาบุคคลไทยมีความเป็นเลิศด้านดิจิทัล 1 แสนคนใน 2 ปี และเพิ่มเป็น 1.8 แสนคนภายใน 5 ปี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในงานพิธีเปิดห้องเรียนรู้อัจฉริยะ (DEPA AMATA Smart Classroom) และAMATA SMART City Showcase นิคมอมตะซิตี ชลบุรี ว่า การพัฒนาเทคโนโลยีที่กลุ่มอมตะ ได้ดำเนินการถือเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ตามนโยบายยุทธศาสตร์ 20 ปี ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรที่จะต้องให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต ส่งผลให้ไทยมีขีดความสามารถการแข่งขันมากยิ่งขึ้น

“การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย เป็นหนึ่งใน 12 นโยบายหลักของรัฐบาลซึ่งโครงการนี้ตอบโจทย์ในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนออนไลน์แบบเปิดที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้ตอบสนองกับความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต สอดคล้องกับแนวทางในการพัฒนาประเทศยุคเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคต หรือยุค 4.0”

ด้าน นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ อมตะ ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดีป้า” (DEPA) ในการเปิดห้องเรียนรู้อัจฉริยะ (DEPA AMATA Smart Classroom) และ AMATA SMART City Showcase ซึ่งตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัลโดยต้องเร่งพัฒนาบุคคลากรที่สามารถรองรับกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี ) ที่ต้องก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต ส่งผลให้ไทยมีขีดความสามารถการแข่งขันมากยิ่งขึ้น

“โครงการห้องเรียนรู้อัจฉริยะนับเป็นความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ถือเป็นครั้งแรกของอมตะ ในความความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมในเป้าหมายการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีให้ได้ 1 แสนคนในระยะ 2 ปีข้างหน้า โดยเริ่มต้นจากปี 2562 ที่คาดว่าจะสามารถให้การฝึกอบรมบุคลากรได้ทันทีจำนวน 1.2 หมื่นคน”

ในส่วนของความคืบหน้า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการต่าง ๆ ภายใต้สมาร์ทซิตี้ ในปลายปี 2562 หลังจากที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงาน สถาบันการศึกษา และองค์กรจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น สวีเดน และ จีน ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญ และให้ความสำคัญในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีใช้งบประมาณสูงถึง 3.8-4.6 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP ) ขณะที่ไทยเริ่มให้ความสำคัญในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยี และปัจจุบันได้เตรียมพร้อมการลงทุนในระบบสาธารณูปโภค เพื่อการวิจัยและพัฒนาโดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะของบุคลากรให้สามารถรองรับกับภาคการผลิตที่มีการใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ซึ่งแรงงานไทยเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ สามารถยกระดับความรู้ความสามารถให้ทัดเทียมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น

ในการเปิดตัวห้องเรียนอัจฉริยะครั้งนี้ยังได้มีการจัดแสด แผนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ในรูปแบบ “อมตะ สมาร์ท ซิตี้ โชว์เคส” ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเมืองอมตะสมาร์ทซิตี้ โดยมีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ Yokohama Urban Solution Alliance (YUSA), Jiangsu Smart City Construction Management, SAAB, Nissan, Delta, Hitach iLumada Center เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ได้มีการจัดทำเป็นโมเดลเพื่อชี้ให้เห็นรูปแบ และการวางระบบสาธารณูปโภค ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า DEPA ให้การสนับสนุนโครงการห้องเรียนรู้อัจฉริยะ ในพื้นที่นิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาทรัพยากรบุคคลในภาคอุตสาหกรรมให้มีทักษะด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้น 1 หมื่นคนต่อปี และมีเป้าหมายระดับประเทศในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลทั้งในระดับทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Literacy Skill และระดับมืออาชีพ หรือ Professional Skill ประมาณ 4 หมื่นคนต่อปี โดยภายใน 5 ปีจากนี้ประเทศไทยจะมีทรัพยากรบุคคลด้านดิจิทัลทั้งสิ้น 1.8 แสนคน