ท่ามกลางการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบของมนุษย์ ในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ มากมาย หลาย ๆ คนจึงต่างหันมาให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ภายในหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เริ่มรณรงค์หากิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้พนักงาน “ดูแลสุขภาพ” และ “สิ่งแวดล้อม” ไปพร้อม ๆ กัน
เช่นเดียวกับ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ หลังจากย้ายสำนักงานใหม่ไปย่านสุรวงศ์ ไม่รอช้าเดินหน้ายึดแนวคิด “Well-Being” การสร้างสุขภาวะองค์รวมที่ดีจากภายในสู่ภายนอก โดยบอสสาวสายเฮลตี้ ‘ดุษฎี ตันเจริญ’ กรรมการผู้จัดการ จับมือผู้บริหาร ‘วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ‘ศักดินา แม้นเลิศ’ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ และพนักงานกว่า 100 ชีวิต ร่วมกันเนรมิตพื้นที่ว่างบนดาดฟ้าให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวและปลูกผักผลไม้อินทรีย์ (Organic) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาวะที่ดี ตลอดจนสร้างเป็นแหล่ง Sharing แลกเปลี่ยนเรียนรู้และกินอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมเผยว่า
“ตลอดระยะเวลา 4 ปีหลังมานี้ มั่นคงฯ ได้ยึดและดำเนินการตามหลักแนวคิดเรื่อง Well-Being สุขภาวะองค์รวม ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นสร้างความสุขทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ภายในองค์กรผ่านการดูแลพนักงานซึ่งนับเป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้มีสภาวะการทำงานที่ดี เพื่อพร้อมส่งต่อความสุขไปยังผู้บริโภคผ่านสินค้าและบริการ จนกระทั่งล่าสุดได้มีการขยับขยายย้ายออฟฟิศใหม่ เราจึงถือโอกาสนี้ชวนพนักงานสร้างพื้นที่บริเวณดาดฟ้าเป็น Rooftop Organic Garden โดยให้พนักงานมาร่วมปลูกผักผลไม้อินทรีย์ในชนิดที่ต่างกันแต่ละแผนก เพื่อนำมาบริโภคและแลกเปลี่ยนกันกิน รวมถึงนำไปใช้ในการทำอาหารซึ่งนับเป็นกิจกรรมด้าน Well-Being กิจกรรมแรกของการย้ายออฟฟิศใหม่ในครั้งนี้”
สำหรับ สวนผักและผลไม้อินทรีย์ (Organic) ที่เหล่าผู้บริหารและพนักงานได้ร่วมกันปลูกประกอบด้วย 7 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก เป็น แปลงผักสลัด 12 แปลง อาทิ สลัดคอส สลัดบัตเตอร์เฮด สลัดกรีนโอ๊ค สลัดเรดโอ๊ค และสลัดฟิลเลย์ ถัดมา ส่วนที่ 2 เป็น สวนผักแนวตั้ง ซึ่งปลูกวอเตอร์เครสบนกระถางโมดูล่ากรีน (SCG) ทั้งหมด 36 กระถาง โดยสามารถปลูกผักแนวตั้งได้อย่างเป็นระเบียบและสวยงาม ในส่วนที่ 3 คือ ศาลาเรียนรู้ (Organic Workshop) เป็นศาลาทรงกลม ที่ใช้วัสดุธรรมชาติหลังคามุงจากแน่นหนาและให้ความเย็นสบายตลอดทั้งวัน ส่วนที่ 4 คือการปลูก ต้นมะนาว ซึ่งเป็นการเติมวิตามินซีให้กับร่างกาย สร้างความกระปรี้กระเปร่าในการทำงาน นอกจากนี้ยังนำไปสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มน้ำผึ้งมะนาวให้เกิดความสดชื่นระหว่างวันทำงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ส่วนที่ 5 การปลูกต้นแก้วมังกรสีแดง และต้นกล้วย เป็นผลไม้มงคลที่ปลูกง่ายและนิยมนำมารับประทาน เหมาะสำหรับทานเป็นของว่างยามบ่าย ส่วนที่ 6 การปลูกผักสวนครัวและสมุนไพรพื้นบ้าน อาทิ กะเพราขาว กะเพราแดง โหระพา จิงจูฉ่าย ผักชี สะระแหน่ ตะไคร้ ต้นหอม ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาหารหรือทานแนมกับอาหารจานหลักตามแนวคิด “ผักครึ่งหนึ่งผลไม้ครึ่งหนึ่ง” ที่ควรรับประทานในแต่ละมื้อ และส่วนสุดท้าย เป็นโรงเพาะชำสำหรับเพาะต้นกล้า สลัดผัก และผักสวนครัว เพื่อการกินอยู่อย่างยั่งยืน
‘ดุษฎี ตันเจริญ’ กล่าวย้ำถึงโครงการนี้ด้วยว่า
“ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เรื่องของอาหารการกินและวัตถุดิบต่าง ๆ ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีเสมอ เพราะกว่า 80% ของการมีร่างกายที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง นอกจากจะมาจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมาจากสิ่งที่เรารับประทานเข้าไป ดังนั้น กิจกรรมปลูกผักผลไม้อินทรีย์จึงเป็นส่วนเล็ก ๆ ของการเริ่มต้นออฟฟิศใหม่ที่ตอกย้ำจุดยืนในเรื่องสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน สะท้อนความสำเร็จขององค์กรไปอีกขั้น”