New Issues » “บิวตี้ คอมมูนิตี้” เร่งขยายจุดจำหน่ายเครื่องสำอางและบำรุงผิวในจีน 3.5 หมื่นแห่ง

“บิวตี้ คอมมูนิตี้” เร่งขยายจุดจำหน่ายเครื่องสำอางและบำรุงผิวในจีน 3.5 หมื่นแห่ง

21 ตุลาคม 2019
0

alivesonline.com : BEAUTY เผยธุรกิจไตรมาส 3 คาดความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น จากกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน แผนการตลาดในประเทศ เน้นพัฒนาช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงกลุ่มลูกค้า รุกตลาด BEAUTY & HEALTH พร้อมเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศและตลาดออนไลน์ต่อเนื่อง เผยขยายตลาดที่หลากหลายมากกว่า 10 ประเทศ โดยเฉพาะจีนตั้งเป้าเพิ่มจุดจำหน่ายจาก 2.8 หมื่นแห่งเป็น 3.5 หมื่นแห่งภายในสิ้นปี 62

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าความสามารถในการทำกำไรน่าจะดีขึ้น จากการปรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน มุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนการบริหาร ควบคุมค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด การปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้งต้นทุนคงที่ต่าง ๆ

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจช่วงต่อจากนี้มุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยตลาดในประเทศจะมีการปรับคอนเซ็ปต์และรูปแบบของช่องทางจำหน่ายหลัก รวมทั้งพัฒนาโมเดลใหม่ ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ปรับรูปแบบร้านค้าปลีก “BEAUTY BUFFET” เป็นร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ จำหน่ายสินค้าทั้งด้านสุขภาพและความงามครบวงจร มีผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางและสุขภาพชั้นนำ เพื่อสร้างความน่าสนใจและยังรักษาความเป็น Private Label ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ โดยสัดส่วนผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น สินค้าแบรนด์ “BEAUTY BUFFET” 80% และสินค้าแบรนด์พันธมิตรชั้นนำ (มัลติแบรนด์) 20%

“จากกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ BEAUTY BUFFET มีสินค้าหลากหลาย สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ และสินค้า Health-Related Product เข้ามาขายในร้านเพิ่มขึ้น”

นายแพทย์สุวิน กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ยังมีแผนปรับคอนเซ็ปต์สินค้าแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เช่น BEAUTY COTTAGE ที่เป็นร้าน Single Brand จะเติมนวัตกรรมเข้ามาในธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถในการบริการลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจมากขึ้นด้วยบริการที่เป็น Beauty Solutions เช่น Facial Solution สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและเมคอัพอย่างครบวงจร

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย Commerce Business เช่น E-Commerce, ช่องทางสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) จะช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตและรักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากช่องทางดังกล่าวมีต้นทุนดำเนินการต่ำ และเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป

“สำหรับตลาดต่างประเทศ มีการขยายไปในตลาดที่หลากหลายมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว ไต้หวัน ฮ่องกง บรูไน ญี่ปุ่น อินเดีย เป็นต้น ซึ่งได้มีการทยอยเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยจะมุ่งเน้นขยายตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ จีน พม่า อินโดนีเซีย อินเดีย เป็นต้น”

นายแพทย์สุวิน กล่าวตอนท้ายว่า ในส่วนของตลาดจีนซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการปรับแผนการตลาดเชิงรุกในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยการเพิ่มช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งในกลุ่มออนไลน์และออฟไลน์ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าชาวจีนได้โดยตรง ประกอบด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ของจีน (CBEC : Cross Border E-Commerce) และร้านค้าทั่วไป (General Trade) โดยตั้งเป้ามีจุดจำหน่ายสินค้าภายในสิ้นปีมากกว่า 3.5 หมื่นจุดจำหน่าย จากปัจจุบันที่มีจุดจำหน่าย 2.8 หมื่นแห่ง และมีกระแสตอบรับที่ดีจากช่องทางอีขคอมเมิร์ซในประเทศจีน รวมถึงมีการทำการตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย จึงส่งผลให้ Official Distributor ทยอยสั่งสินค้าต่อเนื่อง เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงลูกค้า (Penetration Rate) มากขึ้น