alivesonline.com : เผยตลาดธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์ไทย มูลค่ากว่า 2แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 15-20% ท่ามกลางภาวะแข่งขันดุเดือด “จีไอเอส” มุ่งเป้าหมายผู้นำตลาด IoT Logistics ส่ง “NOSTRA LOGISTICS Analytics Platform” และ “Telematics Solution” ตอบรับตลาดขาขึ้น ผลักดันธุรกิจขนส่งสู่ “สมาร์ท ลอจิสติกส์” ชูจุดขาย 3S “SAFTY-SAVING- SATISFACTION” เพื่อความคุ้มค่าในการลงทุน
นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กำลังขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัว ส่งผลต่ออุตสาหกรรมขนส่งและลอจิสติกส์ในประเทศไทย มูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท มีการขยายตัวไปในทิศทางเดียวกันด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงปีละ 15-20% จัดเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่มีอัตราการเติบโตสูงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
บริษัทฯ มองเห็นโอกาสและวางกลยุทธ์ทางการตลาดในอุตสาหกรรมขนส่งและลอจิสติกส์ จึงเปิดเกมรุกด้วย NOSTRA LOGISTICS Analytics Platform และ Telematics Solution เป็นผลิตภัณฑ์เรือธง พร้อมด้วย GPS Tracking เพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจขนส่งที่มองหาระบบการจัดการการขนส่งและลอจิสติกส์ที่ทรงประสิทธิภาพในยุคแห่งการแข่งขันที่เข้มข้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยหัวใจสำคัญของธุรกิจขนส่งคือ ความเร็วในการจัดส่งสินค้า การส่งมอบสินค้าตรงเวลา สินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พนักงานให้บริการอย่างมืออาชีพ และผู้รับสินค้ามีความพึงพอใจ
“ธุรกิจลอจิสติกส์ไทยเติบโตท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โดยผู้ประกอบการได้เร่งปรับตัว พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ และโมบายแอปพลิเคชันเรียลไทม์ เข้ามาปรับใช้ในการให้บริการลอจิสติกส์เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่กับการเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า”
นางวรินทร กล่าวอีกว่า แม้ธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์จะเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่มีการเติบโตสูง แต่ก็จัดเป็นกลุ่มธุรกิจที่ต้องเผชิญหน้ากับสภาพตลาดการแข่งขันที่รุนแรง ดังเช่นปัญหาใหญ่ 3 ประการ ได้แก่ การเข้ามาชิงพื้นที่ตลาดของกลุ่มทุนลอจิสติกส์ต่างชาติซึ่งมีความพร้อมทั้งต้นทุนและเครือข่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น สินค้าออนไลน์และอี-คอมเมิร์ซฯลฯ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังต้องแบกรับต้นทุนการขนส่งที่สูง เช่น ค่าเชื้อเพลิง หรือการวิ่งรถเที่ยวเปล่าที่ทำให้สูญเสียโอกาสในการใช้รถ จึงต้องปรับตัวด้วยเทคโนโลยีและการพัฒนารูปแบบทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว
สำหรับผลิตภัณฑ์เรือธงที่ต่อยอดจากระบบ GPS Tracking เพื่อตอบสนองความต้องการตลาด 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ “NOSTRA LOGISTICS Analytics Platform” เป็นการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการขนส่งและลอจิสติกส์ เพื่อเชื่อมโยงทุกข้อมูลการขนส่งเข้าสู่ระบบดิจิทัลและผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้ง GPS, Telematics, IoT (Internet of Things) และ Big Data Analytics จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจขนส่ง ตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูลติดตามการขนส่งที่มาจากแหล่งข้อมูล หรือแพลตฟอร์มระบบ GPS Tracking ที่ต่างกัน อาทิ ข้อมูลพิกัดรถ ระยะทาง ระยะเวลา ความเร็วในการขับรถ พฤติกรรมการขับขี่และข้อมูลอื่น ๆ ที่มาจากอุปกรณ์เทเลเมติกส์ โดยรวบรวมและนำเข้าสู่ NOSTRA LOGISTICS Analytics Platform แล้วประมวลผลและนำเสนอภาพรวมข้อมูลจากรถขนส่งทั้งหมดเพื่อประกอบการทำงานในระดับโอเปอเรชั่น รวมถึงการวิเคราะห์และให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้บริหารจัดการ Fleet เช่น รายงานภาพรวมการจัดส่งสินค้าตามแผนงาน รายงานประเมินคะแนนพฤติกรรมผู้ขับขี่ ฯลฯ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา และช่วยตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้แม่นยำขึ้นด้วยแพลตฟอร์มนี้จะช่วยลดปัญหาการเชื่อมโยงข้อมูลขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละราย ลดข้อจำกัดในการเลือกใช้ระบบติดตามการขนส่ง ลดความยุ่งยากและเวลาในการจัดการข้อมูลต่างระบบ และเพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาการขาดข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับธุรกิจ
ส่วนอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งคือ “Telematics Solution” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้เหนือกว่าระบบ GPS Tracking ทั่วไป ด้วยการใช้ IoT (Internet of Things) เชื่อมต่อและสื่อสารกับกล่องจีพีเอสและอุปกรณ์เทเลเมติกส์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งบนรถ โดยนอกจากข้อมูลการติดตามรถแล้ว เทเลเมติกส์จะเน้นเรื่องการตรวจสอบและป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายในระหว่างการขับขี่เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โดยสามารถแจ้งเตือนคนขับและผู้ควบคุมงานขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังเก็บข้อมูลของระบบเครื่องยนต์ในการใช้รถตามการใช้งานจริง เช่น น้ำมัน ระยะทาง เพื่อประเมินสภาพรถขนส่งและวางแผนการบำรุงรักษารถ รวมทั้งแสดงรายงานผลในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับสรุปผลการวิ่งงานขนส่ง พร้อมรายงานประเมินคะแนนพฤติกรรมผู้ขับขี่ ด้วยเทเลเมติกส์โซลูชันจะเพิ่มความปลอดภัยตลอดทริปขนส่ง บริหารการใช้รถขนส่งได้มีประสิทธิภาพ และควบคุมค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถ เสริมความปลอดภัย และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
“นอสตร้า โลจิสติกส์ มีจุดแข็งอยู่ที่ประสบการณ์ในธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์ในประเทศไทยมากกว่า 15 ปี โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็น Professional IoT Logistics Solutions System Integrator ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างและให้บริการโซลูชันด้วยเทคโนโลยี IoT Logistics จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบ NOSTRA LOGISTICS ให้เป็น Total Transportation and Logistics System ที่มีฟังก์ชันเพื่องานขนส่งแบบครบวงจร ได้แก่ Fleet Tracking & monitoring, Fleet management, Shipment management, Resource optimization และ Safety management และโซลูชันที่พัฒนาอย่างเฉพาะเจาะจงให้กับธุรกิจของลูกค้าเพื่อตอบโจทย์การทำงานที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ โดยจะสามารถใช้ประโยชน์จากระบบของ NOSTRA LOGISTICS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผนวกกับการออกแบบโซลูชันแบบพร้อมใช้งาน หรือ Ready to Use Solutions”
นางวรินทร กล่าวต่ออีกว่า นอสตร้า ลอจิสติกส์ จะเดินหน้าธุรกิจด้วยจุดขาย 3S เพื่อความคุ้มค่าในการลงทุน ประกอบด้วย SAFETY สร้างความปลอดภัยให้แก่ชีวิต สินค้า และทรัพย์สินการขนส่งให้แก่ธุรกิจ SAVING ธุรกิจสามารถประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายขนส่ง และน้ำมัน และ SATISFACTION ธุรกิจและลูกค้าของธุรกิจมีความพึงพอใจจากการนำเสนอบริการขนส่งที่มีมาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการนำเสนอโปรดักส์และโซลูชันที่ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจขนส่งและลอจิสติกส์
“สำหรับภาพรวมสถานการณ์และแนวโน้มตลาดลอจิสติกส์ในไตรมาส 4 ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยอยู่ในระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์เทเลเมติกส์เชื่อมต่อกับระบบ GPS ติดตาม ทั้งกล้องวิดีโอออนไลน์แบบเคลื่อนที่ หรือ MDVR และกล้อง DMS เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถและช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ให้แก่ลูกค้าธุรกิจขนส่งทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่หลายโครงการ เป็นผลให้ผลประกอบการตลอดไตรมาส 3 เติบโต จึงมั่นใจว่าจะสามารถปิดไตรมาส 4 เป็นไปตามเป้า ด้วยการเติบโตเพิ่มรวม 50% จากปีที่ผ่านมา” นางวรินทร กล่าวในตอนท้าย