alivesonline.com : “อาร์เอส” เดินเกมชิงผู้นำธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง ประกาศรีแบรนด์ “RS Mall” บุกแฟลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ ชิงตลาดอี-คอมเมิร์ซมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์คุณภาพอันดับ 1 มั่นใจสินค้ากว่า 200 เอสเคยูโดดเด่นทั้งคุณภาพ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล ผนึกพันธมิตรสื่อผสานความแข็งแกร่งรุกตลาดเต็มพิกัด มุ่งกรุยรายได้สู่ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2565
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือ MPC) ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ภายใต้แนวคิด “ทำธุรกิจใหม่ ไร้กรอบ” ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ “อาร์เอส” ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจทีวีดิจิทัล รวมถึงความท้าทายใหม่ในยุคการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี”
การประกาศรีแบรนด์ธุรกิจครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “RS Mall” จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายแนวรุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือสูงที่สุดในโลก
ปัจจุบันธุรกิจ MPC เข้าสู่เฟส 2 มุ่งขยายช่องทางจำหน่ายไปสู่ออนแอร์และออนไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการที่หลากหลาย ภายใต้ชื่อ RS Mall โดยตั้งอยู่บนจุดแแข็งของการมีธุรกิจสื่อและพันธมิตรสื่อรวมทั้งมีคอลล์เซ็นเตอร์ที่แข็งแกร่งหนุน โดย RS Mall มีโปรดักส์ไลน์ที่เน้นด้านนวัตกรรมคุณภาพสินค้าพรีเมียมกว่า 200 เอสเคยู ช่องทางการจำหน่าย โฟกัสที่ออนไลน์ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Line @ โดยเปิด Official Page บนแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซ ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางอี-คอมเมิร์ซของตัวเอง RS Mall จึงเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าและบริการทุกอย่าง โดยมีทั้งที่ลงทุนสร้างเอง เช่น Home Shopping, Direct Sale รวมถึงร่วมมือกับแพลตฟอร์มของพันธมิตรธุรกิจสื่อที่จับมือกับเรา เช่น ไทยรัฐทีวี, เวิร์คพอยทีวี เมื่อผสมผสานรวมกัน ธุรกิจมีเดียที่มีอยู่ในมือ ทั้งช่อง 8 และคูลฟาเรนไฮต์ (COOL fahrenheit) สิ่งที่ตามมาคือ Big Dat” ที่ทำให้ธุรกิจ MPC เรามีแต้มต่อ รู้และเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละคน ยิ่งลูกค้าซื้อสินค้าเรามากและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เมื่อเราออกผลิตภัณฑ์สุดยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้ากลับมาซื้อ ประกอบกับได้พันธมิตรทางธุรกิจอย่างกลุ่ม BTS มาช่วยบริการด้านลอจิสติกส์ที่ครบวงจรทั้งขนส่งและคลังสินค้า โดย Kerry เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service ที่มีศักยภาพเหนือคู่แข่ง
“RS Mall เป็นการรวมจุดแข็งของธุรกิจ MPC ของอาร์เอสในทุกแพลตฟอร์มมาไว้ที่เดียว เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ใช้ช่องทางดิจิทัลในการทำธุรกรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการซื้อสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม การรีแบรนด์ครั้งนี้จะช่วยสร้างการจดจำและตอกย้ำ RS แบรนด์สินค้าคุณภาพอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการจับจ่ายซื้อสินค้าผู้บริโภคได้ในทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม”
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา อาร์เอส ได้ผนึกพันธมิตรผู้นำอุตสาหกรรมไว้มากมายเพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าที่มีทั้งกลุ่ม BTS ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ มีผู้โดยสารถึงเกือบ 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน และ VGI ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน รวมทั้งช่องไทยรัฐทีวี, ช่องเวิร์คพอยท์ และในอนาคตกำลังจะมีช่องทีวีใหม่ ๆ ร่วมขยายธุรกิจ MPC ด้วย ซึ่งทุกช่องทางได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีความโดดเด่นด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลกกว่า 200 รายการ อาทิ สินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ แบรนด์มาจีค (Magique) รีไวฟ์ (Revive) หรือสินค้ากลุ่มอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ S.O.M. เช่น กาแฟสำเร็จรูปชนิดผงสำหรับชงดื่มสำหรับผู้ชาย (S.O.M. CMax) เป็นต้น
สำหรับสินค้าในเครือ RS ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่ดีต่อสุขภาพและความงามของผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าประจำกว่า 2 ล้านราย และยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลฐานลูกค้าดังกล่าวถือเป็นหัวใจสำคัญที่สามารถนำมาวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผลจากการรีแบรนด์ครั้งใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้ธุรกิจ MPC มีอัตราการเติบโตในปี 2563 อย่างก้าวกระโดด และเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันรายได้สู่เป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 ตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 มองว่าธุรกิจพาณิชย์ค้าปลีกหลายช่องทางจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนผู้ประกอบการและสินค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยแบรนด์ RS Mall ที่แข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมลงทุนกว่า 10 ล้านบาท สำหรับบุคลากร ขยายจำนวนเทเลเซลล์ เพื่อให้บริการและตอบปัญหาลูกค้าโดยตั้งเป้าเป็นแบรนด์สินค้าอันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภค และเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าชั้นนำทั้งออนแอร์และออนไลน์ของเมืองไทยภายใน 3 ปีต่อจากนี้ จากการเห็นโอกาสทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างใกล้ชิด” นายสุรชัย กล่าวในตอนท้าย