New Issues » “บิวตี้ คอมมูนิตี้” ปรับแผนธุรกิจเร่งปั๊มยอดขาย Q4

“บิวตี้ คอมมูนิตี้” ปรับแผนธุรกิจเร่งปั๊มยอดขาย Q4

16 พฤศจิกายน 2019
0

alivesonline.com : BEAUTY เผยผลประกอบการไตรมาส 3/62 รายได้รวม 456.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 50.85 ล้านบาท เติบโต 8.73 % และงวด 9 เดือน รายได้รวม 1,537.32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 167.17 ล้านบาท มองโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ยังมีแนวโน้มดี รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซันนักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม เร่งผลักดันยอดขายเต็มสูบ ลุยจัดโปรโมชันครบรอบ 12 ปี “BEAUTY BUFFET” ด้านตลาดต่างประเทศยอดสั่งซื้อเติบโตจากจีน พม่า อินโดนีเซีย และเวียดนาม เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการปรับโครงสร้างการจัดจำหน่าย

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2562 มีรายได้รวม 456.98 ล้านบาท ลดลง 14.04 % และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.73 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/62 ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2562 มีรายได้รวม 1,537.32 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 167.17 ล้านบาท

ผลประกอบการไตรมาส 3 ในส่วนของกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน มุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนการบริหาร ควบคุมค่าใช้จ่ายแปรผันและต้นทุนคงที่ต่าง ๆ การย้ายสาขาและปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโต ขณะที่รายได้รวมปรับตัวลดลงเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน (Low Season) ของธุรกิจเครื่องสำอาง กำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศหดตัว นักท่องเที่ยวจีนลดลง ด้านตลาดต่างประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากกฎหมายควบคุมการนำเข้าสินค้าจีนในรูปแบบการหิ้วสินค้า แต่บริษัทฯ สามารถทำตลาดในประเทศจีนโดยตรงได้ดีขึ้นโดยแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหลายราย

“สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคให้กลับมาคึกคักในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งบริษัทฯ จะเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายและออกโปรโมชันต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับลูกค้าสมาชิก โดยเฉพาะกิจกรรมครบรอบ 12 ปี BEAUTY BUFFET”

บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยตลาดในประเทศจะมีการปรับคอนเซ็ปต์และรูปแบบของช่องทางจำหน่ายหลัก รวมทั้งพัฒนาโมเดลใหม่ ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย Commerce Business เช่น e-Commerce และช่องทางสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) จะช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตและรักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากช่องทางดังกล่าวมีต้นทุนดำเนินการต่ำและเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป

สำหรับตลาดต่างประเทศจะขยายไปในตลาดที่หลากหลายมากกว่า10 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว ไต้หวัน ฮ่องกง บรูไน ญี่ปุ่น อินเดีย เป็นต้น โดยจะมุ่งเน้นขยายตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ จีน พม่า อินโดนีเซีย เวียดนาม

นายแพทย์สุวิน กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของตลาดจีนซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการเพิ่มช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งในกลุ่มออนไลน์และออฟไลน์ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าชาวจีนได้โดยตรง ประกอบด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ของจีน (CBEC : Cross Border E-Commerce) และ ตลาดร้านค้าทั่วไป (General Trade) ตั้งเป้ามีจุดจำหน่ายสินค้าภายในสิ้นปีมากกว่า 3.3 หมื่นจุดจำหน่าย จากปัจจุบันที่มี 2.8 หมื่นแห่ง และมีกระแสตอบรับที่ดีจากช่องทาง e-Commerce ในประเทศจีน รวมถึงมีการทำการตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างการยอมรับในสินค้าและแบรนด์ BEAUTY อาทิ เทศกาล วันคนโสด 11.11 หรือ Single Day ของอาลีบาบาในประเทศจีน สินค้าของบริษัทจำหน่ายผ่านช่องทาง TMALL เติบโตถึง 48 % เมื่อเทียบปีที่แล้ว

“การขยายธุรกิจหลายช่องทางทำให้ BEAUTY มีศักยภาพเติบโต การปรับกลยุทธ์โครงสร้างการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ ซึ่งสินค้า BEAUTY ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีนและประเทศเขตเอเชียมีแนวโน้มการเติบโตเห็นได้ชัดเจน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง”