New Issues » ธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพ “ซบ” ตามกำลังซื้อ “ทรุด”

ธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพ “ซบ” ตามกำลังซื้อ “ทรุด”

16 พฤศจิกายน 2019
0

aliveonline.com : APCO เผยแพร่ “นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด” ดันยอดขาย LIV โต 30% รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 80% เผยทิศทางธุรกิจ Q4/62 รุกเจรจานักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เร่งขยายฐานผู้บริโภค ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน รายได้ 208.58 ล้านบาท กำไร 41.83 ล้านบาท

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามในประเทศปี 2562 ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังค่อนข้างทรงตัว แต่ APCO ยังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมจากการเผยแพร่ “นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด” ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ LIV ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทมียอดขายเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 80%

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายฐานกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ LIV และ Operation BIM เพิ่มเติม โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาร่วมมือกับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้มีการใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2563 เป็นต้นไป โดยเชื่อมั่นว่าหากการร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จจะส่งให้ผลประกอบการกลับมาโดดเด่นได้ แม้ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2562 มีรายได้รวม 208.58 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 273.21 ล้านบาท จำนวน 64.63 ล้านบาท หรือลดลง 23.65% และมีกำไรสุทธิ 41.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.93 ล้านบาท จำนวน 27.10 ล้านบาท หรือลดลง 39.32% ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 มีรายได้รวม 64.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 94.59 ล้านบาท จำนวน 29.72 ล้านบาท หรือลดลง 31.42% และมีกำไรสุทธิ 14.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.09 ล้านบาท จำนวน 10.22 ล้านบาท หรือลดลง 40.73% โดยสาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทฯ ชะลอตัวลง มาจากยอดขายของผลิตภัณฑ์บางชนิดลดลง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนจนส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค