New Issues » 9 เดือนแรก “มั่นคงเคหะการ” สร้างรายได้รวม 3.7 พันล้านบาท

9 เดือนแรก “มั่นคงเคหะการ” สร้างรายได้รวม 3.7 พันล้านบาท

17 พฤศจิกายน 2019
0

alivesonline.com : “มั่นคงเคหะการ” โชว์ผลงาน 9 เดือน ปี 2562 สร้างรายได้รวม 3,742 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% หรือประมาณ 339 ล้านบาท กำไรเพิ่ม 36% แจงธุรกิจเพื่อเช่าและบริการมาแรง สร้างรายได้กว่า 242 ล้านบาท กำไรเพิ่มสูงถึง 25% จากปีที่ผ่านมา

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสะสม 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 ว่า มีรายได้รวม 3,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 339 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,237 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6% และรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ 242 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา สำหรับไตรมาส 3/2562 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์มีจำนวน 627 ล้านบาท  ในขณะที่ธุรกิจเพื่อเช่าและบริการสามารถสร้างรายได้ 86 ล้านบาท เติบโต 37%

ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา ยังคงสามารถรักษาระดับรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย ผลเนื่องมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อ LTV และจากภาวะเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกจะชะลอตัว ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงชะลอการเปิดตัวโครงการและเร่งระบายสินค้าคงคลังเก่าให้หมด เป็นผลให้มีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯ มีหลายโครงการที่อยู่ในช่วงใกล้ปิดการขาย เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาส 3 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเรื่องการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีสินค้าที่อยู่ในระดับราคานี้หลายโครงการ ส่วนไตรมาส 4 บริษัทฯ ยังคงดำเนินตามแผนที่วางเอาไว้ ในการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ โดยได้ทำการเปิด 2 โครงการแรกไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว “ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา” ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม “ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์–แจ้งวัฒนะ” ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท

นายวรสิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า จากแผนธุรกิจ 5 ปีที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจเพื่อขายกับธุรกิจเพื่อเช่าและบริการให้มีสัดส่วนเป็น 50:50 ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับกำไรขั้นต้นจากธุรกิจการให้เช่าและบริการในไตรมาสนี้มีจำนวนรวม 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% หรือ 10 ล้านบาท จากยอดรายได้ 86.18 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน จำนวน 74.36 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 41.84% หรือ 21.94 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งเป็นรายได้จากโครงการ “พาร์คคอร์ท” โครงการสนามกอล์ฟ “ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ” และธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด และที่สำคัญบริษัทฯ ยังการรักษาสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนให้ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มีสัดส่วนเท่ากับ 1.15 ลดลงจากสิ้นปี 61

จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสะสม 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 ว่า มีรายได้รวม 3,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 339 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,237 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6% และรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ 242 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา สำหรับไตรมาส 3/2562 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์มีจำนวน 627 ล้านบาท  ในขณะที่ธุรกิจเพื่อเช่าและบริการสามารถสร้างรายได้ 86 ล้านบาท เติบโต 37%

ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา ยังคงสามารถรักษาระดับรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย ผลเนื่องมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อ LTV และจากภาวะเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกจะชะลอตัว ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงชะลอการเปิดตัวโครงการและเร่งระบายสินค้าคงคลังเก่าให้หมด เป็นผลให้มีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯ มีหลายโครงการที่อยู่ในช่วงใกล้ปิดการขาย เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาส 3 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเรื่องการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีสินค้าที่อยู่ในระดับราคานี้หลายโครงการ ส่วนไตรมาส 4 บริษัทฯ ยังคงดำเนินตามแผนที่วางเอาไว้ ในการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ โดยได้ทำการเปิด 2 โครงการแรกไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว “ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา” ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม “ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์–แจ้งวัฒนะ” ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท

นายวรสิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า จากแผนธุรกิจ 5 ปีที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจเพื่อขายกับธุรกิจเพื่อเช่าและบริการให้มีสัดส่วนเป็น 50:50 ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับกำไรขั้นต้นจากธุรกิจการให้เช่าและบริการในไตรมาสนี้มีจำนวนรวม 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% หรือ 10 ล้านบาท จากยอดรายได้ 86.18 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน จำนวน 74.36 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 41.84% หรือ 21.94 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งเป็นรายได้จากโครงการ “พาร์คคอร์ท” โครงการสนามกอล์ฟ “ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ” และธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด และที่สำคัญบริษัทฯ ยังการรักษาสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนให้ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มีสัดส่วนเท่ากับ 1.15 ลดลงจากสิ้นปี 61