alivesonline.com : “ทีเส็บ” ขับเคลื่อนแผนเร่งตลาดนักเดินทางไมซ์ 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังพบมีสัดส่วนสูงกว่า 91% ของภาพรวม จับมือสายการบินแห่งชาติและสายการบินในเครือ “การบินไทย” – “ไทยสมายล์” จัดแคมเปญ APAC MaxiMICE มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กลุ่มจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในไทยที่เดินทาง 40 คนขึ้นไป หวังเพิ่มยอดนักเดินทางได้ 1 หมื่นคน
นางสาววิชญา สุนทรศารทูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า “ทีเส็บ” ร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ร่วมจัดทำแคมเปญ APAC MaxiMICE ส่งเสริมการขายและการตลาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์เข้าสู่ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดและขยายฐานลูกค้าองค์กรในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC ซึ่งเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive)
แคมเปญ APAC MaxiMICE จะมอบสิทธิประโยชน์ให้กลุ่มลูกค้าองค์กรในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ต้องการนำงานประชุมองค์กร หรือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้ามาจัดในประเทศไทย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Silver, Gold และ Platinum สำหรับกลุ่มนักเดินทางตั้งแต่ 40 คนขึ้นไป โดยจะต้องพำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 2 คืน โดยจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ อาทิ ตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การบริการช่องทางพิเศษตรวจคนเข้าเมือง (VIP Fast Track) หรือ MICE Lane ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ของที่ระลึก และการแสดงทางวัฒนธรรม ฯลฯ โดยสามารถติดต่อเพื่อขอรับการสนับสนุนได้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2562 – 31 สิงหาคม 2563 และมีช่วงเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2563
นางสาววิชญา กล่าวว่า ตลาดไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC เป็นตลาดที่มีความสำคัญและครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยปีงบประมาณ 2562 (เดือนตุลาคม 2561 – gfnvoกันยายน 2562) มีภาพรวมนักเดินทางไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาเยือนประเทศไทยจำนวน 1,162,170 คน คิดเป็น 91.22% ของตลาดไมซ์ทั้งหมดซึ่งมีจำนวน 1,273,981 คน โดยนักเดินทางกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกมีสัดส่วนสูงถึง 56.23% หรือคิดเป็นจำนวน 653,459 คน
“ทีเส็บมีแผนดำเนินงานสนับสนุนการจัดงานไมซ์ เร่งเจาะกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของลูกค้าองค์กร หรือ Corporate Market เพื่อดึงงานที่มีคุณภาพให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์อันดีให้ประเทศไทยในฐานะจุดหมายหลักของการจัดงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
นางสาววิชญา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา “ทีเส็บ” ได้เปิดตัวแคมเปญ ASEAN MaxiMICE ร่วมกับ “การบินไทย” เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาดในกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของลูกค้าองค์กร สำหรับ 4 ประเทศหลักในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี สามารถดึงนักเดินทางไมซ์จากทั้ง 4 ประเทศเข้ามาเยือนประเทศไทยได้ทั้งสิ้นจำนวนกว่า 1 พันคน ทำรายได้เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท
ในปีงบประมาณ 2563 (เดือนตุลาคม 2562 – เดือนกันยายน 2563) “ทีเส็บ” จึงเปิดตัวแคมเปญล่าสุด APAC MaxiMICE ขยายโครงการเจาะตลาดเชิงรุกจากเดิมในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มครอบคลุมในตลาดหลักภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมเป็น 15 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และ อินเดีย โดยร่วมมือกับ “การบินไทย” และ “ไทยสมายล์” ซึ่งเป็นสายการบินในเครือ อีกทั้งเป็นสายการบินแห่งชาติและสายการบินหลักของประเทศไทยที่มีเส้นทางการบินหลากหลายในการเข้าถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นและเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์ให้เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทยมากขึ้น โดยประมาณการว่าจะมีนักเดินทางไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเดินทางเข้ามาทั้งสิ้น 1 หมื่นคน
“ทีเส็บยังได้เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแคมเปญนี้ โดยจัดกิจกรรม Thailand MICE Road Show เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมตลาดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าองค์กรตลาดออสเตรเลียและจีน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 และยังจะมีการจัดกิจกรรมแฟมทริปในเส้นทางที่การบินไทย และไทยสมายล์ ให้บริการ รวมถึงการจัดงาน Thailand Incentive and Meeting Exchange 2020 หรือ TIME 2020 ซึ่งเป็นเวทีเชื่อมโยงธุรกิจสำหรับตลาดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลโดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายหลักของการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” นางสาววิชญา กล่าวในที่สุด
ด้าน นายศิริพงษ์ มังคะลี ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ลูกค้ากลุ่มไมซ์จากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เดินทางกับ “การบินไทย” และ “ไทยสมายล์” เป็นจำนวนมากในลำดับต้น ๆ ความร่วมมือในการจัดแคมเปญ APAC MaxiMICE ครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการเดินทางของลูกค้ากลุ่มไมซ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการเดินทางเข้ามาจัดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทยมากขึ้น ยังช่วยให้เกิดการใช้จ่ายและการต่อยอดสู่การท่องเที่ยวไทย รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย
ลูกค้าไมซ์จากแคมเปญ APAC MaxiMICE ที่เดินทางจาก 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้ามายังประเทศไทยโดย “การบินไทย” และ “ไทยสมายล์” จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ บัตรโดยสารหมู่คณะราคาพิเศษ (Special Airfare) บัตรโดยสารอภินันทนาการ (Complimentary Air Ticket) สิทธิพิเศษน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมท่านละ 5 กิโลกรัม (Additional 5kg. Baggage Allowance) สิทธิการเชิญขึ้นเครื่องบินก่อน (Priority Boarding) การจองที่นั่งสำหรับหมู่คณะ (Pre-Assigned Group Seating) การเช็คอินล่วงหน้า (Advanced Group Check-in Special) คำกล่าวต้อนรับสำหรับหมู่คณะบนเครื่อง (On Board Announcement) ที่คลุมพนักเบาะที่นั่งบนเครื่องบินติดตราสัญลักษณ์องค์กรสำหรับหมู่คณะ (Customized Seat Cover) เป็นต้น ซึ่
“ความร่วมมือในครั้งนี้จะเอื้อประโยชน์ต่อ การบินไทย ในฐานะผู้ให้บริการสายการบินที่มีเส้นทางครอบคลุมกว่า 46 เมือง ใน 15 ประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการเดินทางของลูกค้าไมซ์ที่เดินทางกับ การบินไทย และเชื่อมต่อเที่ยวบินกับ ไทยสมายล์ ที่ให้บริการใน 10 เส้นทางบินภายในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศกว่า 21 เส้นทาง ได้อย่างสะดวกสบาย โดยคาดว่าในปี 2563 จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าไมซ์เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น” นายศิริพงษ์ กล่าวในตอนท้าย