alivesonline.com : บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำตามแนวเส้นรถไฟฟ้า เตรียมระดมทุน 250 ล้านหุ้น เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 3 บาท เข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI โบรคเกอร์คาดแนวโน้มเติบโตสูง เพราะมีปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งจำนวนโครงการที่พัฒนาแล้วกว่า 45 โครงการ อยู่ระหว่างการขาย 25 โครงการ อยู่ระหว่างการพัฒนา 2 โครงการ รวมถึงแผนพัฒนาในอนาคตอีก 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก 2561 มีรายได้ 976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% และมีกำไรขั้นต้น 405 ล้านบาท
นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC กล่าวว่า บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาทและพาร์ 1 บาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 1 พันล้านหุ้นของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 3 บาท ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียม ซื้อที่ดิน ตลอดจนชำระหนี้เงินกู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน และคาดว่าภายหลัง IPO อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (D/E) จากปัจจุบันที่มีประมาณ 1.8 เท่า จะลดลงเหลือต่ำกว่า 1.3 เท่า และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหลังจากการเพิ่มทุนกลุ่มแพทยานันท์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะถือหุ้น 75% และนักลงทุนทั่วไปจะถือหุ้นประมาณ 25%
CMC ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 24 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอาคารชุดตามแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยจุดเด่นของบริษัทฯ คือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทำธุรกิจแบบครบวงจร โดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างขายทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่ารอการรับรู้รายได้กว่า 4.1 พันล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1.9 พันล้านบาท คาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์วิเชียร กล่าวด้วยว่า กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนจะเปิดขายและพัฒนาโครงการใหม่อีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2561 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จาก 795 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และมีกำไรขั้นต้น 405 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึงเท่ากับ 41.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 336 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 53 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย
ด้าน นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC กล่าวว่า หุ้น CMC จะเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดย CMC มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 24 ปี ผ่านวิกฤติต่าง ๆ มาได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนโครงการที่พัฒนาแล้วกว่า 45 โครงการ ทั้งยังมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง พิจารณาได้จาก Gross Profit Margin ของบริษัทฯ ที่อยู่ในระดับ 40% ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ประกอบกับ CMC มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 25 โครงการ รวมทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2 โครงการ ขณะที่มีแผนพัฒนาโครงการในอนาคตเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วง 3-4 ปีนี้ซึ่งนักลงทุนสามารถคาดหวังการเติมโตของรายได้ได้ค่อนข้างชัดเจน
นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนทางการเงินได้ โดยซึ่งปัจจุบันต้นทุนทางการเงินเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับผลประกอบการของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าหุ้น CMC จะเริ่มซื้อขายวันแรกในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561