Variety » [ชมคลิป] “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา พร้อมรับ “สังคมผู้สูงอายุ”

[ชมคลิป] “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา พร้อมรับ “สังคมผู้สูงอายุ”

7 ธันวาคม 2019
0

โครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” (Jin Wellbeing County) ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำแห่งการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทั้งด้านร่างกายและจิตใจหลังเกษียณ ตามแนวคิด “เมืองแห่งการดูแลผู้สูงวัย” เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ใหม่ 3 เรื่อง “จิณณ์ ทอล์ค” (JIN Talk) “อัลไซเมอร์” (Alzheimer) และ “สโตรค” (Stroke) นำเสนอเนื้อหาผ่านประสบการณ์จริงของแพทย์ที่ได้ทำการรักษา พูดคุย ให้คำแนะนำกับผู้ป่วย และครอบครัวที่แตกต่างกัน รวมถึงเรื่องราวเหตุการณ์จริงของผู้ป่วยสูงวัยหลาย ๆ ครอบครัวที่ต้องปรับตัวรับมือกับวัยและสภาวะร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายครอบครัว รวมทั้งผู้ดูแลเกิดความเครียดและต้องปรับตัวสูง หวังสะท้อนถึงปัญหาที่ผู้สูงอายุ ผู้ดูแล และครอบครัวต้องพบ พร้อมแนะวิธีก้าวข้ามผ่านทุกความยากลำบากที่เกิดขึ้น เพื่อใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขและมีคุณภาพ

ด้วยความตั้งใจสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ภาพยนตร์โฆษณา “จิณณ์ ทอล์ค” (JIN Talk) จึงดำเนินเรื่องผ่านแนวคิดของคุณหมอ 3 ท่าน โดยตั้งคำถามถึงเป้าหมายสูงสุดของชีวิตและให้คำจำกัดความกลุ่ม “เจนเนอเรชั่น เวลบีอิ้ง” (General Wellbeing) ว่า เป็นกลุ่มคนที่เชื่อว่าเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ต้องมีสุขภาวะที่ดี ทั้ง กาย ใจ และจิตวิญญาณ และต้องมีชีวิตโดยไม่อยู่ในภาวะพึ่งพาใครให้นานที่สุด และเชื่อว่าชีวิตไม่ได้จบที่วัยเกษียณ แต่เป็นการเริ่มต้นบทใหม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและอยากจะเป็น พร้อมบอกถึง 6 วิธีที่จะทำให้คุณเป็น “เจนเนอเรชั่น เวลบีอิ้ง” ก่อนจะจุดประกายแนวคิดการอยู่อาศัยแบบใหม่ที่รวม บ้าน สังคม โรงพยาบาล และ Wellness ในที่เดียวกัน เหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ ๆ ที่มีหมออยู่ในบ้าน เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณสมบูรณ์แบบที่สุด

ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง “อัลไซเมอร์” (Alzheimer) คือเรื่องจริงที่เล่าผ่านคุณหมอ นำเสนอเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่ง ประกอบด้วยคุณแม่อายุ 80 ปีที่มีอาการอัลไซเมอร์ ผู้ดูแลของคุณแม่อายุ 60 ปี และลูกชายวัย 50 ปี เป็นเรื่องราวของครอบครัวที่ปัญหาคล้าย ๆ กันเมื่อมีคนในบ้านเป็นอัลไซเมอร์ จะต้องมีคนหนึ่งคอยดูแลแบบหลังแอ่นอยู่คนเดียวในบ้าน ส่วนคนที่เหลือก็มีปัญหาเครียดสะสมไปตามๆ  กัน เพราะต้องคอยรองรับทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์ที่แปรปรวน ยิ่งนานวันเข้า ทกคนในบ้านจะต้องป่วยกันหมด ภาพยนตร์เรื่องนี้จุงเสนอทางออกคือต้องย้ายบ้านไปอยู่ในบ้านที่คนเป็นลูกอุ่นใจคลายความกังวล คนดูแลได้แบ่งเบาภาระ และกลับมามีชีวิตส่วนตัวอีกครั้ง เพราะคุณแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ ได้อยู่ในสถานที่ที่มีคนดูแล ทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ ทำให้คุณแม่อาการดีขึ้น พร้อมย้ำว่าคุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้นเมื่อย้ายมาเข้าอยู่ที่ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” บ้านหลังใหญ่ที่มีหมออยู่ในบ้าน

ส่วนภาพยนตร์โฆษณาเรื่องสุดท้าย “สโตรค” (Stroke) นำเสนอเรื่องจริงของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่จู่ ๆ วันหนึ่งสามีเป็น “สโตรค” (Stroke) เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อภรรยามาขอปรึกษาคุณหมอ เธอรู้สึกว่าชีวิตถึงทางตัน สามีตกงานไม่สามารถเลี้ยงพ่อแม่ของเขาได้ ส่วนเธอก็อาจต้องออกจากงานเพราะไม่มีใครดูแลสามี แล้วพ่อแม่เธอใครจะเลี้ยง ชีวิตเธอเหมือนจะมีทางออกแค่ 2 ทางคือ ทิ้งชีวิตการงานออกมาดูแลสามีและพ่อแม่ หรืออีกทางคือทิ้งสามีไปเลย แต่ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาท์ตี้” คือทางออกที่ดีที่สุดที่คุณหมอแนะนำให้เธอย้ายบ้านมาอยู่ เพราะที่นี่มีคนคอยดูแลสามีเธอตลอดเวลา ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ออกแบบมาทั้งโครงการให้สามีสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ เพราะทุกพื้นที่ถูกออกแบบให้เป็น Healing Environment ที่พร้อมฟื้นฟูสามีเธอให้ดีขึ้นทั้ง กาย ใจ และจิตวิญญาณ ส่วนเธอก็หมดห่วงและกลับไปทำงานได้เหมือนเดิม เพราะที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีหมออยู่ในบ้าน

นายแพทย์ ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ กรรมการ บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด และโครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” (Jin Wellbeing County) กล่าวว่า จากสถิติปัจจุบันพบว่า คนไทยมีอายุยืนขึ้นถึง 90 ปี นั่นแปลว่าหลังเกษียณคุณต้องใช้ชีวิตที่เหลืออีก 30 ปี ซึ่งต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้เท่าที่ควร จึงไม่เคยวางแผนชีวิตหลังเกษียณ ขณะที่ในความเป็นจริงบ้านหลังเดิมที่คุณอยู่อาจเป็นอันตราย เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับชีวิตหลังเกษียณ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาท์ตี้” จึงออกแบบแนวคิดใหม่ เพื่อการเป็นอยู่ที่ต้องการให้คนไทยใช้ชีวิตอีก 30 ปีอย่างมีความสุขที่สุด บนแนวคิด “Generation Wellbeing” ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าจะต้องมีสุขภาวะ ไม่อยู่ในภาวะพึ่งพาใครให้นานที่สุด เพื่อเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ ๆ ของคุณ โดยการรวมบ้าน สังคม โรงพยาบาล และ Wellness อยู่ในที่เดียวกัน ราวกับว่าคุณมีหมอและบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในบ้านหลังใหญ่หลังนี้ เพี่อดูแลคุณทั้ง กาย ใจ จิตวิญญาณที่เป็นหัวใจของการมีชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาว