New Issues » 8 องค์กรร่วมขับเคลื่อนโครงการ “กองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา”

8 องค์กรร่วมขับเคลื่อนโครงการ “กองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา”

7 ธันวาคม 2019
0

alivesonline.com : สทบ. ขับเคลื่อนโครงการ “กองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” ผนึกความร่วมมือภาคีเครือข่าย 8 องค์กร เร่งส่งเสริมสมาชิก กทบ. และประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมปลูกต้นไม้ทั่วประเทศใน “วันกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ” 25 กรกฎาคม 2563 ย้ำวัตถุประสงค์หลักเพิ่มพื้นป่าให้ประเทศไทย พร้อมสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้สมาชิกฯ ในการทำอาชีพการเพาะกล้าไม้ และทำเรือนเพาะชำ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล (ซ้าย) รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานการดำเนินโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนาและ นายนที ขลิบทอง (ขวา) ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานการดำเนินโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา เปิดเผยว่า สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย 8 องค์กร ประกอบด้วย สทบ. กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และธนาคารออมสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินโครงการ “กองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” ไปตามแผนการดำเนินงาน ภายใต้แนวคิด “ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปลูกต้นไม้พร้อมกันของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) โดยกำหนดไว้ใน “วันกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ” ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 จะเป็นวันครบรอบ 19 ปีกองทุนฯ และก้าวสู่ปี 20 จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดโอกาสให้ทุกกองทุนได้ร่วมกันสร้างสินทรัพย์ให้แผ่นดิน โดยการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกต้นไม้ร่วมกัน

ในช่วงที่ผ่านมาการดำเนินโครงการฯ ได้นำร่องที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อต้นเดือนธันวาคม โดยได้มอบกล้าไม้มีค่าแก่ผู้แทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปแล้ว 6 พันต้น พร้อมกันนี้ยังได้เปิดการฝึกอบรมโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา โดยมีประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองระดับอำเภอ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้บริหารและพนักงานของทั้ง 8 หน่วยงาน ร่วมให้ความรู้ในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ อาทิ หัวข้อ “การบริหารจัดการเรือนเพาะชำกล้าไม้พันธุ์ดี” และ “การดูแลรักษาและหัวข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ” โดยกรมป่าไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หัวข้อ “การสร้างเครือข่ายต้นไม้ร่วมพัฒนา” และ “แนวทางการสร้างรายได้จากโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” โดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หัวข้อ “การสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนเครดิต” โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หัวข้อ “การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กล่าวในตอนท้ายว่า “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” เป็นโครงการที่ให้สมาชิก กทบ. มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นป่าประเทศไทยให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะเห็นว่า กทบ. มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 10 ล้านคนที่จะเป็นกำลังในการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกฯ  และประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

ด้าน นายนที ขลิบทอง ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวเสริมว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) เป็นองค์กรภาคประชาชนที่ก่อตั้งมา 18 ปี มีการตั้งกองทุนฯ รวมกว่า 7 หมื่นกองทุนทั่วประเทศซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการปลูกต้นไม้ผ่าน “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา” ภายใต้แนวคิด “ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งเป็นการสร้างสินทรัพย์แผ่นดินคือ “ต้นไม้” ทั้งยังจะสามารถเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ขยายไปสู่การเป็นสินทรัพย์ และสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างงานและรายได้ อาทิ อาชีพการเพาะกล้าไม้ ทำเรือนเพาะชำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้กับสมาชิกฯ และประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน

สทบ. ได้ผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ในเบื้องต้น ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษาและสถาบันการเงิน ใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การอบรมให้ความรู้ตามความเชี่ยวชาญและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาคที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปลูกต้นไม้ของกองทุนหมู่บ้านฯ ผ่านโครงการตามแนวทางประชารัฐ และการรณรงค์เพื่อสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินการจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชน หรือภาคประชาชน

“สทบ. ขอประชาสัมพันธ์และเปิดรับข้อมูลความต้องการของสมาชิกกองทุนฯ ทั่วประเทศ โดยสามารถเข้ามาลงทะเบียนได้ที่ http://smartiotdevice.ddns.net:1234/Web/register.htm โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ผู้ต้องการปลูกต้นไม้ สามารถระบุความต้องการกล้าไม้ เพื่อทางกองทุนฯ จะได้จัดเตรียม และผู้ประสงค์ทำเพาะชำกล้าไม้ ที่จะสร้างเป็นศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อบริการแก่สมาชิกต่อไป โดยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันขึ้นปีที่ 20 ของกองทุนหมู่บ้านฯ จะได้เชิญชวนให้สมาชิกฯ 7 หมื่นกว่ากองทุนทั่วประเทศ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างสินทรัพย์และความอุดมสมบูรณ์ให้กับแผ่นดินร่วมกัน” นายนที กล่าวในที่สุด