New Issues » ALL เร่งจังหวะชิงรายได้โค้งสุดท้ายปี 62

ALL เร่งจังหวะชิงรายได้โค้งสุดท้ายปี 62

16 ธันวาคม 2019
0

alivesonline.com : “ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ส่งซิกโค้งสุดท้ายเติบโตอย่างโดดเด่น ระบุ Q4/62 พีคสุดในรอบปี มั่นใจรายได้ปี 2562 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ย้ำมาตรการภาครัฐหนุนภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สดใส เผย ตุน Backlog 11,400 ล้านบาท คาดเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/62 ประมาณ 40%

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยถึงกรณีที่บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ออกมาประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2562 และอัตราการเติบโตปี 2562 โดยมองว่า ALL มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2562 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อ ประกอบกับภาครัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ส่งท้ายปี ยิ่งส่งผลเชิงบวกทางด้านจิตวิทยาต่อผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุคปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคเรียลดีมานด์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่ง ALL สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัยได้ครบทุกมิติของคอนโดมิเนียม จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ช่วงโค้งสุดท้ายของกลุ่มธุรกิจ ALL มีความคึกคักและมีสีสันอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับโครงการ ALL ที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 (The Excel Hideaway Sukhumvit 50) 2.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 (The Excel Hideaway Sukhumvit 71) 3.โครงการ ดิ เอ็กเซล คูคต (The Excel Khukhot) 4.โครงการ ไรส์ พระราม 9 (Rise Rama 9) 5.โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ (The Vision Ladprao-Nawamin) 6.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ รัชดา-ห้วยขวาง (The Excel Hideaway Ratchada-Huai Khwang) และ 7.โครงการ ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว-สุทธิสาร (The Excel Ladprao-Sutthisan)

โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71

นายธนากร กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ปีนี้และจะโอนกรรมสิทธิ์ในปีต่อไป (2563) มูลค่ารวมกว่า 40% จาก Backlog ทั้งหมด 1.14 หมื่นล้านบาท โดยกว่า 40% ของโครงการทั้งหมดที่มีคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 8 พันล้านบาท เป็นโครงการที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ 1.5-3 ล้านบาท สอดคล้องกับมาตรการที่จะช่วยลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งผลจากมาตรการดังกล่าว ทำให้เชื่อว่า ตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงปีหน้าจะมีแรงซื้อจากมาตรการดังกล่าวทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“จากมาตรการดังกล่าว ผนวกกับกลยุทธ์การเจาะตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานและอัตราการเติบโตในปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตเป็นอัตราร้อยละที่ไม่น้อยกว่า 2 หลัก เมื่อเทียบกับจากก่อนที่มีรายได้รวม 2,342.97 ล้านบาท ซึ่งรายได้รวมดังกล่าวคาดว่าเป็นรายได้ที่ทำสถิติสูงสุด ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยจะเห็นได้จากในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความสามารถในการทำรายได้รวมแล้ว 2,339.38 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมการเติบโตของ ALL ในไตรมาส 4/2562 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2562 เติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ไม่ต่ำกว่า 4.5 พันล้านบาท” นายธนากร กล่าว.ในตอนท้าย

ทั้งนี้ ยอด Backlog ทั้งหมดเป็นสินค้าในกลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม จำนวน 300 ล้านบาท โครงการประเภท High Rise จำนวน 3.4 พันล้านบาท และโครงการประเภท Low Rise จำนวน 7.7 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องถึงปี 2565

  • 2 โบรกฯ ประสานเสียง เชียร์ “ซื้อหุ้น ALL”

ทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ALL กำหนดราคาเป้าหมายที่ 6.48 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/2562 (ต.ค.-ธ.ค.62) จะโดดเด่นที่สุดของปี โดยคาดว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ระดับ 1.1 พันล้านบาท จากคอนโดมิเนียมใหม่ “ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนที่จะเริ่มโอนเดือนธันวาคม ศกนี้ คาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนสุทธิที่ 8 ล้านบาท และหนุนกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/2562 อยู่ที่ระดับ 144 ล้านบาท อีกทั้งในช่วงไตรมาส 4/2562 ยังมีการส่งมอบคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการคือ โครงการ “อิมเพรสชั่น ภูเก็ต” และโครงการ “ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71” ขณะที่ปัจจุบันมียอด Backlog ของ 2 โครงการดังกล่าวรวม 2.7 พันล้านบาท

โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50

นอกจากนี้ ALL ยังมีโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 14 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 7.8 พันล้านบาท พร้อมที่จะสร้างยอดขายช่วงไตรมาส 4/2562 เพื่อเติมเต็มเป้า Presales ปี 2562 ที่ ALL ตั้งไว้ที่ 7 พันล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ก.ย.62) มียอดขายสะสมรวมแล้ว 6.5 พันล้านบาท

ในปี 2563 ALL มีแผนรุกโครงการแนวราบมากขึ้น ทั้งในรูปแบบทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว หลังจากเปิดโครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท และได้รับตอบรับที่ดี ด้วยยอดขาย 47% (เปิด 2 เฟส จากทั้งหมด 3 เฟส) ขณะที่คอนโดมิเนียมจะขยายในกลุ่ม Low Rise (200–300 ยูนิต/โครงการ) แบรนด์ The Excel (มี 2 โครงการที่เลื่อนจากปีนี้ มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท) รวมถึงยังมองโอกาสในเพิ่มรายได้ Recurring Income (รายได้ประจำ)

โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ยังได้ประเมินผลการดำเนินงานในปี 2562–2563 ของ ALL ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 คาดว่า ALL จะมีกำไรสุทธิ 486 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท และจะมีรายได้รวมที่ระดับ 3,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 2.3 พันล้านบาท ส่วนในปี 2563 คาดว่า ALL จะมีกำไรสุทธิ 519 ล้านบาท และจะมีรายได้รวมที่ 4,336 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กำหนดราคาเป้าหมายหุ้น ALL ที่ 6.25 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่ามาตรการรัฐทั้งการลดค่าธรรมเนียมและช่วยลดเงินดาวน์จะช่วยเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2562 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2563 ประกอบกับการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องจะเสริมการรับรู้รายได้ในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯ เน้นเพิ่มรายได้ Recurring Income โดยได้ลงทุนในสิทธิการเช่า The New Forum Plaza ซึ่งเป็น Commercial Property คาดเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/2562 – 2/2563 จะมีโครงการแล้วเสร็จใหม่ราว 5-6 พันล้านบาท ซึ่งมี Take Up Rate เฉลี่ยอยู่ในระดับที่สูง 80-85% โดยคาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเวลาดังกล่าวที่โดดเด่นจากแรงหนุนการส่งเสริมของภาครัฐทั้งมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือ 0.01% รวมไปถึงโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ซึ่งช่วยลดเงินดาวน์ (Cash Back) จำนวน 5 หมื่นบาท เนื่องจากโครงการที่แล้วเสร็จส่วนใหญ่มีราคาที่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์จากทั้ง 2 มาตรการดังกล่าวที่ออกมาส่งเสริม

โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ รัชดา-ห้วยขวาง