New Issues » ชี้ชัด ! 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง-รุ่ง ปี 63

ชี้ชัด ! 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง-รุ่ง ปี 63

17 ธันวาคม 2019
0

alivesonline.com : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดผลวิจัย 10 อันดับธุรกิจเด่น ปี 2563 ระบุ “ธุรกิจแพลตฟอร์ม” ขึ้นแท่น “ดาวรุ่งอันดับ 1” จากปี 62 ที่ไม่ติดอันดับ เหตุพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ส่วน ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ – สื่อสิ่งพิมพ์ – ร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต – ธุรกิจดั้งเดิม ฯลฯ “ร่วง” ตามคาด

นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลวิจัย 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งและธุรกิจดาวร่วง ปี 2563 ที่ศึกษาโดย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่า จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจในปี 2562 คาดว่า จีดีพีของประเทศไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.5 โดยการส่งออกจะหดตัวร้อยละ 5.1 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก ตลอดจนความไม่แน่นอนการทำสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมปี 2562 ไม่ดีเท่าที่ควร แต่จากการประเมินปัจจัยสนับสนุนและบั่นทอนธุรกิจปี 2563 ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะความเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีน และ Brexit ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะมีโอกาสเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 6 ขณะที่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะแข็งค่าเฉลี่ย 29.75-30.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของต่างชาติ ตลอดจนปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงินที่เพิ่มความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ รวมถึงต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นอันเนื่องมาจากค่าจ้างขั้นต่ำ ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ทำให้คาดการณ์ว่า 10 อันดับธุรกิจร่วง ปี 2563 ประกอบด้วย

1.ธุรกิจเช่าหนังสือ 2.ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร 3.ธุรกิจร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต 4.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร 5.ธุรกิจหัตถกรรมและเฟอร์นิเจอร์ไม้ 6.ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม 7.ธุรกิจคนกลาง 8.ธุรกิจอินเทอร์เน็ตประเภทฮาร์ดดิสไดรฟ์ 9.ธุรกิจดั้งเดิมไม่มีการดีไซน์และใช้แรงงานมาก เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และ 10.ธุรกิจร้านถ่ายรูป โดยธุรกิจร่วงเหล่านี้ผู้ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้มีการศึกษาธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในปี 2563 แต่ยังไม่ถึงกับเป็นธุรกิจดาวร่วง คือ ธุรกิจร้านกาแฟที่มีทำเลไม่ดี ไม่มีแฟรนไชส์และมีขนาดเล็ก รวมถึงธุรกิจร้านชานมไข่มุกที่มีทำเลไม่ดี เพราะปัจจุบันมีร้านกาแฟและชานมไข่มุกเปิดใหม่จำนวนมาก ประการสำคัญยังมีการแข่งขันด้านการตัดราคากันด้วย นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่มีความเสี่ยงปานกลาง เช่น คลินิกเสริมความงาม ธุรกิจเครื่องสำอางและอาหารเสริม ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีทำเลไม่ดี รวมถึงธุรกิจเบเกอรีและร้านอาหารที่เพิ่งเปิดและมีขนาดเล็ก เป็นต้น

ส่วนการประเมิน 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งปี 2563 ประกอบด้วย 1.ธุรกิจแพลตฟอร์ม 2.ธุรกิจเทคโนโลยีและเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์ รวมทั้งผู้ให้บริการด้านโครงข่าย 3.ธุรกิจเกม 4.ธุรกิจด้านขนส่งลอจิสติกส์ รวมถึงธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต 5.ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 6.ธุรกิจฟาสต์ฟูด 7.ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 8.ธุรกิจด้านพลังงาน 9.ธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน และ 10.ธุรกิจเครื่องสำอางและบำรุงผิว

“ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจแพลตฟอร์มมาแรงสุดในปี 2563 จากที่ปี 2562 ไม่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวรุ่ง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นและมีความเคยชินกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เพราะมีความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และกระแสการพัฒนาแพลตฟอร์มทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงจุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าธุรกิจแพลตฟอร์มอาจมีความเสี่ยงในด้านการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งจากคู่แข่งในและต่างประเทศ ความไม่ชัดเจนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องและด้านความปลอดภัย หรือการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น”

นางเสาวนีย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับธุรกิจดาวรุ่งอื่น ๆ ที่โดดเด่น เช่น “ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต” ได้รับผลดีจากการยกเลิก LTF ทำให้เกิดโอกาสในการออมเพื่อลดหย่อนภาษี มีความต้องการซื้อประกันภัย เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงต่อบริษัทและครัวเรือน ประชาชนให้ความสำคัญในการออมระยะยาวมากขึ้น และประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีการวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น ขณะที่ “ธุรกิจบนสตรีทฟู้ด” เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลและภาคเอกชนมีนโยบายสนับสนุนการเปิดถนนคนเดินเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว จนทำให้ธุรกิจสตรีทฟู้ดของประเทศไทยมีชื่อเสียงในระดับโลก

ส่วน “ธุรกิจความเชื่อ” ซึ่งไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวรุ่งในปี 2562 แต่มาติดในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันคนจำนวนมากต้องการหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจทั้งด้านการงาน การเงิน ความรัก และความศรัทธา ประกอบกับความเชื่อเรื่องเครื่องราง ของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่คู่กับอารยธรรมมาตลอดและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งต้องการเสริมบารมี และที่สำคัญลูกค้าบางกลุ่มพร้อมที่จ่ายในทุกราคาเพื่อสิ่งที่ตนเองเชื่อ เป็นต้น

“สำหรับภาพรวมภาวะเศรษฐกิจปี 2563 คาดว่าจีดีพีของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 2.4-3.1 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 1.8-3.4 เงินเฟ้อเฉลี่ยร้อยละ 1.2 โดยในปี 2563 แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงในภาวะภาพรวมเศรษฐกิจโลก แต่ประเทศไทยยังมีความน่าสนใจด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 41-42 ล้านคน นอกจากนี้ การที่ภาครัฐต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมจะเป็นตัวเร่งกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจให้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี เป็นต้น ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลกจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้การลงทุนปี 2563 เป็นไปตามเป้าหมายวางไว้” นางเสาวนีย์ กล่าวในตอนท้าย