alivesonline.com : กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ เครื่องสำอาง “มิสทิน” และโครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” จัด “โครงการชีวิตสีชมพู” ให้ผู้กระทำผิดในความดูแลของ กระทรวงยุติธรรม มีโอกาสประกอบอาชีพสุจริตจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “Ning Nong Shopping Thailand” ฟรี !
เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยาน ในงานแถลงข่าวและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการชีวิตสีชมพู” ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) และโครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” ในการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน “Ning Nong Shopping Thailand” โดยมี นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีผู้ลงนาม ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายองอาจ วงศ์เดชาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเครื่องสำอาง “มิสทิน” และนางสาวเพียงเพ็ญ วงศ์นิมิตรกุล รองผู้อำนวยการโครงการ “ปันฝันปันยิ้ม”
พิธีลงนามครั้งนี้ยังมี พ.ต.อ. ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ และ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเด็กและเยาวชนกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กว่า 100 คน ร่วมงานด้วย โดยภายในงานได้มีการสาธิตการใช้และทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิชัน “Ning Nong Shopping Thailand” พร้อมทั้งการจัดบูธนิทรรศการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์งานฝีมือต่าง ๆ ของ กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นหน่วยงานในกลุ่มพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรม โดยการลงนามฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของผู้ที่เคยก้าวพลาดให้เกิดการค้าขายออนไลน์ผ่านแอปพลิชัน “Ning Nong Shopping Thailand” โดยเครื่องสำอาง “มิสทิน”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางขายตรงรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “มิสทิน” ได้ให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดที่อยู่ในความดูแลของ กระทรวงยุติธรรม ให้ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพที่สุจริต มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ
กระทรวงยุติธรรม กำลังริเริ่มนโยบายมาตรการลดภาษีแก่บริษัท ห้างร้าน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ที่เปิดโอกาสรับผู้ที่เคยกระทำผิดเข้าทำงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญและการให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิดให้มีรายได้จากการประกอบอาชีพที่สุจริตซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มการกระทำผิดซ้ำลดลง เนื่องจากผู้ที่เคยกระทำผิดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการยอมรับ เกิดการเห็นคุณค่าในตนเอง มีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับผู้อื่น ดังนั้น ความร่วมมือในวันนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งจะได้มีการสานต่อและขยายผลต่อไปในอนาคต
“ขอขอบคุณ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด และเครื่องสำอาง “มิสทิน” ที่เห็นความสำคัญและให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิด ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพ ในการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน Ning Nong Shopping Thailand ซึ่ง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก มิสทิน ในการบูรณาการและให้ความร่วมมือต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ยังต้อง ขอขอบคุณ ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงระหว่าง กระทรวงยุติธรรม กับ มิสทิน จนนำมาสู่พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ในวันนี้ และหวังว่า โครงการปันฝันปันยิ้ม จะได้เป็นสื่อกลางนำสิ่งดี ๆ มาสู่กระทรวงยุติธรรมและภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เครื่องสำอาง “มิสทิน” คือธุรกิจขายตรงที่สร้างโอกาสให้คนไทยมีรายได้และอาชีพที่มั่นคงมากว่า 30 ปี ในขณะที่กลุ่มผู้ก้าวพลาดจาก กระทรวงยุติธรรม คือกลุ่มผู้ที่ต้องการโอกาสจากสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างชีวิตที่ดีและมั่นคงในอนาคตได้ ด้วยโลกออนไลน์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน จึงเป็นแรงผลักดันให้ “มิสทิน” พัฒนาแอปพลิเคชัน Ning Nong Shopping Thailand ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการสร้างโอกาสทางอาชีพที่มั่นคงและการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล เนื่องจาก Ning Nong Shopping Thailand ไม่ต้องมีต้นทุน ไม่ต้องมีหน้าร้าน และไม่ว่าใครก็สามารถมีรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพา หรือรบกวนบุคคลอื่น ด้วยการสร้างหน้าร้านออนไลน์ด้วยตัวเองได้ทันที
“มิสทิน” เชื่อในเรื่องของการมอบโอกาสให้กับทุกคน จึงเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ โดย “มิสทิน” จะสอนวิธีการขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Ning Nong Shopping Thailand และจะใช้เป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า โดยเริ่มต้นนำร่องกับน้อง ๆ เยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อปูทางอาชีพให้กับพวกเขาตั้งแต่ยังอยู่ภายในสถานควบคุม และเมื่อน้อง ๆ เยาวชนได้รับการปล่อยตัวแล้ว จะสามารถใช้ Ning Nong Shopping Thailand เป็นหน้าร้านออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนใด ๆ ทำให้น้อง ๆ เยาวชนมีโอกาสทางรายได้อย่างไม่จำกัดจากการขายสินค้าผ่าน Ning Nong Shopping Thailand
“ในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่โอกาสเพื่ออนาคตของกลุ่มเยาวชนจาก กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าผลงานของน้อง ๆ เยาวชนผ่าน Ning Nong Shopping Thailand เป็นท่านแรก และขอถือเป็นวาระที่ดีในการเปิดตัวแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการด้วย”
นายดนัย กล่าวในตอนท้ายว่า ขอขอบคุณโครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” ที่เป็นผู้ชักนำและประสานงานให้เกิดการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ และขอขอบคุณ กระทรวงยุติธรรม ที่ให้โอกาสเครื่องสำอาง “มิสทิน” ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้โอกาสแก่ผู้ที่ก้าวพลาดให้ได้มีอาชีพ มีรายได้และสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ เพราะ “มิสทิน” เชื่อในคำว่าโอกาสและการมอบโอกาสคือ แนวทางในการดำเนินธุรกิจของเราเสมอมา
ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” กล่าวถึงที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า โครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” เกิดจากตนและผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้โอกาสแก่เด็กด้อยโอกาส ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้เคยกระทำผิด โดยริเริ่มจากการให้การช่วยเหลือในด้านการรักษาสำหรับครอบครัวที่ขาดทุนทรัพย์ หรือบุคคลที่ขาดโอกาสในการรักษา อีกทั้งการสร้างโอกาสในด้านอื่น ๆ อาทิ การให้อาชีพ การสร้างโรงเรียน การสานฝัน การให้ที่อยู่อาศัย หรืออื่นใดเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคคลเหล่านั้น ยังคงมีความสำคัญและอยู่อย่างทัดเทียมเฉกเช่นคนปกติ ภายใต้เป้าหมายเดียวกันนั่นคือ ความร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้เกิดแก่สังคมในปัจจุบัน โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ภายใต้ชื่อ “รายการปันฝันปันยิ้ม” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ทุกวันจันทร์หลังข่าวและผ่านทางสื่อพันธมิตรต่าง ๆ
โครงการ “ปันฝันปันยิ้ม” เล็งเห็นถึงการให้โอกาสด้านอาชีพเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของประเทศ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง ดังนั้นเด็กและเยาวชนจึงควรที่จะเตรียมตัวที่จะเป็นกำลังของชาติด้วย หากเด็กและเยาวชนมีการกระทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต่อสังคม ต่อประเทศชาติ การมองปัญหาการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนจึงต้องมองถึงสาเหตุ หรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดการกระทำความผิดนั้นขึ้น ซึ่งเราจะต้องมองการเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย โดยการจะคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน ผู้พ้นโทษสมควรจะได้รับโอกาสให้สามารถประกอบอาชีพมีรายได้พึ่งพิงตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ดร.ณัฐพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันการค้าขายสินค้าออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งในการขายของบนอินเทอร์เน็ตและมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้น เพราะตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่เปิดกว้าง ใคร ๆ ก็สามารถขายของออนไลน์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ต้องการหารายได้และสร้างอาชีพ ที่สำคัญคือ ต้นทุนต่ำและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว ดังนั้นโครงการฯ จึงร่วมกับ “มิสทิน” จัดกิจกรรมโครงการ “ชีวิตสีชมพู” เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของเด็กและเยาวชน อีกทั้งพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ความรู้ความสามารถจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์และได้รับประสบการณ์นอกเหนือจากการศึกษาในหน่วยเรียน ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานด้านการฝึกวิชาชีพสำหรับเด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพต่อไป