alivesonline.com : ผู้นำสตรีจากทุกภาคส่วนกว่า 1 พันคนจาก 60 ประเทศทั่วโลก เตรียมเยือนไทย ร่วม “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” วันที่ 23-25 เม.ย.63 มุ่งส่งเสริมธุรกิจสตรีและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้สตรีทั่วโลก หลังพบสตรีไทยโดดเด่นเรื่องการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ระบุสตรีไทย 40% นั่งเก้าอี้ผู้บริหารระดับซีอีโอ และ 42% ดูแลด้านการเงินองค์กรต่าง ๆ มั่นใจผู้ร่วมประชุมจะได้เห็นศักยภาพและบทบาทนักธุรกิจสตรีไทยในการพัฒนาประเทศ
นางสาวไอรีน นาทิวิแดท ประธานการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020 เปิดเผยว่า ในปี 2563 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัด “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” (GLOBAL SUMMIT OF WOMEN 2020) ในระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2563 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอนด์บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “Women Revolutionizing Economies” (พลังสตรีพลิกเศรษฐกิจ) โดยการสนับสนุนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” และบริษัทเอกชนชั้นนำของประเทศไทยที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและบทบาทของสตรีในเวทีโลก
กลุ่มสตรีถือเป็นผู้มีความรับผิดชอบทางธุรกิจและลูกค้าของชุมชนต่าง ๆ โดย สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กลุ่มสตรีเกินครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วโลกมีส่วนสำคัญต่อผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยมากกว่า 80% เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ นอกจากนั้นยังมีสัดส่วนเป็น 1 ใน 2 ของกลุ่มคนทำงานทั้งโลก ทั้งยังมีสัดส่วนเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเล็กสูงถึง 1 ใน 3”
“ในส่วนของประเทศไทยถือว่ามีความโดดเด่นเด่นในเรื่องการมีส่วนร่วมของสตรีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากการเป็นแรงงาน ผู้ประกอบการ จนถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ ดังจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยมีซีอีโอที่เป็นกลุ่มสตรีสูงถึง 40% ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีเพียง 5% นอกจากนั้นกลุ่มสตรีไทยยังเป็นผู้ดูแลการเงินขององค์การต่าง ๆ สูงถึง 42% แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของกลุ่มสตรีไทยในภาคธุรกิจที่เป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”
นางสาวไอรีน กล่าวในตอนท้ายว่า “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก” เป็นเวทีระดับโลกเพื่อให้สตรีจากทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มาร่วมประชุมเพื่อส่งเสริมธุรกิจของสตรีและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้สตรีทั่วโลก โดยผู้บริหารสตรีที่มีบทบาทสำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับโลกจะมาแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมให้มุมมองในมิติต่าง ๆ นำเสนอประเด็นปัญหาและแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบทางธุรกิจและเศรษฐกิจในอนาคต ตลอดจนแนวทางการการบริหารและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังนั้น “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” จึงมีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการส่งเสริมความเสมอภาคทางเศรษฐกิจให้กับสตรีทั่วโลก ทั้งยังถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเป็นศูนย์ประชุมในระดับโลกให้ประเทศไทยอีกด้วย
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานบริษัทโตชิบาไทยแลนด์ และประธานกรรมการจัดงานของไทย กล่าวว่า “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” ถือเป็นเวทีระดับโลกที่มีความสำคัญ เชื่อมนักธุรกิจ นักวิชาชีพ ผู้บริหารทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคมจากทั่วโลก สร้างเครือข่ายความร่วมมือและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกอย่างยั่งยืน
“งานประชุมในปีนี้ยังมีความสำคัญเนื่องจากเป็นปีฉลองครบรอบ 30 ปีของจัดประชุม จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในสู่สายตาเวทีโลก โดยจะเป็นการประชุมที่น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ก่อเกิดพลังสตรีไทยในการเรียนรู้และเติบโตจากสตรีผู้นำจากทั่วโลก พร้อมนำเสนอสินค้าชุมชนท้องถิ่นจากทั่วประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นพัฒนาเป็นนักธุรกิจระดับนานาชาติ โดยได้พัฒนาเครือข่ายความเข้มแข็งทางธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือของคนทุกภาคส่วน สร้างคนรุ่นใหม่ รวมพลังไทย อาเซียน และโลก ที่จะปฏิวัติเศรษฐกิจเพื่อโลกที่ดีขึ้น”
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัด “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” ถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้ต้อนรับกลุ่มสตรีที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของโลกให้ได้เห็นศักยภาพและความพร้อมในการจัดการประชุมขนาดใหญ่และเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มสตรี รวมไปถึงสามารถเน้นย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
“ททท. มีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มสตรีอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ เนื่องจากสัดส่วนของผู้หญิงทำงานเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้ชาย ทั้งยังเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ดังนั้นผู้หญิงจึงกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่และเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้หญิงยังเป็นผู้นำทางความคิดที่สามารถสร้างแรงจูงใจในการเดินทางและใช้จ่ายของคนรอบข้าง เช่น เพื่อน คู่รัก และครอบครัวอีกด้วย”
นางศรีสุดา กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจกลุ่มนักท่องเที่ยวสตรี พบว่า นิยมดูแลสุขภาพ สนใจการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยมากขึ้น แสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ นิยมการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มโดยใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูล ทั้งยังมุ่งหาประสบการณ์และจ่ายเงินสู่ท้องถิ่นโดยตรง โดยกลุ่มสตรีสูงวัยมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ๆ พอ ๆ กับกลุ่มกลุ่มวัยรุ่น ในขณะที่ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบสนองพฤติกรรมการท่องเที่ยวดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการใช้การท่องเที่ยวเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2562 พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวสตรีมีการใช้จ่ายกับการดูแลสุขภาพและความงาม กิจกรรมการดำน้ำ กีฬากอล์ฟ อาหาร และกิจกรรมการผจญภัย ตามลำดับ
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” กล่าวว่า “ทีเส็บ” เป็นหน่วยงานรัฐภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักนายกรัฐมนตรี มีพันธกิจหลักในการผลักดันและพัฒนาธุรกิจการจัดประชุมและงานแสดงสินค้า หรืออุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย มีภารกิจสำคัญในการดึงงานประชุมและงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติเข้าสู่ประเทศไทย โดยคาดว่า การจัด “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” จะมีโอกาสต้อนรับกลุ่มผู้บริหารสตรีระดับสูงกว่า 1 พันคนจาก 60 ประเทศทั่วโลก พร้อมสร้างรายได้ประมาณ 80 ล้านบาท
“การจัดงานประชุมครั้งนี้ยังเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลตามแผนพัฒนาสตรีฉบับใหม่ ภายใต้ชื่อยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ.2560-2564 สอดคล้องกับทิศทางของยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคนให้เป็นศูนย์กลาง โดยเน้นการพัฒนาคนในทุกช่วงวัย การมีส่วนร่วมของทุกคน และการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมกันนี้ยังเน้นการประชุมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ปลอดก๊าซเรือนกระจก หรือ Carbon Neutral อีกด้วย”
นางนิชาภา กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินงานของ “ทีเส็บ” ในการสนับสนุน “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” จะประกอบด้วยการสนับสนุนทั้งในเชิงงบประมาณ การร่วมเป็นคณะกรรมการจัดงาน รวมทั้งการประชาสัมพันธ์การจัดงาน โดยจะประสานกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) และอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางการจัดการประชุมของสุดยอดผู้นำสตรีโลก ภายใต้แคมเปญการสื่อสารอุตสาหกรรมไมซ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดประชุมคือ “Thailand : Redefine Your Business Events”
“งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020 จะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย ทั้งในด้านการเป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมระดับโลก การสร้างโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนความสำเร็จที่จะได้จากการจัดงานประเทศไทย ทั้งด้านการสร้างเครือข่ายและถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับนานาชาติร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมประชุมจากทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยและบทบาทของนักธุรกิจสตรีไทยในการพัฒนาประเทศ” นางนิชาภา กล่าวในที่สุด
อนึ่ง ในพิธีเปิด “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” จะได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วยการประชุมโต๊ะกลมสำหรับรัฐมนตรีหญิงจากประเทศต่าง ๆ พร้อมประชุมหารือแลกเปลี่ยนแนวคิดและส่งเสริมบทบาทสตรีในภาคธุรกิจ ตลอดจนการมอบรางวัลผู้นำดีเด่นระดับโลกในการส่งเสริมสตรีอีกด้วย