alivesonline.com : อ.ส.ค. เตรียมจัดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563” น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม พร้อมสืบสานพระราชปณิธาน พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยยุคใหม่ จัดตั้งโครงการ “ศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดการศึกษาการเลี้ยงโคนมในโรงเรียน” ที่สกลนคร มุ่งก้าวสู่แบรนด์ “นมแห่งชาติ” กระตุ้นคนไทยดื่มนม 25 ลิตรต่อคนต่อปี
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า โคนมอาชีพพระราชทาน เป็นอาชีพอันทรงคุณค่าที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทรงพระราชทานให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะทำให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า ทั้งยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในด้านการรณรงค์การบริโภคนมของคนไทย ตลอดจนเป็นการสร้างวัฒนธรรมการบริโภคนมในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี
กระทรวงเกษตรฯ จึงได้มีการมอบนโยบายแก่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในเรื่องการตอกย้ำเพื่อสร้างการรับรู้ในการบริโภคมนม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น โดยมีเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการดื่มนมของคนไทยจาก 18 ลิตรต่อคนต่อปี เป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายในปี 2569 เพราะการบริโภคนมคุณภาพดีที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ กระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางภาคการเกษตร ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย
นางสาวมนัญญา กล่าวอีกว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทยและแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ไปสู่เกษตรกร อ.ส.ค. จึงกำหนดจัดเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยในวันที่ 29 มกราคม 2563 ชาวโคนมยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน พร้อมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ภายในบริเวณงานอีกด้วย
การจัดงานภายในปีนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน” โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ สัมมนาวิชาการ, นิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร, การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนมโดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน, การบูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ ๆ, การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่าง, การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปและสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่าง ๆ, สัมผัสบรรยากาศฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค, การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค, สาธิตการรีดนมโค และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค รวมถึงกิจกรรม “Thai-Denmark Milksic Festival ครั้งที่ 3” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งผู้ร่วมงานจะได้พบปะกับศิลปินต่าง ๆ มากมาย
ด้าน ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า วันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็น “วันโคนมแห่งชาติ” ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งต่ออาชีพและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย อ.ส.ค. จึงได้ให้ความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคนมในประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการให้คนไทย ทุกเพศ ทุกวัย รักการดื่มนมมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ที่ได้จากเกษตรกร เนื่องจากเห็นว่านอกจากจะส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้คนไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้มั่นคงในการประกอบอาชีพโคนมอีกด้วย
อ.ส.ค. มุ่งสร้างแหล่งความรู้ด้านกิจการโคนมและอุตสาหกรรมนมอย่างครบวงจรให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศไทยซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของ อ.ส.ค. โดยที่ผ่านมาได้จัดทำแผนแม่บทส่งเสริมการเลี้ยงโคนม 4.0 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้แผนวิสาหกิจ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) โดยมุ่งส่งเสริมความรู้เกษตรกรเพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้น้ำนมดิบและหาช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีการพัฒนายกระดับประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบให้ได้มาตรฐาน พร้อมวิจัย พัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้การเลี้ยงโคนมให้เกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมเกษตรกรสมาชิกให้มีความมั่นคงและเติบโตในอาชีพการเลี้ยงโคนม
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า อ.ส.ค. ยังได้จัดตั้งโครงการ “ศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดการศึกษาการเลี้ยงโคนมในโรงเรียน” ซึ่งจัดตั้งขึ้นแห่งแรกของประเทศไทยที่จังหวัดสกลนคร พร้อมเปิดหลักสูตร “ห้องเรียนศาสตร์พระราชา” โดยมีวิชาหลักคือวิชาการผลิตโคนม เพื่อการส่งเสริม สนับสนุนให้มีการสานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมจากรุ่นสู่รุ่นโดยการสร้างเยาวชนให้มีความสนใจและภาคภูมิใจในอาชีพการเลี้ยงโคนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน ควบคู่กับการส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยง การผลิต การแปรรูป ภายใต้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทันสมัยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมโคนมไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติและสืบสานแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้มีความมั่นคง ยั่งยืนสืบไป