alivesonline.com : “ไวส์ โลจิสติกส์” ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 20% แตะ 2.7 พันล้านบาท ชูกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมการบิน พร้อมนำเข้าสินค้าค้าปลีก ลุยขยายงานร่วมกับบริษัทในเครือ อัปฐานลูกค้าตลาดจีน ปั๊มรายได้เข้าพอร์ต เน้นเพิ่มความสามารถการทำกำไร ส่องภาพรวมธุรกิจลอจิสติกส์สดใส โชว์จุดแข็งบริการครบวงจร มีเครือข่ายรองรับทุกประเทศการค้าสำคัญ
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการลอจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวม 2.7 พันล้านบาท เติบเติบโต 20% ถือเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวรายได้ของ WICE เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทฯ ที่ได้เข้าไปลงทุนขยายเครือข่ายลอจิสติกส์ก่อนหน้านี้ ทั้ง WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd. (WICE SG) ,WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. ( WICE HK ), EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD. (ETL), WICE Logistics (Shenzhen) Company Ltd. (WICE SZ) และ WICE Supply Chain Solutions มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการที่ดีของ WICE ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลายและอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีของประเทศ หรืออุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงค์จากภาครัฐ อาทิ อุตสาหกรรมการบิน (Aerospace) และสินค้านำเข้าธุรกิจค้าปลีก (Retail Market) เนื่องจากบริษัทเห็นความต้องการใช้บริการลอจิสติกส์ของอุตสาหกรรมดังกล่าวมีปริมาณสูง จึงวางแนวทางเข้าไปรับงานขนส่ง เพื่อสร้างโอกาสใหม่และรายได้ให้กับธุรกิจ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถการทำกำไรให้สูงขึ้น โดยเตรียมปรับแนวทางการบริหารจัดการในธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Transport Services) ภายใต้การบริหารงานของบริษัทเครือข่าย EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD. (ETL) จากเดิมที่มีต้นทุนค่อนข้างสูง เพราะในปี 2562 เป็นช่วงเริ่มต้นจัดตั้งบริษัท และสินค้าเที่ยวขากลับยังมีปริมาณไม่สูงมากนัก บริษัทฯ จึงวางแผนลดต้นทุนและบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขยายการให้บริการขนส่งสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงและเพิ่มปริมาณสินค้าเที่ยวขากลับให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถการทำกำไรดังกล่าว
นายชูเดช กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังวางแผนจะขยายการให้บริการลอจิสติกส์ในครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศในรูปแบบต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นหลัก ทั้งในฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีโอกาสย้ายฐานการผลิตมายังไทย สอดคล้องกับแนวทางที่ WICE ได้วางกลยุทธ์เข้าไปขยายตลาดในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วก่อนหน้านี้ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งลอจิสติกส์ระหว่างประเทศของ WICE ในตลาดจีน ทำให้มีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในจีนมากขึ้นและมีโอกาสรับงานขนส่งขาไปและขากลับได้ ส่งผลให้มีปริมาณงานในจีนเพิ่มขึ้น
ด้านการดำเนินงานของ WICE Supply Chain Solutions บริษัทย่อย ให้บริการด้านซัปพลายเชนครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่ดี จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้ และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกออก (EEC) ประกอบกับผู้นำเข้าส่งออกในปัจจุบันหันมาใช้บริการในรูปแบบ Third Party Logistics มากขึ้น โดยบริษัทฯ มีพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าจำนวน 1 แห่ง ขนาด 15,000 ตร.ม.
“ภาพรวมธุรกิจลอจิสติกส์ในปี 2563 มีแนวโน้มดีขึ้น แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่ชัดเจน แต่ก็เริ่มเห็นความคลี่คลายในบางเรื่องบ้างแล้ว ทั้งปัญหาสงครามการค้า ม็อบฮ่องกง เงินบาทแข็งค่า และภาคการส่งออกชะลอตัว ภาวะการแข่งขันของธุรกิจลอจิสติกส์ที่สูงในปัจจุบัน ทำให้ WICE มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการอยู่ตลอดเวลา และสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันคือ WICE มีความหลากหลายของการให้บริการที่ครบวงจร เข้าใจความต้องการของลูกค้าเสมอ และยังมีข้อได้เปรียบจากการมีเครือข่ายลอจิสติกส์ที่ครอบคลุมเชื่อมโยงสู่ประเทศต่าง ๆ เพื่อการกระจายความเสี่ยง ถือเป็นการยกระดับสู่การเป็นผู้นำลอจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชีย”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างโครงข่ายพันธมิตรลอจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ และสร้างการเติบโตร่วมกันในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากการงานบริการทางอากาศ (Air Freight) 35%, การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 30% ขนส่งสินค้าข้ามชายแดน (Cross border) 19% และงาน Logistics 16%