New Issues » เศรษฐกิจใน-นอก “ยังทรุด” ฉุดท่องเที่ยวไทยปี 63 “ทรงตัว”

เศรษฐกิจใน-นอก “ยังทรุด” ฉุดท่องเที่ยวไทยปี 63 “ทรงตัว”

29 มกราคม 2020
0

alivesonline.com : “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” โชว์ผลงานท่องเที่ยวไทย ปี 62 ทำรายได้รวม 3.01 ล้านล้านบาท เผยมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA กระตุ้นนักท่องเที่ยวแดนภารตะ โตพรวด ร้อยละ 24 คาดสถานการณ์ปี 63 อยู่ในภาวะ “ท้าทาย” เหตุปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็ง สงครามการค้า การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดท่องเที่ยวโลก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของ “เชื้อไวรัสโคโรนา” ในจีน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2562 สถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างประเทศของประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จากปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ตามลำดับ นอกจากนี้ ผลจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ VOA ยังช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ขยายตัวสูงสุดถึงร้อยละ 24 จากปีที่ผ่านมา และมีจำนวนกว่า 1.99 ล้านคน ส่วนด้านรายได้ในปี 2562 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสร้างรายได้กว่า 1.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.05 จากปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ตามลำดับ

ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ ปี 2562 พบว่าชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 166 ล้านคน-ครั้ง อยู่ในภาวะทรงตัวจากปีก่อนหน้า โดยหดตัวร้อยละ 0.06 จากปีที่ผ่านมา แม้ว่าการท่องเที่ยวในเมืองหลักและเมืองรองจะมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาก็ตาม อย่างไรก็ดี โดยภาพรวมพบว่า การท่องเที่ยวเมืองรองมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.88 ขณะที่เมืองหลักหดตัวร้อยละ 0.49

ขณะที่รายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวไทย ในปี 2562 มีมูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.18 จากปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวไทยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ตามลำดับ ส่งผลให้ในปี 2562 รายได้รวมจากการท่องเที่ยวของไทยมีทั้งสิ้น 3.01 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.37 จากปีที่ผ่านมา ตามการขยายตัวของรายได้ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศและภายในประเทศ

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสงครามการค้า การแข็งค่าเงินบาท การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดท่องเที่ยวโลก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย อาจส่งผลกระทบต่อระดับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและระดับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ จึงคาดว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2563 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะยังคงขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-4 หรือมีจำนวนประมาณ 40.5-41 ล้านคน โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญจากมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่าย โดยในส่วนที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ VOA และการอำนวยความสะดวกด้านการคืนภาษีในแหล่งท่องเที่ยว (Downtown VAT Refund) เป็นต้น และยังจะมีอีกหลายมาตรการที่จะมีเพิ่มเติมในปีนี้ เช่น มาตรการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า (Double Entries Visa และ Re-entry Permit) การขยายจุด Downtown VAT Refund รวมถึงการจัดกิจกรรมเมกะอีเวนต์ในด้านต่าง ๆ เช่น กิจกรรมเชิงกีฬา และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

“ประเด็นท้าทายที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2563 คือ ความเสี่ยงใหม่จากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่โคโรนา 2019 ในประเทศจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางโดยเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกที่ยังมีทิศทางชะลอตัว ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่อาจรุนแรงขึ้น ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติขนาดใหญ่ และการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น โอลิมปิกโตเกียว และฟุตบอลแห่งชาติยุโรป เป็นต้น”

นายพิพัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย ในปี 2563 ยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบต่อรายได้ภาคเกษตรจากภัยแล้งที่คาดว่าจะรุนแรงและยาวนานกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ปี 2563 ที่คาดว่าจะเริ่มต้นในไตรมาสที่ 1 และการท่องเที่ยวตามฤดูกาลจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวภายในประเทศขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี 2562 โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2–3 หรือมีจำนวนประมาณ 170 ล้านคน-ครั้ง

Backpackers on an adventure