alivesonline.com : สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563” อ.ส.ค. โชว์สุดยอดวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมไทยในรอบปี ภายใต้แนวคิด “รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน” พร้อมจัดประกวดโคนม ครั้งที่ 37 ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๑๐ และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเปิดเวทีกระตุ้นให้เกษตรกรพัฒนาโคนมให้เทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล
วานนี้ (29 ม.ค.63) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563” ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ หัวหน้าส่วนราชการภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงจังหวัดสระบุรี ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ดร.อาทิตย์ เพ็ชรรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อ.ส.ค., ผู้บริหาร และพนักงาน อ.ส.ค. พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และประชาชนเข้าเฝ้ารับเสด็จ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” เป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทยและเพื่อถ่ายทอดความก้าวหน้าการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ของการเลี้ยงโคนม รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนความรู้ทัศนคติและประสบการณ์ระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงโคน และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนมในประเทศ
ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมประกวดโคนมประเภทต่าง ๆ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดโค ประเภทโคนมมากท้องแรก อายุไม่เกิน 28 เดือน และได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดโค ประเภทโคนมมาก ไม่จำกัดอายุ ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดแก่ผู้ประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมและวงการอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเกิดความภาคภูมิใจในอาชีพ ทำให้คนไทยได้เข้าใจความเป็นมาและวิถีอาชีพการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ส่งผลให้มีการบริโภคนมเพิ่มมากขึ้น สร้างความมั่นคงยั่งยืนต่ออาชีพการเลี้ยงโคนม โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ด้าน ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมถึงกิจกรรมที่น่าใจภายในงานว่า การจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 อยู่ภายใต้แนวคิด “รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน” โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ จัดเวทีประกวดโคนม ครั้งที่ 37 ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นอกจากนี้ ยังมีงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร อาทิ การเสาวนาเรื่อง “Dairy 4.5:Smart Application to Smart Farmer : โคนม 4.5 เลือกเทคโนโลยีที่ใช้ให้กับฟาร์มโคนม”, การสัมมนาเรื่อง การบริหารฟาร์มยุคใหม่ก้าวไกลด้วยแอปพลิเคชัน “เซียน” และการสัมมนาเรื่อง “การตรวจยีนในโคนมเพื่อเพิ่มมูลค่า” เป็นต้น
โซนนิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร / การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนม โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน / โซนบูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และมีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ ๆ / การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่าง ๆ / การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่าง ๆ / สัมผัสบรรยากาศฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค / การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค / ชมสาธิตการรีดนมโค และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ งาน “Thai-Denmark Milksic Festival ครั้งที่ 3” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งผู้มาร่วมงานจะได้พบปะกับศิลปินต่าง ๆ มากมาย เป็นต้น
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า โคนมอาชีพพระราชทานเป็นอาชีพอันทรงคุณค่าที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยทรงเล็งเห็นว่า อาชีพการเลี้ยงโคนมจะทำให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทั้งยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน
ในด้านการรณรงค์การบริโภคนมของคนไทย อ.ส.ค.ได้มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการบริโภคนมในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี ซึ่ง กระทรวงเกษตรฯ ก็ได้มีการมอบนโยบายแก่ อ.ส.ค. มาโดยตลอด ในเรื่องการตอกย้ำเพื่อสร้างการรับรู้ในการบริโภคมนมเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น โดยมีเป้าหมายการเพิ่มปริมาณจาก 18 ลิตรต่อคนต่อปี เป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายในปี 2569 ซึ่งการบริโภคนมคุณภาพดีที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางภาคการเกษตร ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย
สำหรับประวัติความเป็นมา “วันโคนมแห่งชาติ” ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2503 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในคราว เสด็จฯ ประพาสทวีปยุโรปได้เสด็จประทับแรม ณ ประเทศเดนมาร์ก ทรงสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก ด้วยทรงเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวไทย
หลังจากเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย รัฐบาลเดนมาร์กได้ถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเป็นของขวัญแด่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เพื่อให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยบรรลุตามเจตนารมณ์ ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 20ตุลาคม 2504 โดยได้ดำเนินการจัดตั้ง “ฟาร์มโคนม” และ “ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย–เดนมาร์ค” ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2505 โดย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ทรงประกอบพิธีเปิด “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค” อย่างเป็นทางการ
รัฐบาลไทยจึงได้กำหนดให้วันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็น “วันโคนมแห่งชาติ” จากนั้นมา “วันโคนมแห่งชาติ” จึงถือเป็นวันสำคัญยิ่งต่อเกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย อ.ส.ค. จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ ๙