alivesonline.com : สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เผยมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยปี 2553-2560 ขยายตัวต่อเนื่อง 5.61% ผลักดัน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563” เป็นหนึ่งเมกะอีเวนต์ ระดมไอเดียออกแบบกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่อยู่รอดได้ทุกสถานการณ์ พร้อมขยายย่านสร้างสรรค์ใหม่ ขานรับการเป็น “เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก”
นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการสร้างและใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญาที่เชื่อมโยงกับพื้นฐานทางวัฒนธรรม การสั่งสมความรู้ของสังคม เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการผลิตสินค้าและบริการใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศได้ปรับเปลี่ยนทิศทางไปอิงกับระบบเศรษฐกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยใช้ต้นทุนจากองค์ความรู้เดิมร่วมกับความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดและเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการเดิมที่มีอยู่ นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมหาศาล
ในปี 2560 ประเทศไทยมีมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 15 สาขา คิดเป็น 9.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท มีอัตราขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2553-2560 เติบโตเฉลี่ย 5.61% สูงกว่าจีดีพีที่เติบโตเฉลี่ย 5.24% โดยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 3 สาขาที่มีมูลค่าสูงสุดคือ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 285,179 ล้านบาท รองลงมาคือ อาหารไทย 197,741 ล้านบาท และการออกแบบ 187,934 ล้านบาทตามลำดับ
ภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปี 2562-2565 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลักดันมูลค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เติบโตไม่น้อยกว่า 5% ของจีดีพี และส่งเสริมให้เกิดเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) เพิ่มขึ้นเพื่อเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวและธุรกิจของประเทศนั้น CEA จำเป็นต้องเดินหน้าผลักดันให้เกิดการพัฒนาบุคลากรสร้างสรรค์ (Creative People) การเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ธุรกิจสร้างสรรค์ (Creative Business) และการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Place) ดังนั้น การจัดงาน “เทศกาลออกแบบกรุงเทพฯ” หรือ “Bangkok Design Week” จึงเป็นกิจกรรมใหญ่ประจำปีที่สะท้อนถึงภารกิจทั้ง 3 ด้านนี้ได้อย่างชัดเจน โดยจากการจัดงาน 2 ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานทั้งไทยและต่างประเทศรวมแล้วไม่น้อยกว่า 4 แสนคน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า จากการจัดงานที่ผ่านมาทั้ง 2 ปี จะเห็นได้ว่าย่านเจริญกรุงซึ่งเป็นย่านหลักของการจัดงานมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น TCDC ที่อยู่ในบริเวณเดียวกับอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย, อาคารศุลกสถาน อาคารริมน้ำเจ้าพระยาทรงนีโอคลาสสิก ที่ทำการเก็บภาษีสินค้าขาเข้า และ มัสยิดชุมชนฮารูณอายุกว่า 100 ปี เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนใหม่ ๆ โดยภาคเอกชนหลายรายเข้ามาลงทุนและเปิดให้บริการในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมบูทีคโฮเต็ล รวมถึงแกลเลอรีศิลปะที่มากกว่า 10 แห่ง ตลอดจนพื้นที่จัดงานสร้างสรรค์ เช่น Warehouse 30 ขณะที่การเติบโตของชุมชนมีการต่อยอดของสินค้าเก่าแก่ภายในชุมชนซึ่งได้พัฒนารูปแบบการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะกับโลกยุคใหม่มากขึ้นให้สามารถจำหน่ายหรือสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ เหล่านี้เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของย่านเจริญกรุง ที่เกิดจากการเดินหน้าร่วมกันระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน และผู้คนในชุมชน จึงทำให้ภาพของย่านสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์เด่นชัดมากขึ้นในทุก ๆ ปี
สำหรับ “งานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563” หรือ “Bangkok Design Week 2020” (BKKDW 2020) จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2563 ภายใต้ธีม “Resilience : New potential for living ปรับตัว > อยู่รอด > เติบโต” โดย CEA ร่วมกับผู้ร่วมจัดงานทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรระหว่างประเทศกว่า 60 หน่วยงาน นักออกแบบและธุรกิจสร้างสรรค์กว่า 2 พันราย ระดมไอเดียในการสร้างศักยภาพใหม่ ๆ ให้กรุงเทพฯ สำหรับรองรับประชากรที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคมที่มีความแตกต่าง สร้างความปลอดภัยและส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณะ เป็นเมืองที่มีความสามารถในการอยู่รอดและเติบโตได้ในทุกสถานการณ์ พร้อมขานรับการเป็นหนึ่งใน “เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก” ด้วยการขยายพื้นที่จัดงานจากเจริญกรุง-ตลาดน้อย ไปยังสามย่าน, อารีย์-ประดิพัทธ์ และทองหล่อ-เอกมัย
ในส่วนของกิจกรรมหลักของการจัดงาน มี 5 รูปแบบได้แก่ (1) Showcase & Exhibition กลุ่มผลงานจากนักสร้างสรรค์และภาคธุรกิจที่นำเสนอแนวทางของการพัฒนาคน ชุมชน ธุรกิจ และเมือง ที่ใช้กระบวนการออกแบบและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในหลากหลายแง่มุม โดยมีไฮไลท์สำคัญที่สะท้อนถึงการมีชีวิตอยู่ในยุคสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมอ่อนแอลงทุกวัน เช่น “หลุมหลบภัยทางอากาศ: Bangkok #Safezone Shelter” และ “Everlasting Forest by GC” (2) Talk & Workshop จากนักคิดนักสร้างสรรค์ที่จุดประกายความคิดในการออกแบบอย่างยั่งยืน โดยการลด เลือกใช้ หรือหมุนเวียนทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคนในสังคม อาทิ “7 Wonders Of Business Resilience ประสบการณ์: ปรับตัว>อยู่รอด>เติบโต ของ 7 ธุรกิจ” และ Bangkok Design Week 2020 Powered by PechaKucha
(3) Creative District กิจกรรมส่งเสริมย่านเจริญกรุงสู่ความเป็นย่านสร้างสรรค์ทั้งด้านธุรกิจและคุณภาพชีวิตด้วยการจัดทำต้นแบบการพัฒนาพื้นที่เพื่อให้เกิดการทดสอบและนำไปสู่การใช้งานจริง อาทิ “MADE IN CHAROENKRUNG” (4) Event & Program กิจกรรมเฉลิมฉลองให้กับความสร้างสรรค์ของชาวกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรี การฉายภาพยนตร์ ศิลปะ การแสดง เวิร์คช้อป และกิจกรรมการเปิดบ้าน และ (5) Creative Market ตลาดนัดสร้างสรรค์เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าและการขยายเครือข่ายธุรกิจของผู้ประกอบการเก่าและใหม่ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และพบกับ Pinkoi Market in Bangkok 2020 ที่รวบรวมงานดีไซน์จาก ไทย ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ThaiGa Creative Market 2020 ตลาดสินค้าจากสตูดิโอออกแบบและนักสร้างสรรค์ไทย Meta Food market ตลาดอาหารกลายพันธุ์ การประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์กับอาหาร ตั้งแต่วิธีการคิดและผลิต
ผู้สนใจสามารถร่วมงาน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563” (BKKDW 2020) ตั้งแต่วันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เจริญกรุง-ตลาดน้อย, สามย่าน, อารีย์-ประดิพัทธ์ และทองหล่อ-เอกมัย ติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดี ๆ ภายในงานได้ทางเว็บไซต์ bangkokdesignweek.com เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/BangkokDesignWeek/ อินสตาแกรม : bangkokdesignweek #BKKDW2020 และ #bangkokdesignweek