alivesonline.com : “แม็คโคร” ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งสำคัญ ร่วมกับ 22 สถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ พลิกโฉมการฝึกงานรูปแบบใหม่ เน้นติวเข้มแรงงานคุณภาพ แถมมีรายได้ระหว่างฝึกงาน 70% ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละพื้นที่ ตอบโจทย์ความต้องการภาคธุรกิจ เพิ่มโอกาสต่อยอดสายอาชีพแบบติดจรวด
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม็คโคร” ให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาบุคลากร” ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้ โดยที่ผ่านมาองค์กรมุ่งเน้นการสรรหาบุคลากรที่มี ศักยภาพที่ใช่ ภายใต้โครงการ “แม็คโครสร้างงาน สร้างอาชีพ” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งได้มีการปรับกระบวนทัศน์ใหม่ในโปรแกรมการรับนักศึกษาฝึกงานชั้นปี 3-4 ในด้านโครงสร้างหลักสูตรพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้งานจากประสบการณ์จริงตลอด 16 สัปดาห์ เสมือนเป็นพนักงานทดลองงาน เพื่อให้กลายเป็นแรงงานคุณภาพที่พร้อมทำงานได้ทันที
ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลของ “แม็คโคร” ทำงานเชิงรุกร่วมกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งผลิตบุคลากรป้อนตลาดแรงงาน เพื่อบอกคุณสมบัติที่องค์กรต้องการอย่างชัดเจน จนนำมาซึ่งการลงนามบันทึกความร่วมมือ การส่งเสริมวิชาการและสร้างอาชีพ ร่วมกับ 17 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศในเบื้องต้น และอีก 5 สถาบันการศึกษาในลำดับถัดไป ในการรับนักศึกษาฝึกงานจากภาควิชาเกี่ยวกับการจัดการในห่วงโซ่อาหาร อาทิ วิทยาศาสตร์การอาหาร, เกษตรศาสตร์ (พืชสวน พืชไร่ ประมง สัตวศาสตร์), การจัดการธุรกิจอาหาร เป็นต้น มาปฏิบัติงาน เรียนรู้ประสบการณ์จริง ในฝ่ายอาหารสด โดยได้รับเบี้ยเลี้ยงเป็นรายวัน คิดเป็นวันละ 70% ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังมีประกันกลุ่ม คุ้มครองนักศึกษาทุกคนตลอดระยะเวลาการฝึกงานด้วย
นางศิริพร กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว ยังสร้างโอกาสต่อยอดให้กับนักศึกษาที่ผ่านการฝึกงานทุกคนที่มีศักยภาพพร้อมที่จะเติบโตไปกับธุรกิจของ “แม็คโคร” โดยเมื่อมีตำแหน่งงานว่าง หรือมีความต้องการตำแหน่งงานจะได้รับการติดต่อเชิญเข้าสัมภาษณ์ทันที และยังได้รับโอกาสคัดเลือกเข้าสู่โปรแกรม Operation Trainee ซึ่งเป็นโครงการเฟ้นหาผู้ที่มีความพร้อมเป็นหัวหน้างานระดับต้น (Supervisor) หรือ ผู้จัดการ Section Manager หากมีความโดดเด่น โดยแต่ละปีจะมีอดีตนักศึกษาฝึกงานของ “แม็คโคร” และผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 600 ราย สมัครเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ไม่เพียงเท่านั้นหากมีผลงานโดดเด่นยังอาจได้รับเลือกเข้าโครงการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ของบริษัทอีกด้วย
สำหรับโครงสร้างหลักสูตรพัฒนาศักยภาพนักศึกษาฝึกงานนี้จะแบ่งการเรียนรู้ในฝ่ายอาหารสดเป็น 5 เฟส ประกอบด้วย การเรียนรู้เนื้อหาทั่วไป, เนื้อหาเฉพาะแผนก, หลักการจัดการ, การจัดทำรายงาน, การนำเสนอรายงาน โดยผู้ฝึกงานจะได้เรียนรู้ครอบคลุม ได้รับการอบรม ทดสอบ เรียนรู้ปัญหาจริงจากการฝึกงานในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมคิดค้นนวัตกรรมและนำเสนอโครงการ (Project) ตลิดระยะเวลา 16 สัปดาห์ที่ได้ฝึกปฏิบัติจริง โดยเมื่อจบโครงการจะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองด้วย
นางศิริพร กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงที่ผ่านมา “แม็คโคร” ได้รับอดีตนักศึกษาที่เคยฝึกงานกับเรา เข้าทำงานต่อไม่น้อยกว่า 70% ซึ่งทุกคนพร้อมลงสนามจริง ทำงานได้ทันที อันเป็นคุณสมบัติสำคัญในการสรรหาพนักงานยุคใหม่ที่ทุกองค์กรต่างก็ต้องการแรงงานคุณภาพที่มีศักยภาพเหมาะสม ตรงกับความต้องการ ซึ่ง “แม็คโคร” เชื่อว่า การให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพพนักงานตั้งแต่เริ่มต้น จะทำให้องค์กรมีความแข็งแกร่ง เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน “แม็คโคร” เป็นธุรกิจค้าส่งระบบสมาชิกที่มีสมาชิกประกอบด้วย ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย โชห่วย ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง จำนวน 3.3 ล้านราย มีสาขาตั้งอยู่ทั่วประเทศจำนวน 133 แห่ง มีแนวทางธุรกิจที่ชัดเจนในการเป็นศูนย์ค้าส่งครบวงจรเพื่อผู้ประกอบการมืออาชีพที่พร้อมจะสร้างงาน สร้างอาชีพ เติมเต็มคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย