alivesonline.com : “ทีเส็บ” เปิดโครงการ Virtual Meeting Space นำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์เข้าสู่ยุคการประชุม/นิทรรศการออนไลน์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ในภาวะการปิดเมืองทั่วโลก พร้อมช่วยยกระดับมาตรฐานสาธารณสุข เพิ่มความมั่นใจด้านสุขอนามัยแก่ผู้ใช้บริการ
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลายมาตรการเป็นประโยชน์ต่อสถานประกอบการและบุคลากรไมซ์ เช่น มาตรการให้เงินเยียวยาลูกจ้างที่ว่างงานอันเกิดจากเหตุสุดวิสัยได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม 62% ของค่าจ้างรายวันแต่ไม่เกิน 90 วัน มาตรการลดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟ 3% สำหรับผู้ใช้งานทุกกลุ่มในเดือนเมษายน-มิถุนายน และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการเฉพาะ เช่น กิจการโรงแรม กิจการให้เช่าพักอาศัย ได้รับการขยายระยะเวลาการจ่ายค่าไฟในเดือนเมษายนและพฤษภาคมโดยจะผ่อนผันให้ 6 เดือนของแต่ละรอบบิล มาตรการช่วยเหลือเยียวยาด้านการแพทย์สาธารณสุข ด้านการดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศที่เกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพ การยกระดับการค้า และการผลิต รวมถึงการบริการในสาขาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์
ผลจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการยกเลิกงานไมซ์ทั่วโลก ทำให้การประชุมออนไลน์ การแสดงสินค้าออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการอยู่รอดของธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการของไทยเองต้องปรับตัวให้ทัน ดังนั้น “ทีเส็บ” จึงเข้ามาดำเนินการเพื่อเสริมมาตรการของรัฐบาล มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมมาตรฐานสถานที่จัดงานและผู้ประกอบการไมซ์ ได้แก่ การส่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัย และการส่งเสริมการจัดงานโดยใช้เทคโนโลยีออนไลน์ จำนวน 2 โครงการในระยะแรกนี้
โครงการแรกคือ “จัดประชุมอย่างไร ปลอดภัยไร้ COVID-19” โดยให้การสนับสนุนงบประมาณ 30,000 บาท สำหรับสถานประกอบการไมซ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปจัดทำแผนและจัดหาอุปกรณ์ตามมาตรการคัดกรองและป้องกันไวรัส COVID-19 ตามแนวปฏิบัติควบคุมและป้องกันไวรัส COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำมาปฏิบัติใช้ในสถานที่จัดงานและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มาใช้บริการ อาทิ การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าร่วมงาน การตรวจประวัติของผู้ที่เข้ามาร่วมงาน การติดตั้งจุดล้างมือ จุดบริการแอลกอฮอล์ และการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น
หลักเกณฑ์ของสถานประกอบการไมซ์ที่สามารถเข้าร่วมโครงการคือ มีคุณสมบัติเป็นสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) หรือเป็นผู้ประกอบการโรงแรมซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย หรือ Thai Hotel Association (THA) ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะสนับสนุนสถานประกอบการไมซ์ได้ถึง 216 สถานที่ทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้น 6,480,000 บาท โดยโครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 สามารถสอบถามและลงทะเบียนขอรับการสนับสนุนได้ที่ ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ “ทีเส็บ” อีเมล MICEstandards@gmail.com
โครงการที่สองคือ “Virtual Meeting Space หรือ VMS” สนับสนุนผู้ประกอบการในการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการจัดงาน รวมถึงการเพิ่มทักษะความรู้ในการใช้แพลทฟอร์มออนไลน์ให้ผู้ประกอบการไมซ์ในภาวะวิกฤติ COVID-19 แบ่งเป็น 3 กิจกรรม ได้แก่
1.Webinar หรือการประชุมสัมมนาเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ให้การสนับสนุนการจัดหาและบริหารจัดการแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้จัดงานและผู้ประกอบการไมซ์ที่ต้องการจัดประชุมสัมมนา ปรับเปลี่ยนมาใช้การจัดประชุมสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ โดย “ทีเส็บ” จะดำเนินการด้านบริหารจัดการเรื่องการผลิตและการจัดเตรียมสตูดิโอสำหรับการไลฟ์ (LIVE) ให้ผู้จัดงาน รวมถึงการจัดเตรียมผู้ประสานงานทางเทคนิค การดูแลระบบระหว่างการไลฟ์ (LIVE) ซึ่งผู้จัดงานสามารถนำเสนอสไลด์ดิจิทัล (Slide Presentation) ขึ้นโชว์ควบคู่ไปพร้อมกับการประชุมสัมมนา หรือการพูดคุยได้ในเวลาเดียวกัน การแชร์ประสบการณ์ การพูดคุยร่วมกับวิทยากร การสอบถามแบบยกมือแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการทำโพลแบบสำรวจ โดยรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้สูงสุดถึง 10,000 คนต่องาน
2.O2O (Offline to Online) หรือการจัดงานแสดงสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ให้การสนับสนุนการจัดหาและบริหารจัดการแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้จัดงานแสดงสินค้า โดยสนับสนุนการถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งทั้งจากสตูดิโอ หรือสถานที่ของผู้จัดงาน ครอบคลุมทั้งการร่วมวางคิว ผลิต ควบคุม และดูแลระบบระหว่างการถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีมมิ่ง รวมถึงจัดเตรียมผู้ประสานงานทางเทคนิคให้แก่ผู้จัดงานแสดงสินค้าในทุกขั้นตอน ซึ่งผู้ร่วมแสดงสินค้าจะสามารถนำเสนอกิจกรรมและสินค้าบริการต่าง ๆ รวมถึงมีระบบการชำระเงินออนไลน์ที่สามารถเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้อีกด้วย
3.E-Learning Platform หรือศูนย์การเรียนรู้คอร์สฝึกอบรมออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ เพื่อเพิ่มทักษะและทบทวนความรู้ (Upskills and Reskills) ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ในช่วงที่งานได้รับผลกระทบ สามารถรองรับการทำงานที่ปฏิบัติจริงได้ทันที และเตรียมความพร้อมปูพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบการไมซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย “ทีเส็บ” เปิดรับสมัครผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจจำนวน 250 ราย เข้าเรียนคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม YourNextU จากสถาบัน Southeast Asia Center หรือ SEAC รวมทั้งสิ้น 6 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรการบริหารโครงการ (Project Management) 2.หลักสูตรทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonnel Skills) 3.หลักสูตรการจัดการ (Management) 4.หลักสูตรการสื่อสาร (Communication) 5.หลักสูตรความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) และ 6.หลักสูตรการใช้ดิจิตอล (Digital) ซึ่งกำหนดระยะเวลาเรียนออนไลน์ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2563 โดยผู้เข้าเรียนจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทีเส็บ หากเรียนรายวิชาครบตามที่กำหนด
ทั้งนี้ โครงการ VMS จะให้การสนับสนุนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป สามารถสอบถามได้ที่ ฝ่าย MICE Intelligence และนวัตกรรม “ทีเส็บ” อีเมล vms@tceb.or.th
นายจิรุตถ์ กล่าวในตอนท้ายว่า “ทีเส็บ” ยังตอบสนองนโยบายรัฐในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยรับแนวทางการทำงานมาปฏิบัติจัดตั้ง TCEB COVID-19 Information Center หรือ “ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร COVID-19 ของทีเส็บ” เพื่อเป็นศูนย์กลางการสื่อสารข้อมูลในช่วงภาวะวิกฤต โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ “ส่วนข้อมูล” ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์เก็บรวบรวมข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ วิเคราะห์ ตรวจสอบ พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะ และ “ส่วนประชาสัมพันธ์” จะคอยติดตามสถานการณ์ข่าวสารในภาพรวมที่เร่งด่วน และพัฒนาเนื้อหาและสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องในทุกช่องทางอย่างทันท่วงที เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการไมซ์ ตามแนวทางปฏิบัติของสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”