New Issues » “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตฯ” จัดโปรช่วงเปิดตัว 19-21 มิ.ย.63

“สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตฯ” จัดโปรช่วงเปิดตัว 19-21 มิ.ย.63

19 มิถุนายน 2020
0

alivesonline.com : “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ชูจุดเด่นมิติใหม่แห่งการชอปปิงระดับโลก ดึง 200 แบรนด์ทั่วโลกร่วมเปิดชอปบนพื้นที่ 5 หมื่นตารางเมตร เผยร้านค้าร่วมเปิดตัว 65% พร้อมจัดโปรช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย.63 มอบส่วนลดเพิ่มอีก 10-15% จากลดสูงสุดกว่า 70% คาดดึงคนไทยแห่ชอป 80% จากเดิมที่ตั้งเป้าเพียง 60-70% เหตุนักนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเดินทางเข้าไทยไม่ได้ แต่ยังมั่นใจมีผู้มาใช้บริการวันละประมาณ 1 หมื่นคน พร้อมอัตราการซื้อสินค้า 90-95% ในราคาขั้นต่ำ 1.5-2 พันบาทต่อคน

นายไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ บริษัท ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินธุรกิจ พรีเมียมเอาท์เล็ตของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” (SIAM PREMIUM OUTLET BANGKOK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการดำเนินงานโครงการฯ นี้จนก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้ต้องรอความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 โดยโครงการฯ มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยซึ่งสอดรับกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ของรัฐบาล โดยจัดให้มีมาตรการการเช็กอินและเช็กเอาท์ผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงจุดให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอลล์ รวมถึงพนักงานผู้ให้บริการจะสวมมาส์กและรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนกำหนดจำนวนผู้มาใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างของภาครัฐอย่างเข้มงวด

โครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ใช้เงินลงทุน 4 พันล้านบาท บนที่ดินประมาณ 150 ไร่ เบื้องต้นเปิดบริการเฟสแรก พื้นที่ 50 ไร่ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 5 หมื่นตารางเมตร พร้อมที่จอดรถประมาณ 1.5 พันคัน จากนั้นจะพัฒนาเฟสที่ 2 เป็นส่วนต่อขยายเอาท์เล็ต และเฟสที่ 3 เป็นบริการอื่น ๆ เช่น โรงแรม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00–21.00 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้เส้นทางทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี กม.23 ทางออก 5 ลาดกระบัง โดยโครงการฯ ยังมีให้บริการรถชัตเติลบัสรับ-ส่งฟรีจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีมักกะสัน อีกด้วย

นายไมเคิล กล่าวอีกว่า สำหรับสัดส่วนร้านค้าภายในโครงการฯ แบ่งเป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี 10% อาหาร 10% และแบรนด์ต่างประเทศ 80% รวมแล้วมากกว่า 200 แบรนด์ ปัจจุบันมีร้านค้าที่เปิดให้บริการแล้วประมาณ 65% คาดว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ศกนี้ จะเพิ่มเป็น 70% และเพิ่มเป็น 80% ภายในสิ้นปี 2563 โดยเบื้องต้นบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนไทย 60-70% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30-40% เน้นนักท่องเที่ยวจีน 50-60% แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 และยังอยู่ในช่วงการควบคุมการเดินทางทางเข้า-ออกประเทศ ทำให้ต้องปรับแผนใหม่เป็นเน้นคนไทยมากขึ้นถึง 80% โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ โดยในช่วงเปิดบริการอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2563 ร้านค้าต่าง ๆ จะมีการจัดโปรโมชันพิเศษมอบส่วนลดเพิ่มอีก 10-15% จากลดสูงสุดกว่า 70% ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการวันละประมาณ 1 หมื่นคน มีอัตราการซื้อสินค้าประมาณ 90-95% ในราคาขั้นต่ำ 1.5-2 พันบาทต่อคน

 

นายไมเคิล กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบัน “ไซม่อน พรี่เมี่ยม เอาท์เล็ต” มีทั้งหมด 86 สาขา โดยในเอเชียมีที่ประเทศญี่ปุ่น 10 สาขา เกาหลีใต้ 5 สาขา มาเลเซีย และประเทศไทยซึ่งตามแผนมีกำหนดจะเปิด 3 สาขา แต่ในสถานการณ์ COVID-19 ทำให้บริษัทฯ จำเป็นต้องเน้นกลยุทธ์การบริหารธุรกิจด้วยการควบคุมต้นทุนเป็นหลัก จึงอาจต้องพิจารณาแผนการลงทุนและชะลอโครงการออกไปอีกสักระยะ โดยในส่วนของ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 1 พันอัตรา โดยมีแบรนด์แบรนด์ลักซ์ชัวรีระดับเวิลด์คลาสที่เผยโฉมในคอนเซ็ปต์เอาท์เล็ตเป็นครั้งแรกในเมืองไทย อาทิ Burberry, Balenciaga, Bally, Breitling, CK, Furla, Hugo Boss และ Montblanc

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ลักซ์ชัวรีอีกมากมาย อาทิ Salvatore Ferragamo, DKNY, 3.1 Phillip Lim, Alexander Wang, Black Barrett by Neil Barrett, Diesel, Marni, P.S. Paul Smith, Proenza Schouler, Stella McCartney, DKNY, See by Chloé, Joseph and Porsche Design รวมถึงเอาท์เล็ต Coach, kate spade NEW YORK และ Skechers ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยนำเสนอสินค้าครบครัน และแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลชั้นนำและแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ American Eagle, Cotton On, Mango, New Era, U.S. Polo Assn., Camper, Dr. Martens, REPLAY, Sperry และ Lamy

นอกจากนี้ยังมี Nike พรีเมี่ยม รีเทล สโตร์ ขนาดใหญ่กว่า 1.3 พันตารางเมตร ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษสำหรับดิจิทัลเมมเบอร์โดยเฉพาะ และสไตล์การตกแต่งร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะไทย อีกทั้ง adidas เอาท์เล็ต ที่ครบครันด้วยคอลเลกชันทั้งสปอร์ตและแฟชั่นกว่า 2 พันรายการ อีกทั้งแบรนด์สปอร์ตแวร์เอ็กซ์คลูซีฟมากมาย อาทิ Asics, Vans, North Face, Sports Selected และ Grand Motorsports

พร้อมด้วยแบรนด์สินค้าของตกแต่งบ้าน เทคโนโลยี และสินค้าสำหรับเด็ก อาทิ Tefal, Ralph Lauren Home, Calvin Klein, Sanderson, Yves Delorme, Garmin, Fitbit, irobot, DJI Phantom, Nintendo, Lego และอีกมากมาย รวมทั้งแบรนด์ไทยระดับแนวหน้าอย่าง EVEANDBOY ไลฟ์สไตล์บิวตี้สโตร์อันดับหนึ่งของเมืองไทยที่จะเผยโฉมในคอนเซ็ปต์ใหม่ นอกจากนี้ยังจะมีลักซ์ชัวรีแบรนด์เข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติมอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างต่อเนื่อง