Mice&Travel » “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” พร้อมต้อนรับนักเดินทางอีกครั้ง

“เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” พร้อมต้อนรับนักเดินทางอีกครั้ง

19 กรกฎาคม 2020
0

“ทราย ลากูน มัลดีส์” (SAii Lagoon Maldives) กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ตั้งเป้าจะขยายตัวในอีก 5 ปีข้างหน้า

alivesonline.com : โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” เร่งฟื้นฟูหลังวิกฤติ COVID-19 จัดโปรโมชันสุดพิเศษดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมเข้มงวดโปรแกรมสุขภาพและความปลอดภัย เพื่อส่งเสริมธุรกิจในระยะสั้น รวมถึงวางแผนระยะยาวขยายธุรกิจทั่วโลก

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เดินหน้าเต็มกำลังหลังวิกฤติ COVID-19 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ต รุกแผนกลยุทธ์การขยายตัวระยะยาว ตั้งเป้าเติบโต 2 เท่าภายใน 5 ปี

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการเดินทางทั่วโลก ส่งผลให้โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ SHR ได้รับผลกระทบ โดยต้องระงับการให้บริการชั่วคราวโรงแรมและรีสอร์ตทั้ง 39 แห่ ใน 5 ประเทศ ล่าสุดหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หลายประเทศกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ SHR จึงได้กลับมาเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยวางแผนใหม่ให้สอดคล้องกับ “วิถีชีวิตใหม่” (New Normal) ด้านสุขภาพและสุขอนามัยที่เข้มงวดมากขึ้น และแผนเชิงรุกในการผลักดันธุรกิจให้กลับสู่แผนเดิมที่วางไว้ทั้งหมด

ในระยะสั้น “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” จะริเริ่มแผนการใหม่ ๆ ในเชิงพาณิชย์ โดยจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดภายในประเทศและในภูมิภาค เพื่อให้เข้ากับภาพรวมตลาดกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่ยังคงดำเนินการตามเป้าหมายการขยายตัวอย่างมุ่งมั่น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพอร์ตโฟลิโอเป็น 2 เท่า ภายใน 5 ปี ผ่านการลงทุนระหว่างประเทศ การซื้อกิจการ และการรับบริหารโรงแรม ซึ่งรวมถึงการเติบโตของ “ทราย” (SAii) แบรนด์รีสอร์ตแนวคิดใหม่ที่จับกลุ่มตลาดบน ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2562 เพื่อดึงดูดนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและอิสระ

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” กล่าวว่า การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกทำให้เกิดการหยุดชะงักในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแน่นอนว่า “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ก็ไม่รอดพ้นจากผลกระทบนี้ อย่างไรก็ตาม เรามีความมั่นใจว่า โครงสร้างของบริษัทฯ จุดแข็งที่สำคัญของเรา รวมถึงตำแหน่งสินค้าในระดับบน (Upper Upscale) และการเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจะช่วยให้เรากลับเข้าสู่ธุรกิจได้ง่ายขึ้น ด้วยโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งของเราและอัตราหนี้สินที่ต่ำ นอกจากนั้น เรายังกำลังตั้งเป้าที่จะสร้างอนาคตที่แข็งแรงและยั่งยืนอีกด้วย

“พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท” ตั้งอยู่ในพื้นที่ 70 เอเคอร์ ท่ามกลางสวนสไตล์ทรอปิคอล ตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้อย่างแท้จริง

การฟื้นตัวของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีโรงแรมและรีสอร์ตหลายแห่งได้เปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมศกนี้ โดย ทุกแห่งในประเทศไทยจะเข้าร่วมแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” (We Go Travel Together) ของรัฐบาล ซึ่งมอบส่วนลด 40% มูลค่าสูงถึง 3 พันบาท ต่อห้อง ต่อคืน จำนวนสูงสุด 5 คืน

นอกจากนั้น แต่ละโรงแรมยังได้เปิดตัวโปรโมชันสุดพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย ได้แก่ พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท (Phi Phi Island Village Beach Resort) เปิดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาผ่อนคลายบนเกาะสวรรค์ กับโปรโมชัน “ซื้อ 1 แถม 1 ฟรี” สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น พร้อมบริการพิเศษสุดคุ้ม อาทิ อาหารเลิศรส สปา ทริปผจญภัยบนเกาะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

สันติบุรี เกาะสมุย (Santiburi Koh Samui) เปิดตัวอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 พร้อมโปรโมชัน “ซื้อ 1 แถม 1 ฟรี” สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะ พร้อมแพ็คเกจรถรับ-ส่งส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากกรุงเทพฯ เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่หลากหลายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Lèn (เล่น) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ “สันติบุรี” รวมถึง ทริปเที่ยวเกาะแตนแบบไปเช้าเย็นกลับ คอร์สเรียนทำอาหารทะเลสูตรต้นตำรับท้องถิ่น สำรวจพืชและสัตว์พื้นเมืองของเกาะสมุย การทำสปากาแฟ ฯลฯ

รีสอร์ตแบรนด์ “เอาท์ริกเกอร์” (Outrigger) สองแห่งของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ในประเทศไทย ได้ให้บริการอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2563 พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นเพียง 1,799 บาท ที่ เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท (Outrigger Laguna Phuket Beach Resort) และเพียง 1,999 บาท ที่ เอาท์ริกเกอร์ เกาะสมุย บีช รีสอร์ท (Outrigger Koh Samui Beach Resort)

สำหรับผู้เข้าพักที่กำลังมองหาสถานที่หลบหนีความวุ่นวายบนเกาะมัลดีฟส์ ทราย ลากูน มัลดีฟส์ (SAii Lagoon Maldives) และ ฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ (Hard Rock Hotel Maldives) 2 รีสอร์ตที่น่าทึ่งภายในโครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) ปลายทางการพักผ่อนแบบบูรณาการ พร้อมให้เข้าพักอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมโปรโมชันพิเศษ “พัก 3 คืนจ่ายแค่ 2 คืน” (Stay 3, Pay 2) โดยสามารถเยี่ยมชมบรรยากาศของรีสอร์ตแบบเสมือนจริงได้ก่อนจอง ผ่านทาง 360-Degree Virtual Tours) ทราย ลากูน มัลดีฟส์ คลิกที่นี่ และ ฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ คลิกที่นี่

รีสอร์ตในประเทศฟิจิ เอาท์ริกเกอร์ ฟิจิ บีช รีสอร์ท (Outrigger Fiji Beach Resort) รีสอร์ตระดับห้าดาวบนแนวชายฝั่งคอรัลโคสต์ (Coral Coast) เกาะวีตีเลวู (Viti Levu) ได้เปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2563 ส่วน แคสต์ อเวย์ ไอส์แลนด์ ฟิจิ (Castaway Island, Fiji) และ เอาท์ริกเกอร์ มอริเชียส บีช รีสอร์ท (Outrigger Mauritius Beach Resort) คาดว่าจะเริ่มต้อนรับแขกในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 และ 1 กันยายน 2563 ตามลำดับ ตามมาด้วย เอาท์ริกเกอร์ โคนอตตา มัลดีฟส์ รีสอร์ท (Outrigger Konotta Maldives Resort) จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 โดยโรงแรมและรีสอร์ตทั้งหมดจะยังคงประเมินการผ่อนปรนและข้อจำกัดการเดินทางข้ามประเทศอย่างใกล้ชิดโดยหน่วยงานท้องถิ่น ในขณะที่โรงแรม 9 แห่งในสหราชอาณาจักรภายในเครือ เมอร์เคียว (Mercure) และ ฮอลิเดย์อินน์ (Holiday Inn) จากจำนวน 29 แห่งของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ได้เปิดให้บริการแล้ว และจะเปิดให้บริการอีก 11 แห่งภายในเดือนกรกฎาคม 2563 ส่วนโรงแรมที่เหลืออีก 9 แห่งคาดว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2563

ไม่ว่าจะเลือกจุดหมายปลายทางใดลูกค้าของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ก็สามารถมั่นใจได้ว่า โรงแรมทั้งหมดได้ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่เข้มงวด รีสอร์ตทุกแห่งในประเทศไทยได้รับใบรับรองความปลอดภัยและสุขภาพ (Safety & Health Administration : SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่วน “ทราย ลากูน มัลดีฟส์” ได้ปฏิบัติตามโปรแกรม CleanStay ของ Hilton Worldwide และ “ฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์” ปฏิบัติตามโปรแกรม Safe + Sound และการตรวจสอบ 272 จุด และทุกรีสอร์ตภายใต้แบรนด์ “เอาท์ริกเกอร์” ได้ปฏิบัติตามโปรแกรม Outrigger’s Clean Commitment ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ Ecolab

ด้วยคอลเลกชั่นรีสอร์ตที่เป็นแบรนด์ของตนเองและการบริการที่หลากหลาย ประกอบด้วย ห้องสวีทส่วนตัว และพูลวิลล่า ในหลายจุดหมายปลายทาง รีสอร์ตของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท”  ในเอเชียแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากฝูงชนและผ่อนคลายในความปลอดภัยและความเงียบสงบ พร้อมรับประกันการเว้นระยะห่างทางสังคม

โรงแรมและรีสอร์ตของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติมากมาย อาทิ “เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท” (Outrigger Laguna Phuket Beach Resort) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Favourite Family Resort – International” จากรางวัล Choice Awards 2020 ของ Condé Nast Middle East Readers 2020 และ “เอาท์ริกเกอร์ โคนอตตา มัลดีฟส์ รีสอร์ท” (Outrigger Konotta Maldives Resort) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในหมวด ” Favourite Beach Hotel – International”

ค้นหาช้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชันล่าสุดของ SHR ได้ที่เว็บไซต์ https://www.shotelsresorts.com/th/เดินทางไปด้วยกัน

หรือ www.shotelsresorts.com และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้บน Facebook, Instagram และ LinkedIn