“เคที่ดอลล์” (Cathy Doll) เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่

alivesonline.com : “เคที่ดอลล์ (Cathy Doll)”  แบรนด์เครื่องสำอางในใจสาวไทยเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ล่าสุด Cathy Doll Nude Matte Series เมคอัพสายมินิมอลสุดคิ้วท์สะดวกพกพาง่ายที่เป็นคัลเลอร์เมคอัพเอาใจสาว ๆ โดยได้หนุ่มหล่อหน้าใสสุดฮอต วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ Cathy Doll Nude Matte Lipstick , Lip & Cheek Nude Matte Tint, Glow Gel Tint และบลัชออน Nude Matte Blusher เสริมทัพให้กับคอลเลกชันใหม่ล่าสุดนี้

  • เคที่ดอลล์ นู้ดแมทท์ลิปสติก (Cathy Doll Nude Matte Lipstick) ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่แมทท์ เนียนละเอียดนุ่มละมุนปาก บางเบา สีชัด สัมผัสลื่นเกลี่ยง่าย ไม่ตกร่อง เติมสีได้อย่างแนบสนิท รู้สึกสบายริมฝีปากราวกับปากที่เปลือยเปล่า ไม่แห้งตึงระหว่างวัน พร้อมแต่งแต้มสีปากออกแบบตัวแท่งบรรจุมาค่อนข้างเรียบหรูดูมินิมอล ฝาเปิดปิดแบบล็อกแม่เหล็กดูด เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ มีให้เลือก 12 เฉดสี ราคาแท่งละ 239 บาท

– สี 01 BUDDY BEIGE

– สี 02 EASY PEACH

– สี 03 BABY BOY

– สี 04 BARELY PINK

– สี 05 NAKED HEART

– สี 06 PINK SECRET

– สี 07 CALM BROWN

– สี 08 BEING BRICK

– สี 09 SO HOT

– สี 10 TOUCH CORAL

– สี 11 CANDY POP

– สี 12 COMA RED

  • เคที่ดอลล์ ลิปแอนด์ชีคนู้ดแมทท์ทินท์ (Cathy Doll Lip & Cheek Nude Matte Tint) ลิปทินท์เนื้อนู้ดแมทท์ให้สีชัดกลบสีปากได้เนียนสนิทแนบฟิตไปกับปาก บางเบาเกลี่ยง่าย และเพิ่มการบำรุงด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจากเกาะเชจู ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากดอกแมกโนเลีย ดอกซึบากิ และดอกคาโมมายล์ ซึ่งช่วยให้ริมฝีปากกระจ่างใสแลสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติสามารถทาได้ทั้งปากและแก้มในแท่งเดียว มีให้เลือก 12 เฉดสี ราคาแท่งละ 169 บาท

– สี 01 CHARMING PINK

– สี 02  MELLOW PINK

– สี 03  MAROON PINK

– สี 04 SCORE PINK

– สี 05 SOFTLY PEACH

– สี 06 PEACH UP

– สี 07 SALMON ROLL

– สี 08 CHIC SAND

– สี 09 BROWN CARAMEL

– สี 10 BRICK CARNIVAL

– สี 11 HOLD ON RED

– สี 12 VINTAGE RED

  • เคที่ดอลล์ โกลว์ เจลทินท์ (Cathy Doll Glow Gel Tint) ลิปทินท์เนื้อเจลที่มอบสัมผัสชุ่มชื่นสีชัดติดทนนาน ช่วยเนรมิตเรียวปากให้สวยสดใสตลอดวัน พร้อมบำรุงริมฝีปากไปในตัวด้วยคุณสมบัติของไฮยาลูรอนและวิตามินอีที่มอบความอิ่มเด้ง เนียนนุ่มไม่แห้งกร้าน ให้ริมฝีปากตึงกระชับดูสดใสสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเชอร์รี่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีสีให้ได้เลือก 8 เฉดสี ราคาแท่งละ 59 บาท

– สี 01 PINK MOMENT

– สี 02 PEACH KISS

– สี 03 OH ORANGE

– สี 04 HOT BABE

– สี 05 SUGAR PEACH

– สี 06 LIKE BRICK

– สี 07 WONDER RED

– สี 08 SASSY RED

  • เคที่ดอลล์ นู้ดแมทท์บลัชเชอร์ (Cathy Doll Nude Matte Blusher) บลัชเชอร์เนื้อแมทท์ เกลี่ยง่ายให้สีชัดสวยละมุน แถมยังติดทน ด้วยนวัตกรรมของเม็ดผงแบบอณูทรงกลมขนาดเล็ก ช่วยให้แนบฟิตติดผิวได้อย่างดีเยี่ยม ให้เนื้อสัมผัสละเอียดและเนี่ยนนุ่ม เบลอผิวปกปิดรูขุมขน มีเฉดสีให้ได้เลือกถึง 8 สี ราคา 159 บาท

– สี 01 BUDDY BEIGE

– สี 02 EASY PEACH

– สี 03 BABY BOY

– สี 04 PINK IDOL

– สี 05 SASSY GIRL

– สี 06 MAROON LIKE

– สี 07 SAHARA

– สี 08 SANDY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้าน KARMART หรือช่องทางออนไลน์ www.karmarts.com  Facebook : CathyDoll Instagram : Cathy Doll และ Line: @Karmarts_onlineshop

ฟังฟรี! สัมมนาออนไลน์ “อุตฯ เครื่องดื่มในประเทศไทย”

alivesonline.com : จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงถึงประมาณ 4.75 แสนล้านบาท ในปี 2562 ทั้งยังเชื่อมโยงกับอีกหลายธุรกิจ อาทิ เกษตรแปรรูป บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ภัตตาคารและร้านอาหาร ฯลฯ ทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มเป็นอีกหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทยทั้งยังมีความหลากหลายและมีการพัฒนารูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพและความสามารถแข่งขันได้ ด้วยเหตุนี้ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย จึงได้ร่วมมือกับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดซีรีส์สัมมนาออนไลน์ขึ้นโดยมี 2 หัวข้อสำคัญ คือ “อุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทย” และ “ผู้ประกอบการควรรู้กับสิทธิประโยชน์ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม” ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับสัมมนาออนไลน์ตอนที่ 1 หัวข้อ “อุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทย” จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 15.00–17.00 น. ซึ่งเนื้อหาในการสัมมนาประกอบด้วย แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มปี 2020 โดยนาย Tan Heng Hong, APAC Food and Drink Analyst, Mintel Group Ltd. ทิศทางการตลาดและการโฆษณาเครื่องดื่มเสริมอาหาร (Functional Beverages) โดย ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน อดีตประธานกรรมการสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และนโยบายและข้อบังคับเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเสริมอาหาร โดยนายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมสัมมนาฯ ได้ที่ https://bit.ly/3j1dRTL  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ putthiporn.p@informa.com ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563

ส่วนสัมมนาออนไลน์ ตอนที่ 2 หัวข้อ “ผู้ประกอบการควรรู้กับสิทธิประโยชน์ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม” จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 9.00-16.00 น. ซึ่งเนื้อหาในการสัมมนาประกอบด้วย

  • แนวปฏิบัติสำหรับการวิเคราะห์เครื่องดื่มและสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเครื่องดื่ม (การวิเคราะห์สูตรการผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและนวัตกรรม (Functional Drink) / แนวประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับน้ำผลไม้และน้ำพืชผัก เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและนวัตกรรม (Functional Drink) โดย ว่าที่ร้อยตรี นราเศรษฐ์ นิรัดิศะยะกุล ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ 3 กลุ่มวิเคราะห์สินค้าและของกลาง และ นายทรงชัย มรกตจินดา นักวิทยาศาสตร์ชำนาญพิเศษ กลุ่มวิเคราะห์สินค้าและของกลาง
  • แนวปฏิบัติและการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ(Functional Drink) และนวัตกรรม (วิธีการปฏิบัติ การลงบัญชี และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต/แนวทางการจัดเก็บภาษีความหวาน /ภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผัก /วิธีปฏิบัติสำหรับสินค้าสรรพสามิตนำเข้า/ส่งออกและจุดความรับผิดทางภาษี (Tax Point) /การแจ้งราคาขายปลีกแนะนำ/วิธีปฏิบัติการขอคืนภาษีสรรพสามิต) โดย นายพิน แสงจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 3 สำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 1 กรมสรรพสามิต และ แพรวพรรณ จันทร์ประทักษ์ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษกองกำกับและพัฒนามาตรฐานราคาภาษีสรรพสามิต กรมสรรพสามิตร

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมสัมมนาฯ ได้ที่ https://bit.ly/32mSZQf  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ putthiporn.p@informa.com ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2563

“เทศกาลอาหารสิงคโปร์” กับไฮไลต์ฝีมือก้นครัว “Zi Char” VS “Peranakan”

alivesonline.com : พูดคุยกับ 2 เชฟชาวสิงคโปร์ ต่างวัย ต่างเจเนอเรชัน แต่ต่างมี Passion ด้านอาหารที่ยังคงลุกโชน พร้อมทำความรู้จักกับสองวัฒนธรรมอาหารซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับวงการอาหารในประเทศสิงคโปร์

หากใครเคยแวะเวียนไปตามร้านอาหารสัญชาติสิงคโปร์ ไม่ว่าจะในประเทศไทย หรือที่ประเทศสิงคโปร์ น่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับสองคำนี้มาบ้าง ทั้ง “ซือ ชาร์” (Zi Char) และ “เปอรานากัน” (Peranakan) สองตำรับอาหารที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ไปแล้ว ที่ถึงแม้จะไม่เคยได้ยิน แต่เชื่อว่าจะต้องเคยลิ้มรสความอร่อยมาแล้วแน่นอน โดยเราจะพาไปทำความรู้จักกับสองเชฟฝีมือจัดจ้าน “ไวโอเล็ต อูน” เจ้าแม่อาหารเปอรานากัน และ “เอลตัน เซียห์” ผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารซือชาร์

 

เจ้าแม่อาหารเปอรานากัน “ไวโอเล็ต อูน” (Violet Oon)

พูดชื่อ “ไวโอเล็ต อูน” คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคย แต่หากกล่าวถึงวงการอาหารของประเทศสิงคโปร์แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีชื่อของ “ไวโอเล็ต อูน” อยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ

ด้วยประสบการณ์ในวงการ Food & Beverage อันยาวนานหลายทศวรรษ และตำแหน่งทูตวัฒนธรรมอาหารประจำประเทศสิงคโปร์ “ไวโอเล็ต อูน” ได้รับการยอมรับในฐานะปรมาจารย์ด้านอาหาร “เปอรานากัน” หรือ “ญอญญา” (Nyonya) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอาหารจีนและมลายู โดยใช้เทคนิคการผัดและเครื่องเทศจากจีนผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งในปัจจุบัน “ไวโอเล็ต อูน” เป็นเจ้าของร้านอาหารในเครือ Violet Oon Singapore และ National Kitchen ที่พูดได้ว่าเป็นรสชาติของสิงคโปร์อย่างแท้จริง

แม้ว่าในปัจจุบันเธอจะเป็นไอคอนด้านอาหารของสิงคโปร์ และรักการทำอาหารตั้งแต่เด็ก แต่เชฟไวโอเล็ตเริ่มต้นการทำงานจากการเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับศิลปะและดนตรี ก่อนจะกลายมาเป็นนักวิจารณ์อาหาร และได้รับตำแหน่งทูตวัฒนธรรมอาหารจากการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board : STB) ในปีค.ศ.1988

 “ภารกิจของฉันคือ การคัดสรร รวบรวม และเผยแพร่มรดกอาหารอันล้ำค่าของสิงคโปร์

“ฉันไม่ได้ชื่นชอบเพียงรสชาติ รสสัมผัส หรือเทคนิคการประกอบอาหารแต่ละจาน แต่ยังอยากรู้เรื่องราวเบื้องลึกกว่าจะมาเป็นอาหารจานนั้น ฉันพูดเสมอว่า เพียงแค่เรามองดูจานอาหารบนโต๊ะของแต่ละบ้าน เราก็สามารถบอกได้ว่าครอบครัวนั้นมีที่มาอย่างไร บรรพบุรุษของพวกเขามาจากไหน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร และเคยเดินทางไปที่ใดมาบ้าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้อพยพ วัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ จึงมีทั้งอิทธิพลของจีน มาเลย์ อินเดีย ไปจนถึงอังกฤษที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคม”

 

วัฒนธรรมที่ผสมผสานนี้เองที่ถูกเรียกว่า “เปอรานากัน” แล้วอาหารแบบเปอรานากันคืออะไร?

“อาหารเปอรานากัน หรือ ญอญญา คือการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกในดินแดนหนึ่งเข้ากับวัฒนธรรมตะวันออกจากอีกกลุ่มหนึ่ง แล้วเติมแต่งด้วยอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก”

เชฟไวโอเล็ต อูน ให้คำนิยาม

“จุดเริ่มต้นของอาหารเปอรานากันคือการที่หนุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพมาตั้งรกรากบริเวณคาบสมุทรนี้และได้คู่ครองเป็นสาวมาเลย์ในท้องถิ่น ต่างฝ่ายจึงต่างได้รับมรดกอาหารจากอีกวัฒนธรรม จึงเกิดการผสมผสานระหว่าง 2 วัฒนธรรม ขณะเดียวกันก็ได้รับอิทธิพลจากชาวอินเดียตอนใต้ที่อพยพมาอาศัยในบริเวณเดียวกันด้วย และเมื่ออยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ จึงได้ซึมซับประเพณีการกินแบบตะวันตกมาโดยปริยาย”

ด้วยเหตุนี้ อาหารประเภทนี้จึงมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว มีการใช้เครื่องเทศ ถั่วเทียน (Candlenut) พริก กะทิ กะปิ ที่ให้กลิ่นหอมและรสชาติจัดจ้าน แต่มีความกลมกล่อมด้วยการปรุงแบบจีนที่มีการใช้ซีอิ๊ว ซอสถั่วเหลือง กระเทียม หอมแดง และเครื่องเทศ 5 ชิ้นของจีน โดยเมนูที่หลายคนน่าจะเคยได้ชิม ได้แก่ ลักซา, เหงาะ เฮียง, อะยัม บวค กลูวะก์ และซัมบัล อุดัง เปอไต

“ปัจจุบัน สิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่มีความหลากหลายยิ่งกว่าในอดีตที่ผ่านมา เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นเบ้าหลอมที่อาหารต่างสัญชาติ ต่างวัฒนธรรม มาอยู่ร่วมกัน มีเชฟต่างชาติระดับมิชลินจำนวนมากที่เข้ามาเปิดร้านในสิงคโปร์ และนำเอาวัตถุดิบและวัฒนธรรมอาหารในท้องถิ่นเข้าไปผสมผสาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นเมนูอาหารที่มีต้นกำเนิดที่แตกต่างกันมาเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะเดียวกัน” เชฟไวโอเล็ต อูน กล่าวสรุป

เอลตัน เซียห์ (Elton Seah) ผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารซือชาร์

ขณะที่อาหารเปอรานากันเต็มไปด้วยสีสัน จากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมต่าง ๆ เสน่ห์ของอาหาร “ซือชาร์” (Zi Char) กลับอยู่ที่ความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยเทคนิคอันซับซ้อน เพื่อสร้างประสบการณ์การกินอันเป็นเอกลักษณ์ และพ่อครัวซือชาร์ที่ถือเป็นคลื่นลูกใหม่และกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวง F&B ของสิงคโปร์คือ “เชฟเอลตัน เซียห์” (Elton Seah) จากร้าน HolyCrab

ด้วยความหลงใหลในกลิ่นหอมถ่านของอาหารจำพวก “Wok” และความสนุกสนานจากการทดลองสร้างสรรค์รสชาติและผสมผสารเครื่องปรุงต่าง ๆ “เอลตัน เซียห์” จึงเริ่มเดินทางเข้าสู่ถนนสายอาหาร ด้วยจุดมุ่งหมายสูงสุดคือการได้รับดาวมิชลินเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ

“ซือชาร์” วัฒนธรรมอาหารที่ไม่เหมือนใคร

“ซือชาร์” (Zi Char) มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนที่มีความหมายว่า “ผัดและทอด” ซึ่งเป็นคำที่ชาวสิงคโปร์ใช้เรียกอาหารตระกูลผัดและทอด มีเทคนิคการทำแบบจีนที่ซับซ้อนกว่าอาหารตามสั่งทั่วไป แต่ก็ไม่ได้หรูหราเหมือนภัตตาคารใหญ่ ๆ อีกทั้งยังมีความแปลกใหม่ หลากหลาย ด้วยอิทธิพลของวัฒนธรรมอาหารชนิดต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์ รวมถึงวัตถุดิบพรีเมี่ยมที่คนนิยมกันอย่าง ปู กุ้ง หรือหอยนางรม โดยจะนิยมสั่งเป็นสำรับ 4-10 จาน เพื่อรสชาติอันหลากหลาย

“สำหรับผม ซือชาร์คือการยกระดับอาหารแบบบ้าน ๆ ให้เหนือขึ้นอีกระดับ เราไม่มีทางได้รสชาติและกลิ่นถ่านแบบ Wok จากกระทะที่บ้านแน่นอน” เชฟเอลตันกล่าว “แค่ได้มองดูกระบวนการปรุงอาหาร ลีลาการเขย่ากระทะ-สะบัดตะหลิวของเชฟ ได้เห็นไฟลุกท่วมขณะที่เชฟผัดอาหารในกระทะก็ถือเป็นอาหารตาสำหรับผมแล้ว”

เขาเริ่มอาชีพด้านอาหารโดยการจัด Private Dining เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี ก่อนจะเปิดร้านเป็นของตัวเองในชื่อ “HolyCrab” ซึ่งมีจุดขายเป็นเมนูปูตามชื่อร้าน โดยไม่ได้มีเพียงเมนูปูผัดพริก หรือ Chilli Crab ที่คนไทยคุ้นเคยกันเท่านั้น แต่ยังนำเอาไปทำเมนูอื่น ๆ อีกถึง 12 เมนู เช่น “Balsamic Crab” ที่นำไปปรุงกับน้ำส้มสายชูบัลซามิกแบบอิตาลี หรือ “Green Mumba” ที่เข้าคู่กับซอสสีเขียวรสชาติเข้มข้นแบบเอเชีย

“แน่นอนว่าผมก็เหมือนกับเชฟทุกคนที่ไล่ตามความฝันในการเป็นเชฟระดับมิชลิน นอกจากนั้น เรื่องสนุกอย่างหนึ่งของการทำอาหารซือชาร์สำหรับผม คือการทดลองปรับเปลี่ยนเมนูปกติให้แตกต่างจากเดิม การันตีได้เลยว่าเมื่อมาเยือนที่ร้านของเรา คุณจะได้พบกับเมนูการสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร”

แม้จะเป็นเชฟที่มีชื่อเสียง แต่ทั้งสองก็ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤติ COVID-19 ไม่ต่างจากทุกคน

“อุตสาหกรรม F&B ของเรามีความสามัคคีกันมาก เราต้องเปลี่ยนไปใช้ช่องทางส่งอาหารแบบเดลิเวรีแทนการเปิดร้านตามปกติ ซึ่งหลายคนก็ออกไอเดียและนวัตกรรมเพื่อมาช่วยการขาย ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ฉันเชื่อว่าจากสถานการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กข้างทาง หรือร้านหรูระดับห้าดาว ทุกคนได้เรียนรู้ว่าเราต้องรู้จักปรับตัวให้เร็ว และรู้ว่าการมีตัวตนบนโลกดิจิทัลนั้นสำคัญเพียงใดสำหรับการอยู่รอดในโลกยุคนี้เชฟไวโอเล็ต อูน เผย

“ไม่เพียงแค่วงการ F&B เท่านั้น แต่ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ร้านเราเองก็เจอปัญหามากมาย ทั้งวัตถุดิบขาดตลาด ทั้งต้องให้พนักงานออก หรือให้พนักงานบางคนหยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน เพื่อให้เราผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ แต่ถือว่าร้านเราโชคดีที่ยังมีลูกค้าประจำคอยอุดหนุนตลอดช่วงหลายเดือนที่เราต้องเปลี่ยนมาส่งอาหารเดลิเวรีเพียงอย่างเดียว มีรัฐบาลที่คอยให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม เรายังต้องดูกันไปอีกยาว ๆ และต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์อาจเลวร้ายที่สุดเสมอ” เชฟเอลตัน กล่าว

“เทศกาลอาหารสิงคโปร์” – Singapore Food Festival 2020

“เทศกาลอาหารสิงคโปร์” คือ งานเฉลิมฉลองมรดกวัฒนธรรมอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรกที่จัดในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงเพื่อตอบรับกับสถานการณ์และวิถี New Normal ในปัจจุบัน โดยมีกิจกรรมออนไลน์มากมายในระหว่างวันที่ 21-30 สิงหาคม 2563 และเชฟทั้งสองท่านก็มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ด้วย โดยจะทำการไลฟ์สดสอนทำอาหารในกิจกรรม Live Masterclass ให้กับผู้ชมทางบ้านได้ลองทำตาม

“เชฟไวโอเล็ต อูน” จะมาในคลาส Cooking with Sambal by Violet Oon Singapore ที่จะเผยเคล็ดลับการปรุงเมนู “เปอรานากัน” แบบต้นตำรับโดยใช้น้ำพริกซัมบัลกับ 2 เมนูขึ้นชื่อ Udang Masak Lemak Nanas และ Ayam Goreng Chilli

ส่วน “เชฟเอลตัน เซียห์” จะมาสอนคลาส HolyCrab : Supper Treats by HolyCrab โดยมาพร้อม 3 เมนูเด็ดประจำร้าน ได้แก่ Umami Har Cheong Deep Fried Pork Belly, Cantonese Pan Fried Cod Fish with Ginger Scallions และ Savoury Wok Fried Porridge with Succulent Cod Fish

ผู้สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.singaporefoodfestival.sg

“ดอยตุง โคลด์ บรูว์ คอฟฟี่” กาแฟอาราบิกาคั่วบดสกัดเย็นรูปแบบใหม่

alivesonline.com : ดอยตุง ชวนมาสัมผัสกับประสบการณ์ของการดื่มกาแฟอาราบิกาคั่วบดสกัดเย็นรูปแบบใหม่ “ดอยตุง โคลด์ บรูว์ คอฟฟี่” (DoiTung Cold Brew Coffee) เสิร์ฟในรูปแบบชงดื่มด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยเมล็ดกาแฟคุณภาพที่ปลูกภายใต้ร่มไม้ในป่าใหญ่บนดอยตุง ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของช็อกโกแลตคาราเมล เหมาะสำหรับคอฟฟี่เลิฟเวอร์นำไปรังสรรค์กาแฟได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงฉีกซอง นำใส่ขวดเติมน้ำแล้วแช่เย็น 10 ชั่วโมง ก็จะได้ลิ้มรสความสดชื่นจากเนื้อแท้ของเมล็ดกาแฟคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ในกล่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมการันตรีด้วยสัญลักษณ์ FSC™ จากองค์การจัดการด้านป่าไม้ (Forest Stewardship Council™) ราคา 150 บาท (กล่องละ 3 ซอง ซองละ 50 กรัม) หาซื้อได้แล้ววันนี้ ณ ร้านดอยตุงไลฟ์สไตล์,คาเฟ่ดอยตุง, ท็อปส์ มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : DoiTungClub และ Line : @DoiTung_Lifestyle หรือ @CafeDoiTung

“ทีเส็บ” ยกระดับ “นครราชสีมา-สงขลา” เป็น “ไมซ์ซิตี้” แห่งใหม่

alivesonline.com : “ทีเส็บ” ประกาศเพิ่มไมซ์ซิตี้อีก 2 แห่งคือ “นครราชสีมา” และ “สงขลา” ตามกลยุทธ์ขยายฐานอุตสาหกรรมไมซ์ให้กว้างขวางสู่ทุกภูมิภาค เตรียมประกาศเปิดตัวครั้งแรกในงาน “จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” วันที่ 2 กันยายน 2563 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า “ทีเส็บ” ยึดมั่นนโยบายสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ให้กระจายไปยังทุกภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างทั่วถึง จึงทำให้โครงการไมซ์ซิตี้มีพัฒนาการเป็นอย่างดีมาตลอด โดยในช่วงที่ผ่านมา “ทีเส็บ” ร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ และองค์กรภาคีพัฒนาไมซ์ซิตี้ขึ้นมา 5 แห่ง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต พบว่าความร่วมมือกันส่งผลให้เกิดการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งเรื่องการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจไมซ์ ธุรกิจท่องเที่ยว และการพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ในแต่ละจังหวัด

“ความสำเร็จของไมซ์ซิตี้ทำให้มีการประชุมและแสดงสินค้าไปจัดเพิ่มขึ้นในแต่ละจังหวัด ทำให้หลายจังหวัดก็ต้องการจะเป็นไมซ์ซิตี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะเกิดการตื่นตัวไปทั่วประเทศ แต่ก็ต้องไม่ทิ้งมาตรฐานและรักษาคุณภาพให้ดี”

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสงขลา เป็น 2 จังหวัดที่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินได้รับการรับรองเป็นเมืองไมซ์ของประเทศไทยเพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน, การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง, กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม, ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก, สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก, ภาพลักษณ์และความมีชื่อเสียงของเมือง, สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย

 

ทั้งนี้ ในการเป็นไมซ์ซิตี้ของทั้ง 2 เมือง “ทีเส็บ” จะร่วมดำเนินการกับทางจังหวัด หน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนครราชสีมาและสงขลา โดยจะมุ่งขับเคลื่อนเมืองไมซ์ตามแผนยุทธศาสตร์ไมซ์ซิตี้ครบองค์รวมภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1.พัฒนาช่องทางการตลาดและส่งเสริมกิจกรรมการตลาด ปรับเปลี่ยนและสร้างภาพลักษณ์ของเมืองเพื่อรองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ 2.พัฒนารูปแบบกิจกรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ สนับสนุนการใช้วัฒนธรรมพื้นเมืองที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมไมซ์และยกระดับกิจกรรมไมซ์ที่มีศักยภาพไปสู่ระดับนานาชาติ 3.สร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรไมซ์ในพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล และ 4.ยกระดับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

“นอกจากจะสนับสนุนการจัดงานไมซ์ภายในจังหวัดให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่แล้ว ที่สำคัญคือเราอยากจะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบ เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อไปในระยะยาว”

ทั้งนี้ โครงการ “จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ในวันที่ 2 กันยายน 2563 โดย ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานของงานและกล่าวปาฐกถาในงาน นอกเหนือจากภายในงานจะมีการประกาศไมซ์ซิตี้ใหม่จังหวัดนครราชสีมาและสงขลาอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีกิจกรรมสำคัญทั้งด้านความรู้ ประสบการณ์ และเปิดตลาดซื้อขายงานไมซ์ในราคาพิเศษ โดยผู้ประกอบการจำนวนมากจากทั้งสถานจัดประชุม สายการบิน โรงแรม มาเสนอบริการไมซ์แก่ผู้สนใจภายในรอยัล พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ด้าน จังหวัดนครราชสีมา กำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็นไมซ์ซิตี้ตามอัตลักษณ์เมืองให้เป็น “เมืองไมซ์มรดกโลกศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” โดยอิงกับจุดเด่นของจังหวัด 5 ด้านคือ การเป็นศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปสินค้าทางการเกษตรของประเทศ, การมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย, การมีแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นจำนวนมาก, การเป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งชอปปิ้งของภูมิภาค และการมีวัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถานที่เป็นเอกลักษณ์

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ทุกมิติ ทั้งด้านการคมนาคมที่เข้าถึงสถานที่จัดงาน การประชุม งานแสดงสินค้า บุคลากรคุณภาพ มีอัตลักษณ์วัฒนธรรมโดดเด่น ผสมผสานกับกิจกรรมอีเวนต์ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว และเสน่ห์อีกอย่างของจังหวัด คือความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สุดของภาคอีสาน มรดกโลกในพื้นที่เขาใหญ่ พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช และอุทธยานธรณีโคราช ทั้งหมดนี้จะสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่แตกต่างแก่ผู้มาเยือนโคราชไมซ์ซิตี้อย่างแน่นอน

ส่วน จังหวัดสงขลา กำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็นไมซ์ซิตี้ตามอัตลักษณ์เมือง คือ “เมืองไมซ์พหุวัฒนธรรมที่จะสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจ จากการค้าชายแดน การบริการ และการลงทุนสำหรับภาคใต้” ด้วยจุดเด่น 5 ด้าน คือ ความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมระหว่างชาวไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม, ความเป็นศูนย์กลางราชการของภาคใต้, ความเป็นศูนย์กลางธุรกิจ, ศูนย์กลางการค้าและช้อปปิ้ง และศูนย์รวมสถาบันการศึกษาของภาคใต้

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขอบคุณในความร่วมมือ จากภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคการศึกษามหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ที่ร่วมผลักดันให้จังหวัดสงขลาได้รับเลือกเป็นไมซ์ซิตี้เมืองแห่งอุตสาหกรรมไมซ์อีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย โดยจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน การบริการ และคมนาคมที่สำคัญของภาคใต้ตอนล่าง อีกทั้งเป็นประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน และได้รับการขนานนามให้เป็น “ศูนย์กลางการค้าชายแดนใต้ และความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม” นับจากนี้ สงขลาจะเป็นเมืองศูนย์กลางการจัดประชุม นิทรรศการ งานอีเวนต์ การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้า ด้วยความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกของเมือง รวมไปถึงศักยภาพของสถานที่จัดงาน เช่น ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ภายในโรงแรม ซึ่งทางจังหวัดเองมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นจุดหมายปลายของการจัดงานไมซ์ที่สามารถรองรับการจัดงานได้ตั้งแต่ระดับภูมิภาค ประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติต่อไป

“ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน” รวมคอลลาเจน3 สายพันธุ์จากญี่ปุ่นและวิตามินซีสูง

alivesonline.com : “ชาเม่” ผู้นำอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม เปิดตัว“ ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจนนวัตกรรม “คอลลาเจนเพียว” ในรูปแบบซอง เข้าตลาดอาหารเสริม ทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการดูแล กระดูก ข้อต่อ เล็บ ผม และผิว เผยคัดสรรคอลลาเจนคุณภาพสูง 3 สายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น คอลลาเจนเปปไทด์ ไทป์ทูที่สกัดจากอกไก่, คอลลาเจนไดเปปไทด์ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์ สะดวกด้วยรูปแบบซอง มั่นใจจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี พร้อมทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ

นางสาวนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชาร์มมิ่งเวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ “ชาเม่” เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก Euromonitor International ระบุว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มความงามในเมืองไทย ในปี 2563 มีมูลค่าตลาดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละประมาณ 5-6 % ส่วนแนวโน้มของตลาดอาหารเสริมในครึ่งปีหลัง 2563 ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในตลาดอาหารเสริมสุขภาพและความงามยังมีกลุ่มของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี ดังจะเห็นได้จากจากยอดขายของบริษัทฯ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้วในช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ โดยเฉพาะในกลุ่มของตัวแทนจำหน่าย ออนไลน์ และ โมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน” (CHAME’ KrystalCollagen) ซึ่งเป็นนวัตกรรม “คอลลาเจนเพียว” ในรูปแบบซอง เข้าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือชายและหญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ต้องการดูแลตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง และดูแลคนในครอบครัวให้มีอายุยืน ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน” จึงเหมาะกับผู้ต้องการบำรุงกระดูก ข้อต่อ ผม เล็บ และผิว เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อ ซึ่งต้องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย

“ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน” มีจุดเด่นที่แตกต่างที่ผสานคอลลาเจน 3 สายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น คอลลาเจนเปปไทด์ ไทป์ทูที่สกัดจากอกไก่, คอลลาเจนไดเปปไทด์ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลาน้ำจืด ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิก มีโปรตีน จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบ 20 ชนิด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้รวดเร็ว   เข้าทำงานได้อย่างตรงจุดโดยไปกระตุ้นเซลล์กระดูก และข้อต่อ

นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิดในร่างกายตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ ทั้ง กระดูก ข้อต่อ ผม เล็บ และผิวมีวิตามินซี สูง ช่วยสร้างภูมิต้านทานไม่มีไขมัน ไม่เติมน้ำตาล ไม่แต่งสีไม่แต่งรสไม่ใส่วัตถุกันเสียไม่มีกลิ่นคาวปลาที่สำคัญผู้ที่แพ้อาหารทะเลก็สามารถรับประทานได้ จึงเหมาะกับทุกคนรับประทานวันละ1-2 ซอง โดย 1 ซองผสมน้ำ ดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น น้ำเปล่า ชา นม กาแฟ น้ำผลไม้ทุกชนิด หรือนำไปผสมอาหารได้ เช่น ซุป น้ำสลัด โดยไม่ทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลง

บริษัทฯ ใช้งบการตลาดโฆษณาและประชาสัมพันธ์โดยเน้นการสื่อสารทุกช่องทางผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมทั้งสื่อนอกบ้าน สื่อร้านค้า เป็นต้น โดยการตลาดจะมุ่งเน้นเชิงสร้างสรรค์และสร้างการรับรู้ ของกลุ่มเป้าหมาย ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องแบบ 360 องศาทั้ง Above The Line และ Below The Line พร้อมทั้งร่วมรายการTalk Show ต่าง ๆ พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การแจก Sampling ผ่านการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้น มองหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องพร้อมกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง โดยบริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผลิตภัณฑ์ “ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน”

สำหรับท่านที่สนใจ “ชาเม่ คริสตัล คอลลาเจน” วางจำหน่ายด้วยกัน 2 แบบคือ 1.แบบกระป๋อง บรรจุ 30 ซอง โดยมีปริมาณคอลลาเจนเข้มข้นรวม 1.5 แสนมิลลิกรัม ราคาปกติกระป๋องละ 890 บาทวางจำหน่ายแล้วในทุกช่องทางจำหน่าย ประกอบด้วย Modern Trade, Traditional Trade, TV Shopping (On Air Channel), e-Commerce (Online Channel) และตัวแทนจำหน่าย “ชาเม่” ทั่วประเทศ 2.แบบกล่อง บรรจุ 6 ซอง โดยมีปริมาณคอลลาเจนรวม 3 หมื่นมิลลิกรัม ราคาปกติกล่องละ 210 บาท (ซองละ 35 บาท) จำหน่ายปลีกเป็นซองเดี่ยววางจำหน่ายแล้วทาง Modern Trade กลุ่มร้านค้า Convenience Store ได้แก่ ร้าน CJ Express, TOPS Daily และ ร้าน eXTA ใน 7-Eleven ทุกสาขา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.chamethailand.com ,Facebook : CHAMETHAILAND Line AD : @CHAMETHAILANDOFFICIAL, Instagram : CHAMETHAILANDOFFICIAL, Twitter : CHAMETHAILANDOFFICIALและตัวแทนจำหน่าย “ชาเม่” ทั่วประเทศ

3M ขยายความร่วมมือ ‘ช้อปปี้’ ในมหกรรม Shopee 9.9 Super Shopping Day

alivesonline.com : หลังจากได้ผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากผู้ใช้งานออนไลน์ในช่วงครึ่งปีแรก 3M Official Store ร้านค้าออนไลน์ 3 เอ็มอย่างเป็นทางการ สานต่อความสำเร็จกับ “ช้อปปี้” ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ส่งผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดคุณภาพชั้นนำเข้าร่วมมหกรรมการชอปปิงสุดยิ่งใหญ่ Shopee 9.9 Super Shopping Day มอบโปรโมชันสุดคุ้ม ด้วยส่วนลดสูงสุด 70% พร้อมแจกโค้ดส่วนลดสูงสุด 20% ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม – 9 กันยายน 2563

นายสุธี ตั้งวงศ์กิจ Senior Country Business Leader บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผู้คนต่างหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยและความสะอาดภายในบ้านกันอย่างเคร่งครัด 3M ได้ร่วมมือกับ “ช้อปปี้” เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าทำความสะอาดชั้นนำจาก 3M ได้อย่างสะดวกสบายซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากดังจะเห็นได้จากยอดการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของยอดการเข้าชมร้านค้าและยอดคำสั่งซื้อ ในโอกาสนี้ 3M จึงสานต่อความสำเร็จกับ “ช้อปปี้” อีกครั้ง ในแคมเปญ “Shopee 9.9 Super Shopping Day” เพื่อมอบโปรโมชันส่วนลดสูงสุด 70% พร้อมโค้ดส่วนลดสูงสุดอีก 20% ให้แก่เหล่านักชอป ซึ่ง 3M เชื่อว่าความร่วมมือกับ “ช้อปปี้” ในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ 3M บนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นการเตรียมความพร้อมให้แบรนด์สามารถรองรับกับพฤติกรรมนิวนอร์มอลของผู้บริโภคที่หันมาเติมเต็มความต้องการในชีวิตประจำวันบนโลกออนไลน์มากขึ้น”

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม – 9 กันยายน 2563 นักชอปจะได้พบกับโปรโมชันและกิจกรรมทางการตลาดสุดพิเศษจาก 3M โดยมีไฮไลต์อยู่ที่

  • โปรโมชั่นในพิเศษใน 3M Brand of the Day : ในวันที่ 24 กันยายน 2563 เตรียมพบกับ 3M Brand of the Day ที่นักชอปจะได้พบกับกองทัพสินค้าทุกหมวดหมู่ความต้องการ มาเสิร์ฟให้ถึงที่กับโปรโมชันสุดพิเศษ อาทิ สินค้าลดแรงสูงสุด 2 หมื่นบาท พร้อมแจกโค้ด Shopee Coins คืนสูงสุด 50% และโค้ดส่วนลดเพิ่มสูงสุด 500 บาท
  • ดีลเด็ด ของแถมเพียบกับสินค้ายอดนิยม : ร่วมชอปกับสินค้ายอดนิยมที่มาพร้อมกับราคาสุดโดน ลดสูงสุด 70% และแจกโค้ดส่วนลด 20% พร้อมชอปสนุกรับของแถมฟรีอีกเพียบ อาทิ เมื่อซื้อถังปั่นพร้อมชุดไม้ถูพื้นจาก Scotch Brite ในราคาพิเศษเพียง 890 บาท รับฟรี น้ำยาล้างจาน 4 ถุง
  • กิจกรรมความบันเทิงสุดพิเศษจาก 3M และ ช้อปปี้ : ในวันที่ 9 กันยายน 2563 เตรียมพบกับความสนุกในรูปแบบนิวนอร์มอลกับประสบการณ์การชอปปิงแบบอินเตอร์แอคทีฟบน Shopee Live ที่ 3M ได้เตรียมสินค้าเด็ดราคาดีมามอบให้ชอปกันแบบเรียลไทม์ พร้อมแจกโค้ดส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 199 บาท

ไม่เพียงเท่านี้ นักชอปยังสามารถเพิ่มความคุ้มค่าด้วยโปรโมชันและโค้ดส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม อาทิ โค้ดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ โค้ดส่วนลดสูงสุด 90% จาก AirPay และอื่น ๆ อีกมากมาย

ร่วมชอปสินค้าจาก 3M ในช่วง Shopee 9.9 Super Shopping Day พร้อมกดติดตามร้านค้า 3M Official Store บน Shopee เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและโปรโมชันล่าสุด ได้ที่ https://shopee.co.th/3m_officialonlinestore

เปิดมหกรรมสินค้าไอที “COMMART THAILAND ครั้งที่ 54”

alivesonline.com : นายมนู เลียวไพโรจน์ (กลาง), ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายมินทร์ อิงค์ธเนศ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “COMMART THAILAND ครั้งที่ 54” ภายใต้แนวคิด “Technology for New Normal” โดยมีผู้บริหารแบรนด์สินค้าและผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีพันธมิตร ประกอบด้วย นายเกษม ศรีเลิศชัยพานิช (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน), นางสาวอรภัทร รังษีวงศ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจ เทคโนโลยีและปฏิบัติการ บริษัท ข้อมูลเครดิตบูโร จำกัด นายสหศักดิ์ เตชะธรรมจิต (ที่ 3 จากขวา) Deputy Sales Director บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์บิสซิเนสกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด นางสาววิสาข์ ธนวิภาคย์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการแผนกสื่อสารการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด  และนายบุญชัย อาศิรวาทวณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอบิส พลัส เน็ทเวอร์ค จำกัด (ขวาสุด) ร่วมงานหวังช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมไอทีให้เติบโตต่อไป

“สหพัฒน์” เปิดโครงการ “สหพัฒน์แอดมิชชั่น” ครั้งที่ 23

alivesonline.com : นางชัยลดา ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทสหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) และ นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นางสาวนฤมล ชวเลขยางกูร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ฟร็อกดิจิตอล กรุ๊ป จำกัด เปิดโครงการ “สหพัฒน์แอดมิชชั่น” ครั้งที่ 23 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการติวฟรีรูปแบบใหม่ “Live Streaming Class ติวฟรีแบบใหม่ อยู่ไหนก็ติวได้” ผ่านระบบ Interactive Video Platform บนเว็บไซต์ Sahapat Admission ณ ลานอเนกประสงค์ เนชั่นทีวี เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเข้มข้นไปพร้อมกัน

“ถิรไทย” มอบครุภัณฑ์ ม.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส

alivesonline.com : นายอัมพรทัต พูลเจริญ กรรมการบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) มอบครุภัณฑ์ทางการศึกษา เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน ติดตั้งในห้องปฏิบัติการเรียนไฟฟ้าแรงสูง ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและใกล้เคียงที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนับถือศาสนาอิสลาม ได้มีโอกาสเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษามากขึ้น ครุภัณฑ์ที่มอบมีดังนี้ Testing Transformer 10 kVA 1 phase 100 kV, Sphere Gap, Isolating Transformer 2kVA และ Model หม้อแปลงแสดงโครงสร้างภายใน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อารัญ วรรณอานนท์ รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ รับมอบ พร้อมเยี่ยมชมการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง ขนาด 333.33 MVA ระดับแรงดัน 525 kV ณ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู เมื่อเร็ว ๆ นี้