แคมเปญพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต “เซ็นทรัล เดอะ วัน” ชม Star Wars : The Rise of Skywalker ก่อนใคร

บัตรเครดิต “เซ็นทรัล เดอะวัน” นำโดย ‘อธิศ รุจิรวัฒน์’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ ‘สุภอร รัตนมงคลมาศ’ เฮด ออฟ สตูดิโอ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดแคมเปญ “Save The Galaxy” กับภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์” (Star Wars: The Rise of Skywalker) มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิต “เซ็นทรัล เดอะ วัน” รับบัตรชมภาพยนตร์ก่อนใครในวันที่ 19 ธันวาคม 2562 โดยสมาชิกสามารถกดรับสิทธิ e-coupon ผ่านแอป UCHOOSE มากกว่า 500 ที่นั่ง ตามเงื่อนไขที่กำหนด และชวนเป็นเจ้าของถุงผ้าลดโลกร้อน STAR WARS Limited Edition เมื่อใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรเครดิต “เซ็นทรัล เดอะ วัน” ครบ 10,000 บาทขึ้นไป ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, และร้านค้าในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ปที่ร่วมรายการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 (จำกัด 1 สิทธิ์ต่อหมายเลขบัญชีบัตรหลัก ของมีจำนวนจำกัด 10,000 ชิ้นตลอดรายการ) ข้อมูลเพิ่มเติม     https://www.centralthe1card.com/th/save-the-galaxy.html

12:12 HomePro Mega Deals ที่สุดแห่งโปรเด็ด สินค้าโดน

 

“โฮมโปร” ชวนชอปกระหน่ำส่งท้ายปีกับเทศกาล 12:12 HomePro Mega Deals รวมที่สุดแห่งโปรโมชั่นเด็ด-สินค้าราคาโดนเพื่อคนรักบ้าน ยกขบวนชวนชอปไม่ยั้งทั้ง Online และ “โฮมโปร” ทุกสาขา พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมาย จัดเต็มความพิเศษให้คุณได้มากกว่าใคร ตลอด 4 วันเต็ม ๆ เริ่ม 12 ธันวาคม 2562

12:12 Online – Mega Deals ชอปสินค้ากับโฮมโปรผ่านเว็บไซต์ www.homepro.co.th รับสิทธิพิเศษสองต่อ ต่อ 1 จัดเต็มสินค้าเรื่องบ้านแบรนด์ดัง ลดสูงสุด 30% ต่อ 2 เอ็กซ์คลูซีฟเซอร์วิส สำหรับ ลูกค้าบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ชอปครบ 15,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 65,000 บาท ส่วน ลูกค้าบัตร KTC ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% บวกรับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 12 เท่า พร้อมรับความพิเศษแจกจัดหนัก และเมื่อใช้บริการ Click & Collect รับสินค้าที่สาขา รับคูปองส่วนลด 100 บาท เมื่อชอปครบ 500 บาทขึ้นไปที่สโตร์ทุกสาขาทั่วประเทศ

12:12 Offline – Mega Deals ชอปสินค้าที่สโตร์ “โฮมโปร” ทุกสาขาทั่วประเทศ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30% ฉลองความสุขทุกสาขา สินค้าเรื่องบ้านแบรนด์ดัง ลดทันที 12% บวกรับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 18% เมื่อใช้คะแนนสะสมในบัตรโฮมการ์ดเท่ายอดซื้อ และเมื่อชอปครบ 10,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,200 บาท เฉพาะสินค้าร่วมรายการ อาทิ สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และใหญ่ สินค้ากลุ่มปรับปรุงบ้าน เครื่องครัว เป็นต้น พร้อมเอาใจ สมาชิกบัตรโฮมการ์ด ชอปช่วงเทศกาล รับฟรีคูปองท้ายใบเสร็จมูลค่า120 บาท เพื่อใช้ซื้อสินค้าในรอบบิลถัดไป

ชอปสนุกสุขกว่าใคร สำหรับ ลูกค้าบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ชอปครบ 15,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 65,000 บาท และ ลูกค้าบัตร KTC ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อลดเพิ่ม 15% และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนกับ LINE@ HomePro Connect รับทันทีคูปองส่วนลด 230 บาท เมื่อชอปสินค้าตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปที่ “โฮมโปร” ทุกสาขาทั่วประเทศ จำกัดสิทธิ์เพียง 5,000 สิทธิ์ เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 11-12 ธันวาคม 2562 เท่านั้น

พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ชอปผ่านช่องทางออนไลน์และที่สโตร์ทุกสาขาตามวันที่ร่วมรายการ รับส่วนลดเพิ่ม On Top 12% ทันที เมื่อชอปสินค้าที่ร่วมรายการ อาทิ ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือช่าง สุขภัณฑ์ แบรนด์ดัง Carini , Furdini , HLS , Moya , TARA, PLIM , Spring และแบรนด์ชั้นนำ Samsung , Garmin , LG , SHARP , Panasonic , Stiebel Eltron  และอีกมากมาย

ร่วมฉลองความสุขสุดคุ้มกับเทศกาล 12:12 HomePro Mega Deals ได้ตั้งแต่วันที่ 12-15 ธันวาคม 2562 ผ่านชอปออนไลน์ www.homepro.co.th และที่ “โฮมโปร” ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1284

 

“อลงกรณ์” แจงยิบแก้ 8 ประเด็นปัญหาประมงไทย

alivesonline.com : “อลงกรณ์ พลบุตร” ย้ำแก้ปัญหาประมงไทยตามข้อเรียกร้องของสมาคมประมงคืบหน้าหลายด้าน โดยเฉพาะ 3 โครงการเร่งด่วน “สินเชื่อ-เรือออกนอกระบบ-แรงงานขาดแคลน” เตรียมประชุมร่วมสมาคมประมงและทุกหน่วยงาน 12 ธ.ค.62 เชื่อจบปัญหาก่อนสิ้นปี

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของชาวประมง 22 จังหวัดที่ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเป็นวาระเร่งด่วน โดยเฉพาะ 3 เรื่องใหญ่คือ โครงการสินเชื่อแก้ไขปัญหาขาดสภาพคล่องและโครงการนำเรือออกนอกระบบวงเงินเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ส่งถึงคณะรัฐมนตรีแล้ว รวมทั้งการแก้ไขปัญหาแรงงานประมงขาดแคลน ยังคงรอ คณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานประชุมเห็นชอบภายในเดือน ธ.ค.ศกนี้

ตลอดเวลาที่ผ่านมารั ฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ ที่ปรึกษารัฐมนตรี และ กรมประมง จัดประชุมร่วมกับ สมาคมการประมงทุกประเภททุกจังหวัด รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือน ส.ค. จนถึงเดือน พ.ย. เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาชาวประมงอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้กการแก้ไขปัญหามีความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญภายใต้กลไกคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย ร่วมกับคณะอนุกรรมการ 5 คณะ ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพื้นบ้าน คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพาณิชย์และการประมงนอกน่านน้ำไทย คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงการเพาะเลี้ยง คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพผลิตผลผละผลิตภัณฑ์และการพาณิชย์ และคณะอนุกรรมการยก ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งกองทุนพัฒนาการประมง และ ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งสภาการประมงแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563

นอกจากนี้ กรมประมง ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขกฎหมายประมงประกอบไปด้วยตัวแทนสมาคมประมงทุกประเภทและหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาการประมงของไทยทั้งระบบแบบครบวงจร รวมทั้งยังประสานการทำงานกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ของสภาผู้แทนราษฎรอย่างใกล้ชิด

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ทุกฝ่ายต่างทุ่มเทความพยายามทำงานแทบไม่มีวันหยุดเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงของเราให้ลุล่วงเร็วที่สุดภายใต้อำนาจทางการบริหารของรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แต่เรื่องการแก้ไขปัญหากฎหมายไม่สามารถทำได้เร็วนัก เพราะต้องผ่านขั้นตอนรัฐบาลและรัฐสภา ทั้งยังต้องอยู่คำนึงถึงกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น IUU สำหรับข้อเรียกร้องที่เกี่ยวกับ กระทรวงแรงงาน กรณีปัญหาการจ่ายเงินเดือนลูกเรือประมงผ่านเอทีเอ็ม.และ กระทรวงการคลัง กรณี Fleet Card กรมประมง จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานดังกล่าวต่อไป ส่วนข้อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการเยียวยาผลกระทบจากกฎหมายประมงตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันนั้น จะขอความชัดเจนจากสมาคมประมงในที่ประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทยในวันที่ 12 ธ.ค.ศกนี้ ที่ กรมประมง เห็นว่าควรเป็นคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดย นายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง รวมทั้งพิจารณาข้อเรียกร้องต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ยังชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้องของสมาคมประมงที่เกี่ยวข้องกับกรมประมงจำนวน 8 ข้อ ดังนี้

1.ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุดออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมงมาเพิ่มเติมขึ้นอีก (ยกเว้นการออกกฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งที่ผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง)

คำชี้แจง : ปัจจุบันไม่ได้มีการออกกฎหมายที่สร้างภาระแก่ชาวประมงเพิ่มเติม มีแต่การออกกฎกระทรวงที่ส่งเสริมต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง

2.ขอให้มีการเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร่งด่วนในช่วงที่มีการประชุมสภานิติบัญญัตินี้

คำชี้แจง : ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรังปรุงแก้ไขกฎหมายประมงของคณะทำงานร่วมทุกภาคส่วนของ กรมประมง ประกอบด้วย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพื้นบ้าน จำนวน 3 มาตรา และข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพาณิชย์ จำนวน 15 มาตรา ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายต่อต้านไอยูยู (IUU Fishing Combating Policy) และนโยบายของรัฐบาลซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี และกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา

3.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการการซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว โดยขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ 2563 ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบ

คำชี้แจง : 1.) กรมประมง ได้เร่งรัดดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการดำเนินการโครงการการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน ระยะที่ 1 จำนวน 305 ลำ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ปี โดยปีงบประมาณ 2562 นำเรือออกนอกระบบจำนวน 252 ลำ งบประมาณ 469,603,900 บาท 2.) กรมประมง ได้จัดทำโครงการการนำเรือประมงออกนอกระบบ ระยะที่ 2 โดยนำเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐและหรือมีความประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง จำนวน 2,768 ลำ งบประมาณ 7,143,847,900 บาท ขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว

4.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562

คำชี้แจง : กรมประมงจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องประมงพื้นบ้านประมงพาณิชย์และประมงนอกน่านน้ำ วงเงินสินเชื่อรวม 10,300 ล้านบาท โดยขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว

5.ขอให้ กรมประมง กรมจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการอนุญาตให้ใช้กฎหมาย มาตรา 83 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562

คำชี้แจง : กรมประมง มีมติให้ใช้มาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคประมง โดยเสนอต่อกระทรวงแรงงานในเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ต่อมา กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อเดือน พ.ย.62 และให้ กรมประมง ประชุมขอความเห็นชอบจากหน่วยงานกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานทางด้านความมั่นคง (กองทัพเรือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ)และได้ยืนยันผลการประชุมส่งถึงกระทรวงแรงงานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือน ธ.ค.ศกนี้

6.เรือประมงที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอส ไม่ควรมีนโยบายให้ติด VMS เช่น การชักชวนให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ทดลองติด VMS ฟรี

คำชี้แจง : กรมประมง ยังไม่มีนโยบายในการติดตั้งหรือทดลองใช้แต่อย่างใด ส่วนเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปได้ออกกฎกระทรวงผ่อนปรน 4 กรณีตามที่สมาคมประมงเสนอก่อนหน้านี้แล้ว

7.ขอให้หยุดการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที ด้วยเหตุผลไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนด พ.ศ.2558 มาตรา 92 ซึ่งการนำเข้าสัตว์น้ำจะต้องมีการตรวจสอบว่าสัตว์น้ำเหล่านั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามมาตรา 92 วรรคสองและวรรคสาม สินค้าประมงจากต่างประเทศจึงเข้ามาถล่มตลาดสินค้าสัตว์น้ำของชาวประมงที่ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้ต้นทุนสูงกว่า ราคาจึงตกต่ำ เพราะมีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแบบเสรี ไร้การควบคุม มาสต็อกไว้เต็มห้องเย็นไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องแก้ไขระเบียบกรมประมงเดิมที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดาสามารถนำเข้าสัตว์น้ำได้เสรี มีมาตรการปกป้องสินค้าสัตว์น้ำภายในประเทศ

คำชี้แจง : การห้ามนำเข้าสัตว์น้ำเข้ามาในประเทศไม่สามารถกระทำได้ เพราะประเทศไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และ FTA ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี โดย กรมประมง ได้สั่งการด่านตรวจสัตว์น้ำทั่วประเทศ จำนวน 27 แห่งทำการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้ถูกต้องตามใบอนุญาตและตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดเพื่อดูแลผลประโยชน์ของชาวประมงและราคาสัตว์น้ำในประเทศทั้งนี้ต้องไม่เข้าข่ายการกีดกันทางการค้าจนอาจถูกร้องเรียนหรือตอบโต้ทางการค้า จากมาตรการการตรวจตราและความเข้มงวดในการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศทำให้มีบางจังหวัดที่เป็นด่านนำเข้าสัตว์น้ำถึงกับมีหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้กรมประมงผ่อนปรน

8.ขอให้พิจารณาเพิ่มวันทำการประมงให้พี่น้องชาวประมงทั้งประเทศโดยเร่งด่วน เพราะทำให้เกิดปัญหาการประกอบอาชีพขาดทุนมา 4-5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดให้ทำการประมงได้ไม่ทั้งปี แต่ต้องมีรายจ่ายค่าแรงงานตลอดทั้งปี

คำชี้แจง : ในปีการประมง 2562 มีเรือประมงบางส่วนที่ได้รับการจัดสรรปริมาณสัตว์น้ำไว้แล้ว แต่ไม่ได้ออกทำการประมง ทำให้มีปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือที่ไม่ได้จับขึ้นมาใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจนำสัตว์น้ำกลุ่มนี้มาจัดสรรเพื่อเพิ่มจำนวนวันทำการประมงได้ ขณะนี้ กรมประมง กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือ เพื่อนำมาจัดสรรเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือประมงในปีการประมง 2562

นายอลงกรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ตนเข้าใจถึงความเดือนร้อนที่ชาวประมงประสบมา 4 ปี แต่เพียง4เดือนที่รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ปัญหาจะให้ลุล่วงสำเร็จทั้งหมดคงไม่ได้ 100% จึงขอให้ร่วมกันทำงานต่อไปอย่างจริงจังและจริงใจ เชื่อว่าอีกไม่นานปัญหาจะลดลงและหมดไปในที่สุด

[ชมคลิป] “เด่นหล้า” จัดระบบนานาชาติ DLPS ระดับประถมฯ

alivesonline.com : อนุบาลเด่นหล้า เปิดหลักสูตรใหม่ DLPS ฝ่ายประถม 3 ภาษา หลักสูตร English Programme (EP) มาตรฐานเทียบเท่าโรงเรียนนานาชาติ ตอบรับกระแสความต้องการผู้ปกครองย่านฝั่งธนฯ – นนทบุรี เน้นบูรณาการสอนแบบ STEM เตรียมรับนักเรียน ป.1 – ป.4 ในปีการศึกษา 2563 ก่อนขยายระดับชั้น ป.5 – ป.6 ในปีการศึกษา 2565 เบื้องต้นกำหนดรับนักเรียนรุ่นละ 75-100 คน

ดร.เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหาร โรงเรียนเด่นหล้า ฝ่ายประถม 3 ภาษา (Denla Primary School : DLPS) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เครือเด่นหล้าบริหารโรงเรียนระดับอนุบาลแห่งแรก ย่าน ถ.เพชรเกษม เป็นเวลากว่า 40 ปี จนกระทั่งปี 2549 จึงได้เปิด โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ถ.นครอินทร์ จ.นนทบุรี ก่อนที่จะเปิด โรงเรียนนานาชาติ Denla British School ถ.ราชพฤกษ์ ในปี 2557 เพื่อยกระดับคุณภาพเด็กนักเรียนไทยให้มีความแข็งแกร่งทางการศึกษาซึ่งปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมามีนักเรียนจากเครือเด่นหล้าสามารถสอบเข้าเรียนต่อยังโรงเรียนประถมศึกษาระดับต้น ๆ ของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละปีมีนักเรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ประมาณ 600-700 คน คิดเป็นภาพรวมประมาณ 3 หมื่นคน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงเรียนเด่นหล้า มีการพัฒนาระบบการเรียนการสอนและหลักสูตรให้มีความเหมาะสมกับเด็กไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจึงเปิดตัว โรงเรียนเด่นหล้า ประถม 3 ภาษา (Denla Primary School : DLPS) หลักสูตร English Programme (EP) ตามมาตรฐานหลักสูตรแกนกลางของประเทศไทย โดยมีมาตรฐานเทียบเท่าโรงเรียนนานาชาติ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเด็กให้มีความเป็นเลิศในทุกด้าน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Excellent For All” โดยมีจุดเด่น 3 ประการ ได้แก่ 1.คณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ 2.หลักสูตร English Programme แบบไฮบริดดึงความเป็นเลิศที่สุดของหลักสูตรต่างประเทศคือสหรัฐอเมริกาและอังกฤษมารวมกัน 3.เน้นความแข็งแกร่งด้าน AI บูรณาการการสอนแบบ STEM และมุ่งสร้างเสริมทักษะที่จำเป็นในอนาคต (21st Century Skills)

พร้อมรับนักเรียนรุ่นแรก ปีการศึกษา 2563

โรงเรียนเด่นหล้า ประถม 3 ภาษา หรือ DLPS จัดตั้งขึ้นภายในบริเวณโรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 เบื้องต้นจะเริ่มเปิดรับนักเรียนระดับชั้น ป.1 – ป.4 ในปีการศึกษา 2563 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะรับสมัครนักเรียนแต่ละรุ่นประมาณ 3-4 ห้อง คิดเป็นจำนวนนักเรียน 25 คนต่อห้อง หรือรุ่นละประมาณ 75-100 คน จากนั้นจึงจะขยายรับสมัครนักเรียนระดับชั้น ป.5 – ป.6 ในปีการศึกษา 2565 โดยในส่วนของค่าเล่าเรียน กำหนดเป็นระดับชั้น ป.1 – ป.2 ราคาเทอมละ 1.79 แสนบาท ระดับชั้น ป.3 – ป.4 ราคาเทอมละ 1.85 แสนบาท และระดับชั้น ป.5 – ป.6 ราคาเทอมละ 1.9 แสนบาท

“ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสความต้องการของผู้ปกครองเป็นจำนวนมากที่ต้องการให้โรงเรียนจัดทำหลักสูตรนานาชาติระดับประถมศึกษา เนื่องจากในย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ตะวันตก และจังหวัดนนทบุรี ยังมีโรงเรียนนานาชาติระดับประถมศึกษาให้เป็นทางเลือกไม่มากนัก หรือมีเพียงประมาณ 10 แห่งเท่านั้น โรงเรียนจึงใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 ปีในการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรดังกล่าวให้มีรูปแบบที่เหมาะสมกับเด็กไทยซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องการให้มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ กล้าแสดงออก แต่ยังคงมีความเป็นไทย โดยคาดว่าเมื่อ DLPS เปิดรับสมัครนักเรียนอย่างเป็นทางการแล้วจะมีนักเรียนของโรงเรียนเด่นหล้าเข้าศึกษาต่อประมาณ 60-70% ส่วนอีก 30% เป็นนักเรียนใหม่”

บูรณาการสอนแบบ STEM พร้อม Essential Skills

ดร.เต็มยศ กล่าวด้วยว่า หลักสูตรของ DLPS ได้มีการจัดเตรียมวิชา AI and Innovation เพื่อนักเรียนได้เรียนรู้พื้นฐานการ Coding และ Programming ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และมีแต่จะพัฒนามากขึ้นทุกวัน ดังนั้น การเรียนการสอนของ DLPS จึงจะใช้การบูรณาการวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรม (Engineering) และคณิตศาสตร์(Mathematics) หรือ STEM ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมนักเรียนตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อให้มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว

นอกจากนั้น ยังจะมุ่งเน้นการสร้างพัฒนาการด้านสังคม อารมณ์ และจิตใจ โดยมีการจัดเตรียมวิชา Essential Skills ซึ่งประกอบด้วย การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) การทำงานร่วมกับผู้อื่นและความเป็นผู้นำ (Collaboration and Leading by Influence) การปรับตัวและความคล่องแคล่วว่องไว (Agility and Adaptability) ความคิดริเริ่มและการเป็นผู้ประกอบการ (Initiative and Entrepreneurialism) การสื่อสารด้วยการพูดและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ (Good Oral and Written Communication) การเข้าถึงข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล (Accessing and Analyzing Information) และความใฝ่รู้และจินตนาการ (Curiosity and Imagination)

เสริมบุคลากรครูต่างชาติเจ้าของภาษาปั้นเด็กแสดงศักยภาพเฉพาะตัว

ทางด้าน ผศ.ดร.ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหาร โรงเรียนเด่นหล้า ฝ่ายประถม (หลักสูตรภาษาอังกฤษ) กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเหตุที่การพัฒนาต่อยอดความรู้แทบจะทุกแขนงวิชาล้วนเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น DLPS จึงให้ความสำคัญในเรื่องของภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนทุกวิชาโดยครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษา ยกเว้น 3 วิชาคือภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาจีนซึ่งถือเป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดย DLPS กำหนดให้มีการเรียนภาษาจีนสัปดาห์ละ 3 คาบ

ในส่วนของบุคลากรครู DLPS มีกระบวนการคัดเลือกที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูง นอกเหนือจากการสัมภาษณ์ หรือสาธิตการสอนแล้ว ยังมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจในการทำงานในโรงเรียน โดยครูทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกประมาณ 8-10 คนเพื่อทำหน้าที่ในหลักสูตร DLPS ล้วนจบการศึกษาวิชาเอกในวิชาที่สอน ตลอดจนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยทำให้นักเรียนทุกคนได้รับการประเมินศักยภาพผ่านการทำกิจกรรมและพัฒนาความโดดเด่นเฉพาะตัวผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ปัจจุบันโรงเรียนแต่ละแห่งของประเทศไทยล้วนมีการพัฒนาหลักสูตรและระบบการจัดการเรียนการสอนที่ดี เพียงแต่บางแห่งอาจมีข้อจำกัดบางประการทำให้การจัดรูปแบบ หรือกระบวนการเรียนการสอนไม่เหมาะสมกับนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ให้ความสำคัญในเรื่องวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ซึ่งมีไม่มากนัก จึงทำให้นักเรียนไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ DLPS จึงพยายามลดข้อจำกัดเหล่านั้นเพื่อนำมาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับนักเรียนผ่านการทดลองเรียนรู้และกิจกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากวิชาการ เพื่อให้นักเรียนทุกคนเลือกสิ่งที่ชอบได้อย่างมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและจะสามารถตัดสินใจเลือกอนาคตทางการศึกษาได้อย่างเหมาะสม” ผศ.ดร.ต่อยศ กล่าวในตอนท้าย

แผนที่ฟรีอำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมชมขบวนพยุหยาตราฯ


alivesonline.com : “นอสตร้า แมพ” (
NOSTRA Map) แอปพลิเคชันแผนที่นำทาง โดย บริษัท โกลบเทค จำกัด จัดทำแผนที่พิเศษ อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สนใจในการเดินทางไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชื่นชมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เพียงเปิดกดแอปฯ NOSTRA Map ได้ฟรี เรียลไทม์ 24 ชั่วโมง

นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด เปิดเผยว่า NOSTRA Map ได้จัดทำแผนที่แสดง จุดเฝ้ารับเสด็จ จุดคัดกรอง จุดพื้นที่แก้มลิง จุดบริการ Shuttle bus จุดบริการจุดจอดรถ และเส้นทางปิดถนน ดูง่ายผ่านแอปฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชื่นชมการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 โดยริ้วขบวนจะเริ่มจากท่าวาสุกรีไปยังท่าราชวรดิฐ เป็นระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เพื่อชื่นชมความงดงามของประวัติศาสตร์ของไทยที่มีมายาวนาน

การจัดทำแผนที่ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อม และวางแผนการเดินทางในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 สามารถใช้งานแอปฯ แผนที่ NOSTRA Map ได้ง่ายและสะดวก เพียงเลือกชั้นข้อมูล 2 ส่วน ดังนี้

 “จุดอำนวยความสะดวกงานพระราชพิธีฯ 12 ธันวา”  

หรือกด https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/Royal_Barge_Point โดยรายละเอียดแผนที่อำนวยความสะดวก ประกอบด้วย

1.จุดเฝ้ารับเสด็จ แสดงพื้นที่ 6 จุดที่ประชาชนสามารถร่วมรับเสด็จในการพระราชดำเนินฯ ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

2.จดคัดกรอง รอบบริเวณพื้นที่ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี จำนวน 19 จุด โดยจุดคัดกรองจะเป็นจุดที่ประชาชนจะสามารถเดินทางเข้าสู่พื้นที่บริเวณจัดงานได้

3.จุดพื้นที่แก้มลิง จุดให้บริการประชาชนด้านอาหารเครื่องดื่ม ด้านการแพทย์ และพักรอเพื่อเข้าสู่พื้นที่รับเสด็จต่อไป

4.จุดบริการ Shuttle bus รถ Shuttle bus ให้บริการกับประชาชน จำนวน 9 จุดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าพื้นที่งาน

5.จุดบริการจุดจอดรถ สำหรับประชาชนที่จะเข้าร่วมงานสามารถไปจอดรถตามจุดที่กำหนดไว้ซึ่งสามารถรองรับรถได้ถึง 18,200 คัน

6.แผนที่แสดงการปิดถนน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทาง พร้อมเส้นทางแนะนำสำหรับประชาชน

“แผนที่แสดงข้อมูลการปิดถนน”

หรือกด https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/Royal_Barge_RCPoint เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในส่วนของการจราจรในบริเวณโดยรอบ

ประชาชนที่สนใจแผนที่ดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแผนที่ และใช้งานได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ทั้งบน App Store และ Google Play ที่ https://map.nostramap.com/mobile

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลการเดินทาง การปฏิบัติตน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชื่นชมงานพระราชพิธี โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลอื่น ๆ ดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.phralan.in.th

“parentographer” เพราะพื้นที่บนโซเชียลมีเดียเป็นของคนทุกวัย

“เอพี ไทยแลนด์” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าและผู้นำในการริเริ่มสร้างสรรค์พิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อทุกคนในสังคม สานต่อพันธกิจในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านปรัชญา “JOY แนวคิดในการสร้างความอุ่นใจเพื่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุข” จับมือช่างภาพชื่อดัง “ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์” เจ้าของรางวัลชนะเลิศจากการถ่ายภาพสตรีทระดับนานาชาติ ต่อยอดโปรเจกต์ขับเคลื่อนสังคม (Social Movement Project) “parentographer”

โปรเจกต์ “parentographer” เป็นการจุดประกายให้คนในสังคมหันมาตระหนักถึงระยะห่างของความสัมพันธ์ในครอบครัวในวันที่โลกโซเชียลมีเดียผลักให้รูปแบบชีวิตของคนแต่ละวัยหลุดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ผ่านกิจกรรมถ่ายภาพที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่ดีของคนในบ้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า “แค่เราพยายามเข้าหากัน พื้นที่ไหน ๆ ก็เป็นบ้านได้เสมอ” โดยได้รับความสนใจจากเหล่าเซเลบริตี้คนดังมากมาย อาทิ บอย-ปกรณ์, มัดหมี่-พิมพ์ดาว, และพะเพื่อน-ชุติมณฑน์

วิทการ จันทวิมล’ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ “เอพี ไทยแลนด์” กล่าวว่า โปรเจกต์ parentographer เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลักในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม เป็นอีกความตั้งใจของ “เอพี” ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ ให้สังคมไทย ซึ่งทุกวันนี้กิจกรรมต่าง ๆ ล้วนถูกขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นผ่านโลกโซเชียลจนทำให้หลายคนลืมใส่ใจความสัมพันธ์ของคนรอบ ๆ ตัว ไม่ค่อยได้ไปไหนกับพ่อแม่ ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่อยู่แต่ในโลกออนไลน์ จนพ่อแม่รู้สึกห่างไกลจากโลกของลูก

ในฐานะที่ “เอพี” เป็นผู้ที่สร้างที่อยู่อาศัย จึงต่อยอดการสร้างความสุขที่ควรจะเกิดขึ้นในบ้าน ด้วยความเชื่อที่ว่า “แค่เราพยายามเข้าหากัน พื้นที่ไหน ๆ ก็เป็นบ้านได้เสมอ” แม้แต่พื้นที่บนโซเชียลมีเดียก็สามารถเชื่อมโลกต่างวัยเข้าหากันได้ ผ่านการสร้างโมเมนต์แห่งความทรงจำด้วยภาพที่ถูกถ่ายโดยพ่อแม่ พร้อมเปลี่ยนทุกพื้นที่ให้เป็นบ้านของคนทุกวัย ตอกย้ำปรัชญา “JOY แนวคิดการสร้างความอุ่นใจเพื่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขของทุกคนในครอบครัว” ภายใต้วิสัยทัศน์ AP WORLD ที่มุ่งสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี”

“เอพี เชื่อว่ารูปที่มีความหมายที่สุด คือรูปที่คนที่บ้านถ่ายให้และภาพแต่ละใบเป็นตัวแทนที่ดีในการบันทึกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นร่วมกันในโมเมนต์หนึ่ง ประกอบกับกิจกรรมถ่ายภาพเป็นกิจกรรมที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเจน จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ parentographer อีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญที่เชื่อมโลกทั้ง 2 ใบ ทั้งโลกจริงและโลกออนไลน์ให้เป็นโลกใบเดียวกันได้อย่างลงตัว”

ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์’ ช่างภาพสตรีทไทยผู้สร้างชื่อในระดับโลก กล่าวว่า

“เราพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการถ่ายทอดเทคนิคถ่ายภาพครั้งนี้ว่ามันคือการสร้างความสัมพันธ์และความใกล้ชิดให้เกิดขึ้นระหว่างคนที่ถ่ายและถูกถ่าย โดยเน้นการถ่ายภาพบรรยากาศที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ซึ่งผลลัพธ์จะออกมาสวยหรือไม่สวยนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือคนถ่ายนั้นเป็นใคร หลังจากการจัดเวิร์คชอปในวันนี้ คาดว่าคุณพ่อ คุณแม่ จะนำเคล็ดลับการถ่ายภาพไปใช้ได้จริง และกล้าที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย Happy Moment มากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความสัมพันธ์เกิดเป็นช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัว”

บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์’ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า

“ทุกวันนี้เราให้เวลากับโซเชียลมีเดียมากขึ้นจนเกิดระยะห่างระหว่างมนุษย์ในสังคมจริง โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว การถ่ายภาพถือว่าทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ทุกคนทำได้ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว อีกทั้งยังเป็นไอเดียที่ดีในการพาพ่อ-แม่เข้าไปอยู่ในโลกโซเชียลของเราได้ด้วย โดยปกติแล้วคุณแม่ผมชอบเล่นโซเชียลมีเดีย รูปในอินสตาแกรมบางรูปคุณแม่ก็เป็นคนถ่าย ผมว่าภาพจะสวยหรือไม่นั้นมันไม่สำคัญ แต่โมเมนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างถ่ายภาพนี่แหละที่มีคุณค่ามากที่สุด parentographer ในวันนี้จึงทำให้หลายๆ ครอบครัวที่มาใกล้ชิดกันมากขึ้น สามารถชี้ให้คนในสังคมเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่บนโลกออนไลน์และพื้นที่ของโลกจริง ๆ เป็นที่ที่คนทุกวัยเข้าถึงได้”

คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์’ ตัวแทนคุณแม่รุ่นใหม่ กล่าวว่า

“การรับข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ และการโพสต์ภาพต่าง ๆ ในโซเชียลต้องยอมรับว่ากลายเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว คนสมัยนี้จึงขาดการติดต่อกันแบบ face to face ดังนั้น parentographer จึงเป็นเสมือนตัวช่วยที่ทำให้เรากลับมาใกล้ชิดกับคนรอบตัวเรามากขึ้น ส่วนตัวแม่เองเริ่มเล่นโซเชียลมีเดีย เพราะเห็นลูก  ๆ เล่น จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขาด้วย สิ่งสำคัญที่ปลูกฝังพวกเขาคือความเป็นครอบครัวจะพูดเสมอว่าไปไหนต้องไปด้วยกัน แม้ลูกๆ จะมีสังคมของตัวเอง แต่ก็ต้องไม่ลืมคนที่บ้านด้วย เวลาว่างเราก็จะออกไปทานข้าวและไปเที่ยวด้วยกัน เราทำแบบนี้มาตลอด จนช่วงหลัง ๆ ได้เทคนิคดี ๆ ในการถ่ายภาพให้ลูกมาปรับใช้เยอะมาก ๆ พร้อมยังอัปสกิลเป็นช่างภาพส่วนตัวของลูก ๆ ได้สบาย”

มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย’ นักร้องนักแสดงสาวมากความสามารถ กล่าวว่า

“parentographer ทำให้เรารู้สึกอยากพาคุณพ่อ คุณแม่ออกไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปเล่นด้วยกัน เพราะการถ่ายรูปคือ สิ่งที่คนทุกรุ่นทุกวัยเข้าได้ง่ายที่สุด เมื่อเราได้รูปสวย ๆ ก็อยากจะโพสต์ลงโซเชียล ยิ่งถ้าพ่อแม่สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ให้เราได้ ก็ยิ่งอยากแชร์ให้คนได้รู้ว่าพ่อแม่เราถ่ายรูปเก่ง เรามองว่าการถ่ายรูปลงโซเชียลคือการเชื่อมโยงโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกออนไลน์ได้อย่างลงตัวและยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้างได้อีกด้วย”

คุณแม่อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย’ กล่าวว่า

“ไลฟ์สไตล์ของเด็กรุ่นใหม่คือ เขาจะมีโลกของตัวเอง คุยกันผ่านโซเชียลมีเดีย หรือไม่ค่อยได้เจอหน้ากันทำให้บางครั้งความสัมพันธ์กับพ่อแม่ห่างเหินไป parentographer จึงเป็นความตั้งใจของ เอพี ที่ถือเป็นอีกกระบอกเสียงช่วยให้คนในสังคมหันกลับมาสร้าง Real Relationship ระหว่างคนในครอบครัวกันมากขึ้น นำมาสู่ความใกล้ชิดระหว่างคนสองวัย ส่วนเทคนิคในการดูแลความสัมพันธ์ให้อบอุ่นในสไตล์แม่คือ การแชร์เรื่องราวในแต่ละวันให้กันฟัง พยายามหาเวลาว่างตรงเพื่อออกไปทำกิจกรรมร่วมกัน และเชื่อว่าหลังจากเวิร์คชอปการถ่ายภาพวันนี้เหล่าคุณพ่อคุณแม่จะได้เทคนิค วิธีการหามุมเผลอ ๆ มีสไตล์ ให้ลูก ๆ พร้อมแชร์รูปที่แม่ถ่ายเพื่อทำให้พื้นที่บนโซเชียลเป็นพื้นที่ของทุก ๆ คน”

“ALL” สนับสนุนกิจกรรมเดิน – วิ่ง การกุศล

บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL นำโดย นายดุษฎี เล็กยิ้ม ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานการเงิน ร่วมกิจกรรมเดิน–วิ่ง การกุศล ในโอกาสครบรอบ 36 ปี สมาคมอาคารชุดไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดย ALL ให้การสนับสนุนกิจกรรมเดิน–วิ่ง การกุศล จำนวน 200,000 บาท พร้อมนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดกิจกรรมมอบให้โรงพยาบาลสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

2 โปรโมชันโดนใจ! แทนคำขอบคุณจาก AMOR

AMOR พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและบอกแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้าที่น่ารัก ด้วย 2 โปรโมชันพิเศษต้อนรับปีใหม่ 2020 ให้หวานละมุนโดนใจ พร้อมการกลับมาตามคำเรียกร้องของ New Year’s Cookies ที่หลายคนเฝ้ารอในกล่องของขวัญดีไซน์ใหม่เน้นความสดใสในแบบเรียบหรู ให้คุณส่งต่อความสุขและความห่วงใยได้อย่างมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร! ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มกราคม 2563

เตรียมฟินกันได้เลย! ไม่ว่าคุณจะฉลองปีใหม่กับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน แก๊งค์เพื่อนสนิท หรือฟินเบา ๆ กับคนรัก เพราะปีใหม่นี้ AMOR มี 2 โปรโมชันโดนใจให้คุณบอกแทนความรักและความห่วงใยให้หวานละมุน พร้อมจัดเต็มด้วยวัตถุดิบสดใหม่ หอมกลิ่นเนยถังทองนำเข้าจากนิวซีแลนด์และความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด สื่อถึงความเป็น “Crafted Bakery” ในราคาที่คุณอร่อยกับทุกเมนูของ AMOR ได้ทุกวัน ทั้งยังดีต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะไม่ใช้เนยขาว เนยเทียม สารกันบูด และวัตถุกันเสียทุกชนิด

Promotion I : เติมเต็มช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองด้วย Orange Cake หรือเค้กส้ม Best Seller ที่หลายคนประทับใจในรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นน้ำส้มแท้ที่ลงตัวกับเนื้อเค้กนุ่มละมุนอย่าบอกใคร มีให้เลือกฟินถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น

  • Orange Cake (แต่งหน้าพิเศษ) ขนาด 7 ปอนด์ เพียง 580 บาท (ปกติ 700 บาท)
  • Orange Cake ขนาด 7 ปอนด์ เพียง 540 บาท (ปกติ 660 บาท)
  • Orange Cake ขนาด 1 ปอนด์ เพียง 230 บาท (ปกติ 279 บาท)
  • Orange Cake 1 ชิ้น เพียง 45 บาท (ปกติ 55 บาท)

 

Promotion II : การกลับมาอีกครั้งของคุกกี้แสนอร่อยที่หลายคนเฝ้ารอ! ให้คุณมอบของขวัญปีใหม่ด้วย New Year’s Cookies ที่มาพร้อมคุกกี้ 4 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแลตชิพถั่ว, ดับเบิ้ลช็อกโกแลต, กาแฟอัลมอนด์ และบัตเตอร์ ในแพคเกจจิ้งดีไซน์เก๋ที่มีให้เลือกถึง 4 สไตล์

Set A เก๋สุดพลัง : คุกกี้ 2 รสชาติ (คละรส) ในกล่องเหล็กสุดหรู (100 g.) รสช็อกโกแลตชิพถั่วและบัตเตอร์ กล่องละ 175 บาท พิเศษ! 145 บาท เมื่อซื้อ 4 กล่องขึ้นไป (คละเซ็ต A และ B)

Set B ฟินจุใจในแบบครอบครัว : คุกกี้ 4 รสชาติ (คละรส) ที่มาในกล่องเหล็กสีแดงพรีเมียม (210 g.) ทั้งช็อกโกแลตชิพถั่ว, ดับเบิ้ลช็อกโกแลต, กาแฟอัลมอนด์ และบัตเตอร์ กล่องละ 320 บาท พิเศษ! เพียง 250 บาท เมื่อซื้อ 4 กล่องขึ้นไป (คละเซ็ต A และ B)

Set C ดีไซน์น่ารักสำหรับทุกคน : คุกกี้ 2 รสชาติ (คละรส) ในกล่องสีแดงดีไซน์หรู (300 g.) ทั้งรสช็อคโกแลตชิพถั่วและกาแฟอัลมอนด์ พิเศษ! กล่องละ 320 บาท (ปกติ 390 บาท)

Set D ส่งต่อความดีงามให้คนที่คุณห่วงใย : คุกกี้ 3 รสชาติ (คละรส) ในกล่องสีแดงดีไซน์หรู (450 g.) ทั้งรสช็อกโกแลตชิพถั่ว, กาแฟอัลมอนด์ และบัตเตอร์ พิเศษ! กล่องละ 320 บาท (ปกติ 390 บาท)

เงื่อนไขการเข้าร่วมรายการ

  • สินค้าราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกของ AMOR เท่านั้น
  • สั่งจองเค้กปอนด์ได้ล่วงหน้า โดยท่านต้องรับสินค้าและชำระเงินภายใน 15 มกราคม 2563 เท่านั้น
  • สินค้าราคาพิเศษเมื่อซื้อคุกกี้กล่องเหล็กตั้งแต่ 4 กล่องขึ้นไป สามารถคละเซ็ต A และเซต B ได้
  • สินค้าทุกเซ็ตไม่สามารถเปลี่ยนรสชาติคุกกี้ได้
  • สินค้าราคาพิเศษ ไม่เข้าร่วมการสะสมแสตมป์และส่วนลดสมาชิกในวันอังคาร
  • สินค้าราคาพิเศษ ไม่ร่วมกับโปรโมชันอื่น ๆ หรือการใช้ส่วนลดจากรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ
  • ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

AMOR พร้อมให้ลูกค้ามีความสุขกับ 2 โปรโมชันพิเศษได้ที่ร้าน AMOR ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มกราคม 2563 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.facebook.com/amorbangkok คลิกเข้าไปเลือกเมนูโดนใจและสาขาใกล้คุณได้ที่ www.amorbangkok.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2681 2885

“ออริจิ้น” ชวนลูกบ้านสัมผัสความพรีเมียมกับ 10 ร้านอร่อยย่านทองหล่อ

“สายกิน – สายชิม – สายเสาะหาของอร่อย” เตรียมฟินเฟร่อ! โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ และ พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ จาก ออริจิ้น ร่วมกับ วงใน (Wongnai) มอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ รวบรวม 10 ร้านอาหารเมนูเด็ดในโซนทองหล่อ จัดโปรฯ มอบส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมรับฟรี! อาหารและเครื่องดื่มอีกมากมาย โดยส่วนลดสามารถใช้สำหรับ สมาชิก OFC (Origin Family Club) และลูกค้าใหม่ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Origin Connect หรือลงทะเบียนกับ ORIGIN PROPERTY โดยใช้สิทธิ์ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Origin Connect เพื่อกดรับ “โค้ด” ส่วนลด หรือ คลิก https://www.origin.co.th/wongnai-x-origin/ แล้วนำมาแสดงที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธ.ค.62

10 ร้านอาหารที่เข้าร่วมรายการมีดังนี้

1.DAIKI RQ 49

2.Khao (ข้าว)

3.Scalini สกาลินี (โรงแรมฮิลตันสุขุมวิทกรุงเทพฯ)

4.Taishoken Ramen (ไทโชเคนราเมง)

5.GYUMA Japanese BBQ Restaurant B

6.Veganerie Concept (วีแกนเนอรี คอนเซ็ปต์)

7.คั่วกลิ้ง+ผักสด (คั่วกลิ้งผักสด) (ทองหล่อ)

8.เรือนมัลลิการ์ (Ruean Manlika Restaurant) สุขุมวิท 22

9.In the Mood for Love One (Ekamai)

10.SUSHI SEKI (เอ็มควอเทียร์) (ซูชิเซกิ) เอ็มควอเทียร์

 

“แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” เปิดตลาดนัดแรงงานกว่า 1 พันอัตรา

ในยุคที่ค่าครองชีพขยับตัว การเลือกทำงานในพื้นที่ใกล้บ้านถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แรงงานยุคนี้ต้องนำมาพิจารณา “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” ในฐานที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงาน ผนึกกำลังพันธมิตรจากบริษัทและองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ เปิดตลาดแรงงานเพื่อรองรับการเติบโตและขยายของธุรกิจ ระดมตำแหน่งงานระดับภูมิภาคกระจายทั่วไทยกว่า 1,000 อัตรา เอาใจคนหางานใกล้บ้าน ใกล้ที่ไหน ทำงานที่นั่น ยกขบวนทุกสายอาชีพมาเสิร์ฟให้ตลาดแรงงานครอบคลุมทุกสายงาน อาทิ งานด้านบัญชีการเงิน งานด้านการตลาดและการขาย  งานด้านภาษา  งานธุรการ งานด้านทรัพยากรบุคคลหรือ HR งานด้านวิศวกร งานลอจิสติกส์และสายงานด้านการผลิต เป็นต้น  สมัครและดูรายละเอียดตำแหน่งงานผ่านทาง www.manpowerthailand.com หรือ โทร.0 2171 2345 ห้ามพลาด! ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562