นายสามารถ จิรพัฒนกุล (แถวบนที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แลคตาซอย จำกัด มอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันจักรยาน “CPS Criterium Projects 2019 สนาม 2” ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปี จัดโดย บริษัท แลคตาซอย จำกัด ร่วมกับ Cycling Projects ผู้จำหน่ายจักรยานชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านการ Fitting จักรยานของไทย ณ สนามมอเตอร์สปอร์ต พาร์ค สุวรรณภูมิ เมื่อเร็ว ๆ นี้
ผู้เขียน: admin2
“Watsons 11.11 Online shopping fever” ลดเพิ่ม 12% เพียง 3 วันเท่านั้น!
“วัตสัน” ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย จัดโปรโมชันเสริมทัพออนไลน์สุดอลังกับ “Watsons 11.11 Online shopping fever” พบสินค้าราคาพิเศษที่ลดสูงสุด 70% และลดเพิ่มอีก 12% ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน WatsonsTH พิเศษสุดเพียงแค่ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2562 ทางวัตสันออนไลน์ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อ ณ จุดขาย Official Line WatsonsTH เว็บไซต์ www.watsons.co.th และแอปพลิเคชัน WatsonsTH ทั้ง PlayStore และ AppStore
รายการสินค้าร่วมรายการที่น่าสนใจ
- มิชึมิ ยูวี วอเตอร์ เซรั่ม เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++ 40 กรัม เหลือเพียง 445 บาท จากปกติ 890 บาท
- เวอรีน่า ไฟเบอร์แล็กซ์ 10ซอง เหลือเพียง 185 บาท จากปกติ 575 บาท
- โอเลย์ รีเจนเนอรีส ไมโคร-สกัลป์ติ้ง เซรั่ม 50 มล. ซื้อ 1 แถม 1 จากปกติ 1,099 บาท
- แอนเนสซ่า เพอร์เฟ็ค ยูวี ซันสกรีน สกินแคร์ มิลค์ เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++ 60 มล. เหลือเพียง 729 บาท จากปกติ 899 บาท
GET จัดโปรสั่งอาหารรับเทศกาล 11.11
GET (เก็ท) แอปพลิเคชันไลฟสไตล์ออนดีมานด์ชั้นนำ เปิดโปรแรงรับวันออนไลน์ชอปปิงแห่งชาติกับเทศกาล 11.11 ด้วยแคมเปญ “Best Deals of the Year” ให้นักชอปได้พักเติมพลังกับดีลเด็ด ๆ โปรโดน ๆ จากร้านอาหารชั้นนำและร้านเด็ดโดนใจกว่า 70 ร้านทั่วกรุงเทพฯ พร้อมแจกคูปองส่วนลดทุกวันสูงสุด 50% เมื่อสั่งครบ 250 บาท (ลดสูงสุดถึง 200 บาท) ที่ลดทั้งค่าส่งและค่าอาหาร
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเข้าไปกดรับคูปองกันได้ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2562 ลดแล้วยังลดเพิ่มอีกให้ได้อร่อยกันในราคาเบา ๆ พักเงินในกระเป๋าก่อนชอปต่อ!
สำหรับร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญมีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารมื้อหลัก ของหวาน และเครื่องดื่ม ได้แก่
- บาสกิ้น รอบบินส์ (Baskin-Robbins) ไอศกรีมในดวงใจตลอดกาลของใครหลายคนที่มีโปรโมชันสุดพิเศษ ซื้อไอศกรีมสกู๊ปไซส์ปกติ 2 สกู๊ป แถมฟรีทันที 1 สกู๊ป ในราคาเพียง 258 บาท
- อากะ (AKA) ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์พรีเมี่ยมขนเซ็ตอาหารญี่ปุ่นสุดคุ้มมากมายมาลดราคา ไม่ว่าจะเป็น เซ็นข้าวยากินิกุเนื้อ+ข้าวเนื้อหมาล่า+ซุปมิโซะ 2 ถ้วย+เกี๊ยวซ่า จากราคาปกติ 605 บาท ลดเหลือเพียง 423 บาท และอีกหลายหลายเซ็ตเอาใจคนชอบอาหารญี่ปุ่น
- ซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) ที่นำเสนอหลากหลายเมนู เช่น ไก่ย่างสไปซี่ แถมฟรีซุปเห็ด ในราคาเบา ๆ เพียง 189 บาท
- ฮั่วเซ่งฮง อาหารจีนชื่อดังระดับตำนานที่จัดโปรโมชั่นชุดพิเศษ กระเพาะปลาน้ำแดง+ซาลาเปา 2 ใบ+เก็กฮวยเย็น ราคาเพียง 139 บาท จากราคาปกติ 199 บาท
ชอปออนไลน์เหนื่อยแล้วไม่ต้องออกไปไหน พักเติมพลังด้วยเมนูโปรดทั้งมื้อหลัก มื้อว่าง หรือเครื่องดื่มเติมความหวานผ่าน GET ก็คุ้ม 2 ต่อกับดีลเด็ดแถมด้วยคูปองส่วนลดอีกมากมาย เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GET จาก App Store และ Play Store และลงทะเบียนเพื่อใช้งาน พร้อมเพลินกับร้านอาหารคาวหวานทั่วกรุงเทพฯ อีกนับหมื่นร้านที่พร้อมส่งถึงบ้านคุณ
บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะ วัน จัดโปรแรง “ซื้อ 1 บัตรเปย์ให้อีก 1”
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมด้วย นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด จัดโปรแรงแห่งปี พิเศษสุดสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะ วัน “ซื้อ 1 บัตรเปย์อีก 1” เฉพาะวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่เซ็นทรัลชิดลมเท่านั้น เพียงใช้บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ซื้อสินค้าแบรนด์พรีเมียมชั้นนำที่ร่วมรายการ อาทิ BOYY, RIMOWA, LONGCHAMP, DYSON, GARMIN, LA MER, LANCÔME, JO MALONE LONDON, L’OCCITANE ชิ้นแรก สมาชิกจะได้รับสินค้าชิ้นที่ 2 จากแบรนด์เดียวกัน จำกัด 1 สิทธิ์ต่อหมายเลขบัตรประชาชน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด) รายละเอียดเพิ่มเติม www.centralthe1card.com/th/promotion/shopping/central-singles-day
“เฮียฮ้อ” รีแบรนด์ “RS Mall” บุกแพลตฟอร์มออนแอร์-ออนไลน์
alivesonline.com : “อาร์เอส” เดินเกมชิงผู้นำธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง ประกาศรีแบรนด์ “RS Mall” บุกแฟลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ ชิงตลาดอี-คอมเมิร์ซมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์คุณภาพอันดับ 1 มั่นใจสินค้ากว่า 200 เอสเคยูโดดเด่นทั้งคุณภาพ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาตรฐานระดับสากล ผนึกพันธมิตรสื่อผสานความแข็งแกร่งรุกตลาดเต็มพิกัด มุ่งกรุยรายได้สู่ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2565
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือ MPC) ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ภายใต้แนวคิด “ทำธุรกิจใหม่ ไร้กรอบ” ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ “อาร์เอส” ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจทีวีดิจิทัล รวมถึงความท้าทายใหม่ในยุคการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี”
การประกาศรีแบรนด์ธุรกิจครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “RS Mall” จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายแนวรุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือสูงที่สุดในโลก
ปัจจุบันธุรกิจ MPC เข้าสู่เฟส 2 มุ่งขยายช่องทางจำหน่ายไปสู่ออนแอร์และออนไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการที่หลากหลาย ภายใต้ชื่อ RS Mall โดยตั้งอยู่บนจุดแแข็งของการมีธุรกิจสื่อและพันธมิตรสื่อรวมทั้งมีคอลล์เซ็นเตอร์ที่แข็งแกร่งหนุน โดย RS Mall มีโปรดักส์ไลน์ที่เน้นด้านนวัตกรรมคุณภาพสินค้าพรีเมียมกว่า 200 เอสเคยู ช่องทางการจำหน่าย โฟกัสที่ออนไลน์ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Line @ โดยเปิด Official Page บนแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซ ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางอี-คอมเมิร์ซของตัวเอง RS Mall จึงเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าและบริการทุกอย่าง โดยมีทั้งที่ลงทุนสร้างเอง เช่น Home Shopping, Direct Sale รวมถึงร่วมมือกับแพลตฟอร์มของพันธมิตรธุรกิจสื่อที่จับมือกับเรา เช่น ไทยรัฐทีวี, เวิร์คพอยทีวี เมื่อผสมผสานรวมกัน ธุรกิจมีเดียที่มีอยู่ในมือ ทั้งช่อง 8 และคูลฟาเรนไฮต์ (COOL fahrenheit) สิ่งที่ตามมาคือ Big Dat” ที่ทำให้ธุรกิจ MPC เรามีแต้มต่อ รู้และเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละคน ยิ่งลูกค้าซื้อสินค้าเรามากและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เมื่อเราออกผลิตภัณฑ์สุดยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้ากลับมาซื้อ ประกอบกับได้พันธมิตรทางธุรกิจอย่างกลุ่ม BTS มาช่วยบริการด้านลอจิสติกส์ที่ครบวงจรทั้งขนส่งและคลังสินค้า โดย Kerry เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service ที่มีศักยภาพเหนือคู่แข่ง
“RS Mall เป็นการรวมจุดแข็งของธุรกิจ MPC ของอาร์เอสในทุกแพลตฟอร์มมาไว้ที่เดียว เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ใช้ช่องทางดิจิทัลในการทำธุรกรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการซื้อสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม การรีแบรนด์ครั้งนี้จะช่วยสร้างการจดจำและตอกย้ำ RS แบรนด์สินค้าคุณภาพอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการจับจ่ายซื้อสินค้าผู้บริโภคได้ในทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม”
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา อาร์เอส ได้ผนึกพันธมิตรผู้นำอุตสาหกรรมไว้มากมายเพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าที่มีทั้งกลุ่ม BTS ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ มีผู้โดยสารถึงเกือบ 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน และ VGI ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน รวมทั้งช่องไทยรัฐทีวี, ช่องเวิร์คพอยท์ และในอนาคตกำลังจะมีช่องทีวีใหม่ ๆ ร่วมขยายธุรกิจ MPC ด้วย ซึ่งทุกช่องทางได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีความโดดเด่นด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลกกว่า 200 รายการ อาทิ สินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ แบรนด์มาจีค (Magique) รีไวฟ์ (Revive) หรือสินค้ากลุ่มอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ S.O.M. เช่น กาแฟสำเร็จรูปชนิดผงสำหรับชงดื่มสำหรับผู้ชาย (S.O.M. CMax) เป็นต้น
สำหรับสินค้าในเครือ RS ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่ดีต่อสุขภาพและความงามของผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าประจำกว่า 2 ล้านราย และยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลฐานลูกค้าดังกล่าวถือเป็นหัวใจสำคัญที่สามารถนำมาวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผลจากการรีแบรนด์ครั้งใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้ธุรกิจ MPC มีอัตราการเติบโตในปี 2563 อย่างก้าวกระโดด และเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันรายได้สู่เป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 ตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 มองว่าธุรกิจพาณิชย์ค้าปลีกหลายช่องทางจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนผู้ประกอบการและสินค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยแบรนด์ RS Mall ที่แข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมลงทุนกว่า 10 ล้านบาท สำหรับบุคลากร ขยายจำนวนเทเลเซลล์ เพื่อให้บริการและตอบปัญหาลูกค้าโดยตั้งเป้าเป็นแบรนด์สินค้าอันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภค และเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าชั้นนำทั้งออนแอร์และออนไลน์ของเมืองไทยภายใน 3 ปีต่อจากนี้ จากการเห็นโอกาสทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างใกล้ชิด” นายสุรชัย กล่าวในตอนท้าย
“พฤกษา” จับมือ “ช้อปปี้” รุกอี-คอมเมิร์ซเต็มสูบ
alivesonline.com : “พฤกษา” ผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย จับมือ “ช้อปปี้” ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เจาะตลาดกลุ่มมิลเลนเนียล รุกอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ ออกแคมเปญเอาใจนักช้อปออนไลน์ “11.11 ลดอลัง ปังทุกยูนิต” ขายคูปองผ่าน “ช้อปปี้” ในราคา 11 บาท นำไปแลกรับส่วนลด 2 แสนบาท ในการซื้อทาวน์โฮมที่เข้าร่วมโครงการกว่า 111 ยูนิต ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 62
นางสาวอังคณา ลิขิตจรรยากุล รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่องช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา “พฤกษา” ได้เปิดตัวร้านค้า “Pruksa Real Estate Official” อย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม “ช้อปปี้” พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “6.6 Mid-Year Sale” ซึ่งถือเป็นการเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการซื้อที่อยู่อาศัยผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการขายให้เข้าถึงตลาดกลุ่มมิลเลนเนียลที่เป็นกลุ่มที่นิยมการใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น ทั้งนี้เทรนด์การจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน “ช้อปปี้” มีผู้ใช้งานชาวไทยมากกว่า 30 ล้านคน จึงเตรียมออกแคมเปญใหม่ “11.11 ลดอลัง ปังทุกยูนิต” เพียงกดซื้อคูปองผ่าน “ช้อปปี้” ในราคา 11 บาท สามารถนำไปแลกรับส่วนลดมูลค่าสูงถึง 2 แสนบาท ในการซื้อทาวน์โฮมพร้อมอยู่แบรนด์ บ้านพฤกษา, พฤกษาวิลล์, เดอะคอนเนค และพาทิโอ ในยูนิตที่เข้าร่วมโครงการกว่า 111 ยูนิต ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2562 สำหรับ 11 ยูนิตแรกที่โอนบ้านภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2562 รับเพิ่มอีก 11,111 Coins
นอกจากสิทธิประโยน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ใช้ “ช้อปปี้” ในช่วงแคมเปญ “11.11 ลดอลัง ปังทุกยูนิต” แล้ว ยังมีการมอบส่วนลดพิเศษ 1.5% ให้ Shopee Seller ที่ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 6 แสนราย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ต้องการทำธุรกิจได้มีที่อยู่อาศัยพร้อมกับสามารถทำธุรกิจได้ควบคู่กัน โดย “พฤกษา” มีบ้านหลากหลายแบบกว่า 14 แบรนด์ที่ออกแบบด้วยความเข้าใจและตรงตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ทั้งในด้านของฟังก์ชันภายในรวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่า สามารถใช้งานได้จริงทุกตารางนิ้ว สามารถตอบโจทย์ชีวิตส่วนตัวและการทำงานของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว และเทคโนโลยี Pruksa Living Tech อาทิ O2 Lounge ที่ช่วยเติมออกซิเจนมอบอากาศบริสุทธิ์ ให้สมองปลอดโปร่งพร้อมทำงานในแต่ละวัน ระบบ Fresh Air นวัตกรรมบ้านหายใจได้ เทคโนโลยีระบบสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟน และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่บนทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายคมนาคมสามารถเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจได้สะดวก ซึ่งนอกจากจะได้บ้านที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งานแล้ว ยังเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวอีกด้วย
ความร่วมมือดังกล่าวกับ “ช้อปปี้” ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในด้านการทำการตลาดในยุคดิจิทัลของ “พฤกษา” ซึ่งจะเป็นการยกระดับในการขายอสังหาริมทรัพย์ไทยเข้าสู่ระบบอี-คอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ” โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงร้านค้า “Pruksa Real Estate Official” ได้โดยสามารถดาวน์โหลดช้อปปี้แอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store หรือ Google Play Store หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ https://shopee.co.th/pruksa_realestate_official
“โฮมโปร” กวาดรายได้รวม 9 เดือนแรกกว่า 5 หมื่นล้าน
alivesonline.com : “โฮมโปร” โชว์รายได้ช่วง 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 50,493.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3.35% มีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 4,428.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.78% ถึงแม้เศรษฐกิจภาพรวมยังซบเซา แต่รายได้ที่เติบโตมาจากยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจ “”โฮมโปร” และ “เมกา โฮม” รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่จากธุรกิจ “โฮมโปร”
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท ในช่วง 9 เดือนแรก 2562 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 50,493.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,634.89 ล้านบาท หรือ 3.35% และมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 4,428.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501.87 ล้านบาท หรือ 12.78% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 47,046.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,325.80 ล้านบาท หรือ 2.90% เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจ “โฮมโปร” และ “เมกา โฮม” รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่จากธุรกิจ “โฮมโปร” และ รายได้ค่าเช่าและบริการ 1,951.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203.37 ล้านบาท หรือ 11.63% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า “มาร์เกต วิลเลจ” และพื้นที่ให้เช่าของสาขา “โฮมโปร” และพื้นที่เช่าจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับคู่ค้า และรายได้จากค่าบริการ “Home Service” และมีรายได้อื่นอีก 1,496.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.72 ล้านบาท หรือ 7.60% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า ดอกเบี้ยรับ และรายได้เบ็ดเตล็ด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรขั้นต้น 12,496.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 542.68 ล้านบาท หรือ 4.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 26.15% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.56% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพวางแผนการจัดซื้อสินค้าของธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย
นายคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาส 3 ปี 2562 บริษัทฯ มีความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง การขยายตัวของเศรษฐกิจต่ำกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะการกีดกันสงครามทางการค้าและเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบตามเศรษฐกิจคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลง เริ่มส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากรายได้และการจ้างงานที่ปรับลดลง โดยเฉพาะในภาคการส่งออก ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงได้รับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและราคาสินค้าการเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ สำหรับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง รวมถึงผลกระทบจากฤดูฝน ตลอดจนปัญหาอุทกภัยที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการชิมช้อปใช้ เป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ถือเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ตัวเลขด้านเศรษฐกิจไทย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่ำสุดในช่วง 38 เดือนที่ผ่านมา และอุทกภัยในต่างจังหวัด รวมถึงยอดขายสินค้ากลุ่มโทรทัศน์ที่สูงผิดปกติในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ทำให้การเติบโตของยอดขายในไตรมาสที่ 3 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า อาทิ งาน “โฮมโปร แฟร์” (HomePro Fair) ที่เมืองทองธานี และที่หาดใหญ่ รวมถึงกิจกรรม “ฉลองครบรอบ 23 ปี Anniversary Day ” ในช่วงวันที่ 29 สิงหาคม – 29 กันยายน 2562 เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
นายคุณวุฒิ กล่าวถึง การเติบโตของบริษัทย่อยว่า “เมกา โฮม” มียอดขายทรงตัว ส่วนธุรกิจ “โฮมโปร” ที่ประเทศมาเลเซียยังได้รับผลกระทบจากยอดขายที่สูงผิดปกติในปี 2561 จากการยกเลิกภาษี GST อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่าง ๆ ผ่านการปรับปรุงด้านอัตราการทำกำไรขั้นต้น และการบริหารค่าใช้จ่าย
“สำหรับการขยายสาขาในไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาใหม่ 2 แห่ง ที่ โฮมโปร สาขามุกดาหาร และโฮมโปรเอส สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ส่งผลให้ ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 84 สาขา และ โฮมโปรเอส 9 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขาอีกด้วย” นายคุณวุฒิ กล่าวในตอนท้าย
10 อีเวนต์ ฉลองครบรอบ 1 ปี “ไอคอนสยาม”
“ไอคอนสยาม” เตรียมใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาทในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม สำหรับจัด 10 อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ระดับโลกในธีม “The Great Iconic Celebration” เพื่อฉลองครบรอบ 1 ปี และฉลองเทศกาลแห่งความสุขในช่วงท้ายปี
- มหาปรากฏการณ์ “The Celebrations of Glory ICONSIAM” ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2562 โดยได้รังสรรค์การแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตาบนแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะสะกดทุกสายตาทั่วทั้งโลก ตอกย้ำแนวคิด “สิ่งที่ดีที่สุดของไทยบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก” กับการแสดงชุด “Glory of ICONSIAM เฉิดฉายประกายสยาม” จากนักแสดงมืออาชีพทั้งไทยและต่างชาติที่มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 มีบริการเรือรับ-ส่งมายังไอคอนสยามจาก ท่าราชวงศ์, ล้ง 1919, ท่าเรือ 4 พระยา, ตึก CAT และท่าเรือสาธร ถึงเวลา 23.00 น. และมีบริการรถรับ-ส่ง (Shuttle Bus และ Shuttle Van) เส้นทางซอยไอคอนสยาม – ท่าดินแดง และเส้นทาง ไอคอนสยาม – BTS สถานีกรุงธนบุรี – BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ถึงเวลา 24.00 น.
- TRUE ICON HALL Grand Opening พบกับการเปิดสิ่งมหัศจรรย์ ของไอคอนสยาม TRUE ICON HALL (THE TRUE ICON EXPERIENCES of IMAGINATION) ศูนย์การประชุมระดับโลกที่ได้มาตรฐานระดับสากลแห่งแรกในประเทศไทย บนชั้น 7 ด้วยความจุขนาด 2,700 ที่นั่ง รองรับการจัดงานประชุมและจัดแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางของการประชุมนานาชาติและการแสดงระดับชั้นนำของโลก ภายในงานพบกับศิลปินระดับโลก Matteo Bocelli
- SIAM Takashimaya 1st Anniversary Glory Hokkaido Celebration งานฉลองครบรอบ 1 ปี ห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ กับ งาน Glory Hokkaido Celebration ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2562 ยกจุดท่องเที่ยวและแลนด์มาร์คยอดนิยมของฮอกไกโดมาให้ชมอย่างใกล้ชิด ละลานตาไปกับทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไม้สีสันสดใส นิทรรศการจัดดอกไม้ญี่ปุ่นอิเคบานะ อิ่มอร่อยไปกับซัปโปโรฟู้ดฮอลล์และหลากหลายร้านอาหารชื่อดังส่งตรงจากฮอกไกโดมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ชมโชว์การเต้นสุดเร้าใจ “ซัปโปโร โยซาโค่ย โซรัน” (Yosakoi Soran) จากทีมเต้นที่บินมาจากฮอกไกโดเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ชมโชว์แล่ปลามากุโระยักษ์ขนาด 100 กก. จากเชฟรางวัลระดับโลก มินิคอนเสิร์ตจากเบน ชลาทิศ และพบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษให้ทุกท่านลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
- ฉลอง ๑ ศก แห่ง 7 สุข ที่เมืองสุขสยาม ครบรอบ 1 ปี เมืองสารพัดสุขสนุกแบบไทย พร้อมร่วมใจส่งไปกับ 7 ฮีโร่ไทยไปเวทีโลก พบกับกิจกรรม อาทิ ชิม-ช้อป กับ 20 สุดยอดผู้ประกอบการไทย จากกว่า 40 ร้านค้าแห่งปี, การแสดงจากศิลปินแห่งชาติระดับครูของแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็น สันติ ลุนเผ่, บัวซอน ถนอมบุญ, บานเย็น รากแก่น, เคล้า โรจนเมธากุล และคอนเสิร์ตจากเบน ชลาทิศ และคืนความสุขเชิญชวนชาวไทยร่วมสืบสานประเพณี ลอยกระทง และการประกวดนางนพมาศ 3 วัย เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 8-11 พฤศจิกายน 2562 โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายน จะมีพิธีมอบรางวัล LOCAL HERO ให้แก่ร้านค้าชุมชนที่มีความโดดเด่น สามารถสร้างยอดขายและมอบความสุขให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือนได้อย่างน่าประทับใจ และช่วยส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยให้โด่งดังไปทั่วโลก วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ประกาศศักดา Local to Global ของ สสว. และวันที่ 11 พฤศจิกายน ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง พร้อมโปรโมชั่นมากมาย
- ICONSIAM Chao Phraya River of Glory ไอคอนสยามร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์กรพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดงาน มหาปรากฏการณ์เทศกาลลอยกระทง อีกหนึ่งปรากฏการณ์ “สุดยอดของโลก” บนสุดยอดแลนด์มาร์คริมสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ของไทย เมื่อสัญลักษณ์แห่งความบันเทิงตลอดกาลอย่าง “มิคกี้ เมาส์ และ มินนี่ เมาส์” เดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญของไทย ควงคู่อวดโฉมในชุดไทยจักรี เป็นครั้งแรกของโลก! พร้อมตื่นตาอลังการไปกับมหกรรมความบันเทิงเฉลิมฉลองเทศกาลสักการะสายน้ำแห่งปี ตระการตากับสุดยอดการแสดงผสมผสานแสง สี เสียง ท่ามกลางทัศนียภาพเจ้าพระยาที่สวยงามที่สุด ชมความงดงามของขบวนนางนพมาศ และนิทรรศการจัดแสดงกระทงนานาชาติจากสถานทูต 15 ประเทศ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรมมหัศจรรย์วิถีไทยมากมาย เพื่อร่วมเชิดชู สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า และเผยแพร่ความงามสง่าของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตอกย้ำ “ลอยกระทง”เทศกาลสำคัญที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ที่ใดบนปฏิทินโลก ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ศกนี้ ณ ไอคอนสยาม โดยมีบริการเรือรับ-ส่งมายังไอคอนสยามจาก ท่าราชวงศ์, ล้ง 1919, ท่าเรือ 4 พระยา, ตึก CAT และท่าเรือสาธร ถึงเวลา 24.00 น. และมีบริการรถรับ-ส่ง (Shuttle Bus และ Shuttle Van) เส้นทางซอยไอคอนสยาม – ท่าดินแดง และเส้นทาง ไอคอนสยาม – BTS สถานีกรุงธนบุรี – BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ถึงเวลา 24.00 น.
- BRICK LIVE Built for LEGO fans มหกรรมเลโก้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกตัวต่อเลโก้กว่าล้านชิ้น มาไว้ที่ไอคอนสยาม พบกับเซ็ตเลโก้สะสมหายาก และโซนกิจกรรมมากมายมาสร้างความบันเทิงเชิงสร้างสรรค์ให้กัเด็กและครอบครัวไทยอีกครั้ง เป็นปีที่ 2 พร้อมธีมใหม่สุดพิเศษสำหรับแฟน ๆ สตาร์ วอร์ส ในงานบริคไลฟ์ ตั้งแต่วันที่ 14 -17 พฤศจิกายน 2562 ที่ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร
- World’s First Launch Mickey & Minnie ไอคอนสยามเปิดประสบการณ์ความบันเทิงเทศกาลไทยเทียบชั้นอีเว้นท์มหานครดังระดับโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน โดยร่วมกับ บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด เซอร์ไพรส์คนไทย! นำสุดยอดตัวการ์ตูนชื่อดังระดับโลก “มิคกี้ เมาส์ และ มินนี่ เมาส์” มาอวดโฉมเป็นครั้งแรก สุดพิเศษ! กับการปรากฏตัวในชุดไทยจักรีสุดงดงามร่วมเฉลิมฉลองวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะในงาน “ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF GLORY” ณ ไอคอนสยาม เท่านั้น พร้อมพบอีกหนึ่งไฮไลท์ฟิกเกอรีน มิคกี้ เมาส์ และมินนี่ เมาส์ สวมใส่ชุดไทยขนาดยักษ์ สูงถึง 5 เมตร ตั้งเด่นตระหง่านท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา ณ ริเวอร์ พาร์ค ร่วมด้วยประติมากรรมทองคำแท้ มิคกี้ เมาส์ในท่าทางสวัสดี พร้อมกับกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อส่งมอบความสุขแก่บรรดาแฟนๆ อาทิ มุมถ่ายภาพสุดประทับใจในสไตล์ “มิคกี้ โก ไทยแลนด์”, เวิร์คช็อปที่ร่วมสนุกกันได้ทั้งครอบครัว ปิดท้ายด้วยกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเพื่อนคนพิเศษจากดิสนีย์ในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2562
- Bangkok Illumination 2019 เฉลิมฉลองบรรยากาศแห่งความสุขต้อนรับคริสต์มาสและปีใหม่ไปกับเทศกาลประดับไฟยิ่งใหญ่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พบกับความสวยงามสว่างไสวตระการตาของการออกแบบไฟประดับที่ผสมผสานลวดลายไทยเข้าไปอย่างวิจิตร พร้อมชม ICONIC Multimedia Water Features ระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความยาวกว่า 400 เมตร ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 – 5 มกราคม 2563
- ICONSIAM World of Gifts พบกับเทศกาลของขวัญส่งท้ายปีกับสินค้าหลากหลายชนิดที่พร้อมให้ทุกคนเลือกสรรไปส่งมอบให้กับคนสำคัญในช่วงเวลาสุดพิเศษของปี ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2562 – 6 มกราคม 2563
- Amazing Thailand Countdown 2020 ที่สุดของมหาปรากฏการณ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของพันธมิตรภาครัฐและเอกชน โดยจะจัดขึ้นที่ไอคอนสยามอีกครั้งในปีนี้ ภายใต้แนวคิดแม่น้ำแห่งความรุ่งเรืองที่จะตอกย้ำให้แม่น้ำสายประวัติศาสตร์นี้เป็น National Iconic Landmark และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก พบกับการแสดงพลุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สามารถรับชมได้ตลอดลำน้ำความยาว 1,400 เมตร และมหกรรมความบันเทิงกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม วันที่ 31 ธันวาคม 2562
พบกับโปรโมชั่นพิเศษมากมายจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
- พบกับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ช้อปคุ้มถึงขีดสุด เมื่อใช้จ่าย ณ ร้านค้าแบรนด์ดังในไอคอนสยาม เพียงใช้คะแนนเท่ายอดซื้อแลกรับเครดิตเงินคืน 20% ตั้งแต่วันที่ 8 -10 พฤศจิกายน 2562 พิเศษยิ่งขึ้นวันเดียวเท่านั้นเฉพาะวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562 สำหรับ 100 ท่านแรก ชอป 10,000.- คืน 5,000.* (รับเครดิตเงินคืน 5,000 บาทเมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิปและช้อปตามเงื่อนไข) คุ้มสูงสุดวันเดียวเท่านั้น! *เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
- บัตรเครดิตวันสยาม-กสิกรไทย เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ที่ 2-3, 9-10, 16-17, พ.ย. 62 รับคืนรวมสูงสุด 40% (แลกรับเครดิตเงินคืน 20% เมื่อใช้คะแนน KBank Reward Point เท่ายอดช้อป + รับเพิ่ม Siam Gift Card 2,000 บาท เมื่อช้อปผ่านบัตรฯ 10,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป และใช้คะแนน VIZ 10,000 คะแนนแลกรับ (จำนวนจำกัด) โดยในวันที่8-11 พย. รับคะแนน KBank Reward 10 เท่า เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาท/เซลส์สลิป (จำกัดยอดใช้จ่ายในการคำนวณคะแนนสะสมสูงสุด 500,000 บาท/เซลส์สลิป/ และสูงสุด 1,000,000)
- สำหรับบัตรเครดิตอื่นๆ รับคืนสูงสุด 15% สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1338 หรือ iconsiam.com
[ชมคลิป] 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่ง “ไอคอนสยาม”
alivesonline.com : “ไอคอนสยาม” ตอกย้ำความสำเร็จ “แผนแม่บทแม่น้ำเจ้าพระยาวิสัยทัศน์แห่งไอคอนสยาม” บูมการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรีครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนส่งต่อผลประโยชน์ไปในวงกว้าง พร้อมยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” เปิดเผยว่า “ไอคอนสยาม” มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์ที่ประกาศไว้เมื่อ 7 ปีก่อนทั้งหมดได้สำเร็จลุล่วงแล้วทุกประการ โดยได้พิสูจน์แล้วว่า “ไอคอนสยาม” เป็น Game Changer Destination ที่สามารถสร้างศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวกลางเมืองของกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรีได้สำเร็จ สร้างความเจริญรุ่งเรืองกระจายไปสู่บรรดาชุมชนและธุรกิจที่รายล้อมได้อย่างมาก รวมทั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่พัฒนาธนบุรีให้ผงาดขึ้นเป็นมหานครอย่างรวดเร็ว
“ไอคอนสยาม” ได้รับการยอมรับว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ในฐานะเป็นแม่เหล็กของการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ทรงพลัง เป็น Global Destination ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและจากทั่วประเทศไทยให้เดินทางมาเยี่ยมชม จากการที่ “ไอคอนสยาม” ลงทุนทำการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่และได้ทำการตลาดแพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้ “ไอคอนสยาม” กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้ของนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังถูกยกให้เป็นต้นแบบโครงการค้าปลีกที่บุกเบิกแนวความคิดที่แปลกใหม่ของการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์อนาคตที่สามารถรวบรวมศิลปะ ประเพณีท้องถิ่น นวัตกรรม สถาปัตยกรรมระดับโลก และประสบการณ์เหนือระดับในการชอปปิงและเอ็นเตอร์เทนเมนต์มารวมกันลงตัวได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นโครงการตัวอย่างที่ดึงดูดนักลงทุนและนักพัฒนาโครงการค้าปลีกจากทั่วโลกให้ต้องเดินทางมาเยี่ยมชม และศึกษาแนวคิดของการทำโครงการไอคอนสยามตลอดปีที่ผ่านมา
ความสำเร็จของ 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม
- สุขสยาม ความสำเร็จของมหาปรากฏการณ์ที่รวบรวม Local Heroes ศิลปิน ช่างฝีมือ ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสได้ทำการค้าขายในกรุงเทพฯ ให้ได้เข้ามาทำการค้าขายบนเวทีที่มีศักยภาพ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา สุขสยามได้ดึงดูดผู้คนเข้ามาที่สุขสยามไม่ต่ำกว่า 50,000 – 70,000 คนต่อวัน ผนวกกับการช่วยเหลือและส่งเสริมความรู้และการทำการตลาด และ modern trade ให้กับผู้ประกอบการ ส่งผลทำให้ประสบความสำเร็จ โดยผู้มาค้าขายในสุขสยามมีรายได้ดีมากและมีเงินทุนที่จะทำธุรกิจพัฒนาสินค้าต่ออีก ลูกหลานก็เห็นช่องทางและยินดีที่จะมาต่อยอดเพื่อสืบสานกิจการค้าขายหรืองานฝีมือของครอบครัวและบรรพบุรุษต่อไปเพราะได้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงในสุขสยาม ยิ่งไปกว่านั้นผู้ประกอบการหลายรายได้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวจนได้มีโอกาสไปทำธุรกิจในต่างประเทศแล้วอีกด้วย
- ริเวอร์ พาร์ค จากปณิธานของไอคอนสยามในการอุทิศพื้นที่ในโครงการขนาดใหญ่ 10 ไร่ ให้เป็น Community Space วันนี้ริเวิอร์พาร์คได้กลายเป็นพื้นที่สำคัญที่ชุมชนสามารถมาใช้ประโยชน์ได้เสมือนเป็นระเบียงหน้าบ้าน มีการใช้พื้นที่ในการจัดประเพณีไทย 12 เดือน เต็มตลอดทุกเดือน เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อาทิ ประติมากรรมเทียนพรรษายักษ์ที่เดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานีเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก กลายเป็น world class destination ที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและทั่วโลก
- การแสดงระบำสายน้ำ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย ที่ยาวและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้พิสูจน์ความสำเร็จแล้ว ในการทำให้แม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็น New Global Destination ด้วยการมี World Class Attraction ที่ทรงพลัง ซึ่งนอกเหนือจากการดึงดูดผู้คนให้มาชมการแสดงได้อย่างล้นหลามแล้ว ล่าสุดการแสดงระบำสายน้ำ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย ของไอคอนสยาม ยังได้รับคัดเลือกให้ได้รางวัลชนะเลิศ รางวัล Gold Stevie Award 2019 สาขา Art, Entertainment & Public – Art Event จาก The International Business Awards การประกวดธุรกิจนานาชาติประจำปี 2019 บนเวทีระดับโลก
- ทรู ไอคอน ฮอลล์ ศูนย์การประชุมระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย บนชั้น 7 ด้วยความจุขนาด 2,700 ที่นั่ง รองรับการจัดงานประชุม ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และสามารถรองรับโชว์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศได้ซึ่งจะจุดประกายให้กับอุตสาหกรรม MICE และทำให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางของการประชุมนานาชาติและการแสดงระดับชั้นนำของโลก
- ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก พื้นที่ศิลปะและพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย โดยได้เปิดเฟสแรก ‘ไอคอนสยาม อาร์ท สเปซ’ เมื่อเดือนกันยายนศกนี้ พื้นที่ 2,000 ตร.ม.ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยทุกแขนงตั้งแต่ศิลปินรุ่นใหม่ ศิลปินท้องถิ่น ไปจนถึงศิลปินระดับชาติใช้แสดงผลงาน โดยงานแรก กลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ได้จัดนิทรรศการศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” งานแสดงผลงานจากประกวดศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ของศิลปินทั่วประเทศ ภายใน 1 เดือนถึงวันนี้มีผู้ชมงานมากถึง 100,000 คน หลังจากนี้จะเปิดเฟสสองคือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม ฮอลล์’ จะเป็นพื้นที่สำหรับการจัดแสดงงานสำคัญจากทั่วโลก และการร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลก และส่วนสุดท้ายคือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก’ ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทยจะเปิดให้บริการปลายปี 2563 ทั้งหมดนี้จะทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นจุดศูนย์กลางวงการศิลปะโลกอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- รถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่านถนนเจริญนครไปสิ้นสุดที่โรงพยาบาลตากสินรวม 3 สถานี และในอนาคตจะเป็น Feeder Line ที่เชื่อมเข้ากับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง ขณะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้กลางปี 2563 โดยจะเป็นรถไฟฟ้าสายแรกในประเทศไทยที่เปิดเดินรถโดยใช้ระบบ AGT (Automated Guideway Transit) ทำให้ก่อสร้างบนพื้นที่จำกัดได้ จึงไม่ต้องเวนคืนที่ดินของประชาชน อีกทั้งการเดินรถระบบนี้มีน้ำหนักเบา ส่งผลให้สามารถใช้โครงสร้างเสาขนาดเล็กกว่าระบบเดิม นอกจากนั้นตัวรถเป็นระบบล้อยาง ทำให้เวลาเดินรถเสียงจะเงียบกว่ารถไฟฟ้าแบบเดิม ลดผลกระทบด้านเสียง และ AGT ยังเป็นระบบเดินรถแบบไร้คนขับ (Driverless) ที่จะถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ควบคุมการเดินรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะควบคุมระยะเวลาในการเดินรถได้อย่างแม่นยำและมีความปลอดภัยสูง
- ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทยจากศิลปินไทยระดับอาจารย์ ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินท้องถิ่นจากทั่วประเทศไทย และรวมถึงผลงานสร้างสรรค์โดยศิลปินต่างชาติ ได้แสดงความสามารถและผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งโครงการกว่า 100 ชิ้น หรือแม้กระทั่งในร้านค้าต่างๆ เป็นการสนับสนุนผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินและช่างฝีมือไทยเหล่านั้นให้ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาโลก และจะยังมีเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
“ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของไอคอนสยาม ล้วนเกิดจากการรวมพลังความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคจากหัวใจคนไทยร้อยพันชีวิตผนึกกำลังกับผู้เชี่ยวชาญจาก 4 ทวีป รวม 15 ชาติ ผู้มีส่วนร่วมในโครงการ (The Makers, The Co-Creators, The Supporters) ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ศิลปิน นักออกแบบ นักธุรกิจ ตลอดจนผู้คนจากชุมชนทั่วไทย ดังนั้นความสำเร็จและความดีงามของโครงการไอคอนสยามในวันนี้ต้องยกให้กับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด” นางชฎาทิพ กล่าว
เติมเต็มประสบการณ์ระดับโลกที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
- ซุปเปอร์พาร์ค สวนสนุกซึ่งรวบรวมกิจกรรมที่ปลอดภัยและสนุกสนานไว้อย่างครบครันมากที่สุดเป็นครั้งแรกจากประเทศฟินแลนด์ นำเสนอประสบการณ์ใหม่ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ ภายใต้พื้นที่กิจกรรมที่กว้างขวางกว่า 4,000 ตารางเมตร เนรมิตฐานเครื่องเล่นและกิจกรรมกีฬาที่สนุกสนานเร้าใจ พร้อมพัฒนาทักษะการกีฬาและเสริมสร้างพลานามัยให้แก่เด็กๆ และครอบครัวได้มาสนุกสนานร่วมกัน
- Blue by Alain Ducasse ภัตตาคารฝรั่งเศสไฟน์ไดนิ่งสุดหรูโดยเชฟ Alain Ducasse หนึ่งในสองพ่อครัวระดับโลกที่ครอบครองมิชลินสตาร์กว่า 21 ดวง และยังการันตีความอร่อยด้วยร้านอาหาร 30 แห่งใน 7 ประเทศ ตั้งแต่ร้านอาหารบิสโทรแท้และบราสเซอรี่ ไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์ถึง 3 แห่งทั่วโลก ในครั้งนี่ Alain Ducasse ได้สร้างแบรนด์ใหม่ให้ประเทศไทยโดยเฉพาะ พร้อมเปิดให้ลิ้มลองสุดยอดแห่งความอร่อยระดับโลกเป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ที่ชั้น 1 ไอคอนลักซ์ ปลายเดือนพฤศจิกายน
- %ARABICA ร้านกาแฟชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง การันตีด้วยจำนวนสาขาที่มากกว่า 44 แห่งใน 12 ประเทศทั่วโลก โดยจะมาเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยาม ซึ่งแฟล็กชิปสโตร์แห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Nomura บริษัทออกแบบชั้นนำของญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย เตรียมสัมผัสกับความเข้มเต็มรสชาติของกาแฟชั้นเลิศจากสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใครที่ %ARABICA ไอคอนสยาม เร็ว ๆ นี้
- เดียร์ทัมมี่ (Dear Tummy) ซึ่งเป็น Foods Market คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยที่จะเปิดโลกของสินค้าและอาหารรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น โดยคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมารวมไว้ที่แห่งเดียว พร้อม Food Artisans ผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมเสนอเมนูความอร่อยรวมถึงสินค้าหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในแผนกโกรเซอรี่ พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรักอาหาร ที่ชั้น G, ICONSIAM
Jacob & Co เปิดบูทีคแห่งแรกในเมืองไทย
นายราล์ฟ เคลโบว์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และ นายอีริค ไมเจอร์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทม์ โซน จำกัด พร้อมด้วย นายเจค็อบ อาราโบ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ก่อตั้ง Jacob & Co และดาราฮอลลีวู้ดนักแสดงชั้นนำ นายเอเดรียน โบรดี (ที่ 2 จากขวา) ร่วมในพิธีเปิดร้าน Jacob & Co บูทีคสุดลักซ์ชัวรี่แห่งแรกของเมืองไทย ณ ห้างสรรพสินค้า เกษร วิลเลจ กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้