KUMWEL เข้าเทรดวันแรก เปิดตลาด 1.24 บาท

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีกับนายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KUMWEL และนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน KUMWEL ในพิธีเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 1 ส.ค.62  โดยเปิดตลาดที่ราคา 1.24 บาท เพิ่มขึ้น 12.73% จากราคา IOP 1.1  บาท ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“แสนสิริ” เดินหน้าส่งมอบที่อยู่อาศัยตามเป้าโอน 2.9 หมื่นล้านบาท

alivesonline.com : “แสนสิริ” เตรียมส่งมอบที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมโอนรับดีมานต์อยู่อาศัยจริง เผยคอนโดจ่อคิวแล้วเสร็จ 9 โครงการใหม่ครึ่งปีหลัง ล่าสุดจัดทัพพร้อมส่งมอบบริการ “แสนสิริ เซอร์วิส” เตรียมโอน “ทากะ เฮาส์” คอนโดฯ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง “แสนสิริ” และ “โตคิว คอร์ปอเรชั่น” มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าประมาณการรายได้จากการโอนมอบที่อยู่อาศัยปี 2562 เป็นมูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบันมีจำนวนสมาชิก “แสนสิริ แฟมิลี่” ที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีแล้วกว่า 1.26 แสนครอบครัว ล่าสุดในปี 2562 บริษัทฯ เตรียมส่งมอบที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเพื่อตอบรับความต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่พร้อมเข้าอยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยประมาณการยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และพร้อมจะส่งมอบให้กับลูกค้าในปี 2562 เป็นมูลค่าประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท

ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 บริษัทฯ มีพันธกิจสำคัญที่จะต้องส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่จะสร้างเสร็จใหม่และส่งมอบให้กับลูกค้าเข้าอยู่อาศัยอีก 9 โครงการ อาทิ “ทากะ เฮาส์” มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท “เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101” มูลค่าโครงการ 4.7 พันล้านบาท, “เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์” มูลค่าโครงการ 5.9 พันล้านบาท, “เดอะ เบส เพชรเกษม” มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท, “เดอะ เบส สุขุมวิท 50” มูลค่าโครงการ 1.55 พันล้านบาท, “เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ” มูลค่าโครงการ 6.3 พันล้านบาท, “คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค” มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท, “ลา กาซิตา หัวหิน” มูลค่าโครงการ 2.4 พันล้านบาท และ “ดีคอนโด หาดใหญ่” มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์จะทยอยสร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าตามเฟสต่าง ๆ โดยจะมีการจัดกิจกรรมโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อต้อนรับสมาชิกของครอบครัว “แสนสิริ แฟมิลี่” ที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด “แสนสิริ” ได้จัดทีมเตรียมความพร้อมด้านการบริการ สำหรับการโอนส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือระหว่าง “แสนสิริ” และ “โตคิว คอร์ปอเรชั่น” ในชื่อโครงการ “ทากะ เฮาส์” มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay Unique, Stay Diverse” ด้วยจำนวนห้องเพียง 269 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างและหลากหลายจับกลุ่มคนไทยและต่างชาติ ตั้งอยู่บนทำเลซอยเอกมัย 12 ที่ตอบรับทุกการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างลงตัว

โครงการ “ทากะ เฮาส์” ยังตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ มีการเปลี่ยนแปลงของราคาคอนโดมิเนียมรีเซลล์ที่เติบโตเฉลี่ยถึง 6-10% ต่อปี โดยราคาปล่อยเช่าในทำเลเอกมัยเฉลี่ยประมาณ 2.5-5.5 หมื่นบาทต่อเดือน ขณะที่ผลตอบแทนในการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 5-6% ต่อปี ได้รับความสนใจเข้าอยู่อาศัยจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เช่าเกรดพรีเมียมสำหรับกลุ่มนักลงทุนในทำเลนี้ โดยโครงการจะมีการจัดกิจกรรมเริ่มโอนโครงการตั้งแต่วันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2562เป็นต้นไป

“นอกจากการบริหารงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าได้ตรงตามเวลาแล้ว การสร้างประสบการณ์ด้านการบริการสมบูรณ์แบบเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างครบวงจรก็นับเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยลูกบ้านจะได้รับบริการจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ทีมงานมืออาชีพที่จะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการและบริหารจัดการความต้องการให้ลูกบ้านแสนสิริทั้งก่อนและหลังการอยู่อาศัยอย่างครบวงจร ทั้งการขาย ปล่อยเช่า ซื้อเพิ่ม หรืออยู่อาศัยเอง รวมถึงการดูแลบริหารโครงการและส่วนกลางในทุกรูปแบบด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี”

นายอุทัย กล่าวด้วยว่า กลยุทธ์หลักในปี 2562 ที่สร้างความแตกต่างให้กับบริการของ “แสนสิริ” คือ “Home Care Services” ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การดูแลรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการดูแลซ่อมบำรุง (Maintenance Care) เพื่อเปลี่ยนเรื่องการดูแลรักษาบ้านที่ยุ่งยากให้เป็นเรื่องง่ายกับบริการซ่อมบำรุงในประกันและหลังหมดประกัน เสมือนมีช่างประจำตัวบ้านที่คอยช่วยตรวจเช็กและซ่อมบำรุงอยู่เสมอ เพื่อให้บ้านคงอยู่ในสภาพที่ดีตลอดระยะเวลาการอยู่อาศัย

 

 

รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เปิดบริการคลินิกเด็ก 24 ชั่วโมง

alivesonline.com : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ เผย เปิดคลินิกเด็กที่ให้บริการรักษาโรคและให้คำปรึกษาด้านพัฒนาการเด็ก โดยทีมกุมารแพทย์และบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยเครื่องมือทันสมัยและเวชภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูง

นายแพทย์สุนทร ศรีทา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจเพื่อสุขภาพ ในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด ได้เปิดให้บริการคลินิกเด็กอย่างเป็นทางการแล้ว แบ่งเป็น แผนกผู้ป่วยนอก คือคลินิกเด็กและคลินิกพัฒนาการ และแผนกผู้ป่วยใน คือ หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดและเด็กเจ็บป่วย โดยมีทีมแพทย์และบุคลากรอยู่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ กุมารแพทย์ตรวจรักษาโรคเด็กทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก บริการตรวจสุขภาพ ให้วัคซีนตามวัย ทั้งวัคซีนภาคบังคับและวัคซีนเสริม กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก ตรวจรักษาและให้คำแนะนำปัญหาด้านพัฒนาการต่าง ๆ ได้แก่ เด็กสมาธิสั้น ปัญหาการพูด พัฒนาทางด้านร่างกาย  ปัญหาการเรียน ภาวะทางอารมณ์และพฤติกรรม การกิน การขับถ่าย โดยมีเป้าหมายการรักษาเพื่อให้เด็กสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้มากที่สุด

นอกจากกุมารแพทย์แล้ว โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิยังให้ความสำคัญกับบุคลากรและทีมสนับสนุนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเด็ก โดยเฉพาะการทำหัตถการต่าง ๆ เช่น พยาบาลเชี่ยวชาญด้านฉีดวัคซีนและให้น้ำเกลือ ซึ่งกุมารแพทย์จะเป็นผู้ตรวจสอบยาและให้วัคซีนแก่เด็กด้วยตนเอง ตลอดจนทีมกายภาพที่มีประสิทธิภาพในการทำหัตถการดูดเสมหะในกลุ่มคนไข้เด็กที่มีเสมหะมาก

สำหรับเครื่องมือการตรวจรักษาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ นับว่ามีมาตรฐานสูง ซึ่งโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้คัดเลือกยาและวัคซีนที่มีคุณภาพ รวมทั้งมีวัคซีนเสริมที่พร้อมให้บริการ เช่น วัคซีน IPD วัคซีนโรตาไวรัส วัคซีนรวม 5 โรค วัคซีนรวม 6 โรค ชนิดไม่มีไข้ เป็นต้น โดยสามารถให้บริการวัคซีนที่ครอบคลุมทั้งเด็กเล็ก (0-4 ปี) และเด็กโต (มากกว่า 4 ปี) ได้ทุกชนิด

ในด้านของสถานที่ยังมีการแบ่งโซนชัดเจน ทั้งส่วนของการรักษา โดยมีห้องตรวจจำนวน 15 ห้อง ห้องทำหัตถการขนาดใหญ่ 2 ห้อง และโซนสำหรับเด็กเล่นที่เน้นความปลอดภัย ทำให้เด็กไม่กลัวโรงพยาบาลระหว่างรอแพทย์ตรวจ เป็นการเตรียมพร้อมการให้บริการกับผู้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด

“คลินิกเด็ก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีทีมกุมารแพทย์และบุคคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมบริการตรวจรักษาโรคเด็กและให้คำปรึกษาด้านพัฒนาการเด็กด้วยความตั้งใจ ใส่ใจและคำนึงถึงมาตรฐานในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยเครื่องมืออันทันสมัยและเวชภัณฑ์ยาที่มีคุณภาพ ภายใต้สถานที่ซึ่งพร้อมรองรับ ด้วยความหวังที่จะให้เด็กทุกคนเติบโตด้วยความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต

นายแพทย์สุนทร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโรคที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ โรคภูมิแพ้ ภาวะแพ้โปรตีนนมวัวในเด็กทารก โรคติดเชื้อในระบบต่าง ๆ ได้แก่ ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังมีภาวะอื่น ๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่ ภาวะทางศัลยกรรม เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ภาวะลำไส้กลืนกัน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาและวินิจฉัยอย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนพบว่ามีเด็กเจ็บป่วยจำนวนมาก โรคที่พบได้แก่ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ RSV มือ เท้า ปาก เฮอแปงไจน่า การติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น คออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อในทางเดินอาหาร โดยผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และหากพบว่าเด็กมีอาการผิดปกติควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาในทันที

โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6.5 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสูง 5 ชั้น ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปแก่ผู้ป่วยนอกและศูนย์การรักษาเฉพาะทางต่าง ๆ อาทิ ศูนย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมและความงาม ศูนย์ตรวจสุขภาพ โดยอาคารดังกล่าวเชื่อมต่อกับอาคารโรงพยาบาลสูง 16 ชั้น ที่จะให้บริการกับผู้ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉินและการบาดเจ็บทุกรูปแบบ รวมถึงบริการซีเนียร์แคร์สำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ และห้องพักผู้ป่วยขนาด 200 เตียง

 

 

KRBB – DeliveryLab – Lalamove ร่วมอัปเกรดการจัดส่งสินค้าสู่ทุกธุรกิจ

alivesonline.com : KRBB ร่วมมือกับ DeliveryLab อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสุดล้ำ และ Lalamove ผู้นำแพลตฟอร์มการจัดส่งสินค้าแบบออนดีมานด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย พัฒนากระบวนการสั่งซื้อและการขนส่งที่ง่ายขึ้นสำหรับทั้งลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจ

นายอิทธิชัย เบญจธนสมบัติ กรรมการผู้จัดการร้าน KRBB, The Boutique Buther ร้านบุชเชอร์ระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในไทย กล่าวว่า หลังจากที่ KRBB เปิดให้บริการมากว่า 2 ปี ในขณะที่การให้บริการเดลิเวอลีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจอย่าง Lalamove และ DeliveryLab เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการสั่งอาหารเดลิเวอลีผ่านเว็บไซต์ของตัวเองคือ www.alakrbb.com โดย KRBB ได้นำเสนอเมนูอาหารจานเดียวที่หลากหลาย โดยการใช้เนื้อของ KRBB เองไม่ว่าจะเป็น Himawari Gyu หรือ Hokkaido F1 เพื่อความสะดวกรวดเร็วของผู้บริโภค

นายพลพงศ์ จิระพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ Heartworks และ DeliveryLab กล่าวว่า การเปิดตัวบริการ DeliveryLab ที่ขับเคลื่อนโดย Lalamove มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเจ้าของธุรกิจที่เข้าสู่ตลาดการจัดส่งดิจิทัล นวัตกรรมนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของไลฟ์สไตล์ลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งเราถือเป็นผู้บุกเบิกรายแรกที่ให้บริการแก่ผู้บริโภค

นางสาวปาณิศา สุขศิริ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจภูมิภาค Lalamove กล่าวว่า จากรายงานของ EuroMonitor ตลาดประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเติบโตของการส่งมอบสินค้า 1.2–1.4 ครั้งต่อวัน กุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีคือระบบการจัดส่งของพวกเขา ด้วยความร่วมมือของเรากับ DeliveryLab ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าภายใน 55 นาที โดยเป้าหมายหลักของเราคือการให้บริการธุรกิจ 100 แห่งในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2562 และขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ DeliveryLab เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจหน้าใหม่ ธุรกิจเอสเอ็มอี และองค์กรต่าง ๆ ปรับการบริการให้เหมาะสมมากกว่าที่เคย ด้วยการจัดการที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านการใช้โปรแกรม DeliveryLab โดยสามารถปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานได้เองและง่ายต่อการใช้งาน เมื่อมีคำสั่งซื้อบริษัทจะได้รับการยืนยันรายการพร้อมคำสั่งที่แน่นอน หลังจากนั้นเจ้าของธุรกิจสามารถยืนยันกับลูกค้าและใช้ข้อความโต้ตอบแบบเรียลไทม์ผ่าน Facebook Messenger โดยแพลตฟอร์มนี้ยังมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งยังเชื่อมต่อโดยตรงกับ API ของ Lalamove (ช่องทางหนึ่งที่จะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ผู้ให้บริการจากที่อื่น) กล่าวคือ เมื่อมีการสั่งซื้อ ระบบของ Lalamove จะค้นหาพนักงานขับรถที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับสินค้า ผู้สั่งซื้อสามารถตรวจสอบสถานการณ์การสั่งซื้อ รวมถึงตำแหน่งของพนักงานขับรถบนแดชบอร์ดที่จัดทำขึ้นโดยระบบของ DeliveryLab การรวมตัวครั้งนี้จึงช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยาก ซึ่งทำให้การสั่งซื้อและการจัดส่งรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับการรวมตัวของ “Lalamove” กับ “DeliveryLab” ในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาเว็บไซต์แบบ All in One ครบจบในที่เดียวสำหรับลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจของ Lalamove เพื่อเติมเต็มนโยบายการบริการต่าง ๆ ที่มีอยู่ อาทิ นโยบายการจัดส่งให้ถึงมือผู้สั่งซื้อภายใน 55 นาที ด้วยจำนวนพนักงานขับรถมากกว่า 1.6 แสนคนในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ด้วยการให้บริการทั้งรถจักรยานยนต์และยานพาหนะขนาดใหญ่ เช่น รถ 5 ประตู และรถกระบะตู้ทึบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้กลุ่ม B2B โดยพนักงานขับรถของ Lalamove ทุกคนจะได้รับการจัดอันดับตามประสิทธิภาพและงานการส่งมอบซึ่งการสั่งงานจะถูกจัดสรรให้กับพนักงานขับรถที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน

Qubii ตัวช่วยสำรองข้อมูลอัจฉริยะสำหรับระบบปฏิบัติการ IOS

Maktar ผู้ให้บริการระดับโลกด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ IOS เปิดตัวนวัตกรรมอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Qubii’ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งผ่านการรับรองจาก Apple ในการทำหน้าที่สำรองข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน iPhone หรือ iPad ในขณะเสียบชาร์จอย่างอัตโนมัติ โดยในโอกาสการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ลูกค้าสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะนี้ได้เพียงในราคา 1,275 บาทเท่านั้น!

Qubii เป็นอุปกรณ์เสริมขนาดเล็กที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่จะช่วยตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ iOS ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ใช้งาน iPhone และ iPad เพียงเสียบอุปกรณ์ Qubii เข้ากับสายชาร์จ หรือสายเคเบิลของ Apple อุปกรณ์จะสำรองข้อมูลรายชื่อบนโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ รวมถึงรูปภาพ วิดีโอ และเพลงจากทั้งในคลังเก็บข้อมูล และจากบัญชี Facebook, Instagram และ Twitter เพื่อบันทึกไปยังการ์ดหน่วยความจำ microSD ที่อยู่ภายใน Qubii อย่างไร้กังวล นอกจากนี้ ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันเสริม Qubii ที่สามารถใช้ดู แบ่งปันและกู้คืนข้อมูลของคุณ ระหว่างอุปกรณ์ Apple ได้อย่างง่ายดาย กล่าวได้ว่า ด้วยอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะใหม่ล่าสุดนี้จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณหมดกังวลในเรื่องการเก็บข้อมูล การสำรองข้อมูล และการถ่ายโอนข้อมูลได้เป็นอย่างดีและง่ายดายกว่าทุกวิธีที่เคยมีมาก่อนอย่างน่าเหลือเชื่อ!

‘เหลียง ชิน เฉิน’ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Maktar กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก และด้วยความที่ปัจจุบันการถ่ายรูปและแบ่งปันรูปภาพกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของผู้คน เราจึงสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบอย่าง Qubii ขึ้นมา เพื่อช่วยเก็บสำรองภาพถ่ายของช่วงเวลาอันน่าจดจำต่าง ๆ ของผู้คน โดยที่พวกเขาไม่ต้องกังวลว่ารูปภาพเหล่านั้นจะหายไปไหน”

สำหรับการเก็บสำรองภาพถ่าย และปกป้องประสบการณ์อันน่าจดจำ แบบไม่ต้องกังวลในเรื่องพื้นที่จัดเก็บ ผู้ใช้งานสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงสามขั้นตอนดังนี้:

1.ใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD เข้าไปใน Qubii

2.เสียบ Qubii เข้ากับอะแดปเตอร์และชาร์จเจอร์ของ iPhone หรือ iPad

3.เสียบสายเคเบิลเข้าไปในพอร์ต USB ของ Qubii จากนั้นตัวแอปพลิเคชันบน iPhone หรือ iPad จะเปิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

สามารถสั่งซื้อ Qubii บน Facebook ได้แล้วที่ https://www.facebook.com/MaktarThailand หรือบน Shopee ได้ที่ https://shopee.co.th/maktarth

ข้อมูลทางเทคนิค

  • ประกัน : 1 ปี
  • ขนาด : 5 x 2.5 x 2.5
  • สี : ขาว
  • ระบบปฏิบัติการที่รองรับ : iOS 10.x ขึ้นไป, MacOS X / Windows 8/7/XP
  • อุปกรณ์ที่รองรับ : iPhone Xs, iPhone Xs Max, iPhone XR, iPhone X, iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone SE, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 5, iPad Pro (12.9 นิ้ว), iPad Pro (9.7 นิ้ว), iPad mini 4, iPad Air 2, iPad mini 3, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini, iPad (รุ่น 4th)
  • รองรับ MicroSD การ์ด : รองรับหน่วยความจำมากที่สุดถึง 516GB
  • อุปกรณ์เสริม : สายชาร์จ USB ไลท์นิ่ง, การ์ดความจำ Micro SD และอุปกรณ์ชาร์จของแอปเปิ้ล แยกจำหน่าย

ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://th.maktar.com/th

TikTok ระเบิดพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์คนไทยผ่านวิดีโอสั้น

alivesonline.com : TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก จัดงานเปิดบ้านครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสที่เปิดกว้างในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์อันหลากหลายของกลุ่มคนดิจิทัลชาวไทยเพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม พร้อมเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ แนวโน้มและทิศทางของวิดีโอสั้นซึ่งถือเป็นเทรนด์สำหรับคอนเทนต์ในอนาคต พร้อมทั้งเส้นทางสู่ความสำเร็จในประเทศไทยของ TikTok

ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาบนโทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้น งานวิจัยของ MPIRE พบว่า คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือโดยเฉลี่ยวันละ 4.2 ชั่วโมง สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งอยู่ที่ 3.6 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้เกือบร้อยละ 50 ของประชากรในโลกออนไลน์ของไทยเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ใช้เวลาอย่างน้อย วันละ 1 ชั่วโมงในการรับชมวิดีโอออนไลน์ (ข้อมูลจาก MeltWater)

ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok ได้ส่งเสริมให้ผู้ใช้ชาวไทยได้ถ่ายทอดความสามารถไปสู่สายตาชาวโลก ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์สำหรับกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก นอกจากการผลักดันให้เกิดการใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว TikTok ยังมุ่งมั่นในการสร้างชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมเชิงบวก ปลอดภัย และเป็นที่ต้อนรับสำหรับทุกคน ควบคู่ไปกับการพัฒนานโยบาย เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกคน

 

ในงานนี้ TikTok ยังได้จัดเวิร์คช็อปภายใต้ชื่อ “Let’s Get Started” เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ TikTok แบบเอ็กซ์คลูซีฟในการลงมือเล่นและปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ด้วยการสร้างวิดีโอ TikTok ชิ้นแรกของตัวเอง ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดพร้อมการแนะนำเคล็ดลับและลูกเล่นต่าง ๆ จากครีเอเตอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าในประเทศไทย อย่าง Tippiez สาวเท้าไฟมืออาชีพที่ใช้ TikTok ในการนำเสนอวิดีโอเต้นของตัวเองและแบ่งปันให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก Philip Cruz กราฟฟิกดีไซเนอร์ที่เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์เป็นรูปแบบวิดีโอที่ไม่เหมือนใครเพื่อเชื่อมต่อกับแฟน ๆ ทั่วโลก Artee หนุ่มน้อยที่ชอบใช้เวลาว่างไปกับการสร้างสรรค์และแบ่งปันวิดีโอทรานสิชั่นที่น่าดึงดูดใจของเขาให้กับผู้คนทั่วโลก และ KengMumi หนึ่งในครีเอเตอร์รุ่นบุกเบิกของ TikTok ที่สร้างฐานแฟนคลับอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงแค่ปีกว่า ๆ

‘สุรยศ เอี่ยมละออ’ หัวหน้าฝ่ายแบรนด์มาร์เก็ตติ้ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า

“TikTok มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้คนไทยได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ผ่านวิดีโอสั้น และสนับสนุนการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีความหลากหลาย รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจในการใช้งานที่ปลอดภัยในสภาพแวดล้อมเชิงบวก โดยเราเชื่อมั่นว่า TikTok มอบโอกาสอันไม่มีที่สิ้นสุดให้กับแบรนด์และครีเอเตอร์ได้สามารถพัฒนาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายแตกต่างกัน นอกจากนี้ TikTok ยังพร้อมเดินหน้าในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ และยกระดับความหลากหลายให้กับคอนเทนต์วิดีโอสั้นในประเทศไทย”

ปัจจุบัน TikTok ให้บริการในกว่า 150 ประเทศ รองรับมากถึง 75 ภาษา พร้อมทั้งมีกลยุทธ์สำหรับแต่ละประเทศในการสนับสนุนให้ผู้ใช้ได้สร้างสรรค์และนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นเทรนด์และเรื่องราวที่เป็นกระแสในประเทศนั้น ๆ โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TikTok ได้ที่ iOS และ Google Play

GET FOOD รวมโปรโมชันจาก ”ร้านตัวแม่ อร่อยเด็ดเหมือนแม่ทำ”

บริการ “GET FOOD” (เก็ทฟู้ด) จากแอปพลิเคชัน GET (เก็ท) ให้บริการเรียกรถรับส่งพัสดุ ส่งอาหาร และบริการออนดีมานด์อื่น ๆ รวบรวมโปรโมชันจาก “ร้านตัวแม่ อร่อยเด็ดเหมือนแม่ทำ” มาให้สายกินได้ฟิน คลายความคิดถึงอาหารรสมือแม่ต้อนรับเดือนสิงหาคม 2562 โดยบรรดาร้านอร่อยตัวแม่ที่ “GET FOOD” รวบรวมมาเอาใจสายกินมีตั้งแต่ ก๋วยเตี๋ยวเรือแม่จันทร์, ยำแซ่บแม่อุบล, ร้านผัดไทยแม่มาลัยสาธุ และหมูทอดแม่สุนีย์ที่พร้อมปรุงจานเด็ดสุดฝีมือ การันตีว่าอร่อย ถูกใจเหมือนกินอาหารที่แม่ทำ

ก๋วยเตี๋ยวเรือแม่จันทร์ (Mae Jan Noodle) ร้านในดวงใจของคนรักก๋วยเตี๋ยวเรือย่านบรรทัดทอง เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวเรือรสเข้มข้นกลมกล่อม รู้ใจคนทานเหมือนแม่ทำให้กินที่บ้าน มาพร้อมโปรโมชั่นก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกธรรมดา ซื้อ 3 แถม 1 ระหว่าง 6 – 12 ส.ค.62

ยำแซ่บ แม่อุบล สุขุมวิท 89/1 เจ้าแม่ยำย่านอ่อนนุชที่แซ่บสมชื่อ เพราะใส่เครื่องยำเต็มที่เหมือนแม่ทำที่บ้าน มาพร้อมโปรโมชั่นห้ามพลาดกับยำปูม้า 2 ตัวราคาเพียง 60 บาท (จากราคา 120 บาท) ตั้งแต่ 10 – 12 ส.ค.62

ร้านผัดไทยแม่มาลัยสาธุ ผัดไทยเส้นเหนียวนุ่มกำลังพอดี จัดโปรโมชันเอาใจคนชอบกินเส้นกับผัดไทยกุ้งสดเส้นจันทร์ หรือวุ้นเส้นจานละ 40 บาท (จาก 50 บาท) และผัดไทยเส้นจันทร์ หรือวุ้นเส้น จานละ 35 บาท (จาก 40 บาท) ตั้งแต่ 1 – 18 ส.ค.62

หมูทอดแม่สุนีย์ ตัวแม่ของเมนูทอดที่ทุกเมนูกรุบกรอบกำลังพอดี มาพร้อมโปรโมชันปีกไก่ทอดขีดละ 32 บาท (จาก 40 บาท) สาขาวัดประชาระบือธรรม วันที่ 7 และ 11 ส.ค.62 ส่วนสาขาวัดน้อยนพคุณ ปีกไก่ทอดราคาขีดละ 32 บาท (จาก 40 บาท) วันที่ 8 ส.ค.62 เท่านั้น

จะสั่งเมนูตัวแม่มาฟินยกแก๊งที่ออฟฟิศ หรืออร่อยง่าย ๆ วันหยุดก็สะดวกคุ้ม เพราะ “GET FOOD” คิดค่าส่งเริ่มต้นแค่ 10 บาท เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GET ทาง App Store หรือ Play Store และลงทะเบียนเพื่อใช้งาน

“พิซซ่า ฮัท” จัดโปรสุดคุ้ม “ซื้อ 1 แถม 1”

“พิซซ่า ฮัท” มอบโปรโมชั่นพิเศษ “ซื้อ 1 แถม 1” ให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยอย่างจุใจ เมื่อเลือกซื้อพิซซ่าถาดกลางขึ้นไปในหมวดดีลักซ์, สุพรีม และซีฟู้ด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 319  บาท รับฟรีทันที 1 ถาด อย่ารอช้า…รีบมาอร่อยฟินแบบเครื่องเน้น ๆ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ในช่องทางรับประทานที่ร้าน, ซื้อกลับบ้านและบริการส่งถึงบ้าน โทร.1150 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Pizzahutthailand

 

“ออริจิ้น – เอสคอน เจแปน” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ “ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์”

‘พีระพงศ์ จรูญเอก’ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ ‘ทาคาโตชิ อิโต้’ (ซ้าย) ประธานบริษัท เอสคอน เจแปน จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น โครงการ “ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์” คอนโดมิเนียม สูง 35 ชั้น จำนวน 474 ยูนิต ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง MRT สถานีทิพวัล เชื่อมต่อกับสถานี Interchange BTS สำโรง (สายสีเขียวสุขุมวิท) เพียง 1 สถานี มูลค่าโครงการรวม 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ณ ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค เมื่อเร็ว ๆ นี้

“Salon de Belle” ธุรกิจซาลอนระดับพรีเมียม

‘สุรไกร ไพรสานฑ์กุล’ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ TSI Group เปิดคลับความงาม “Salon de Belle” ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับเวิลด์คลาส “L’oreal Professionnel Paris” เป็นธุรกิจซาลอนระดับพรีเมียม รองรับลูกค้าย่านสุขุมวิท ภายในโครงการ “ไทยซิน สแควร์” ใกล้สถานีบีทีเอสพระโขนง โดยมี ‘ศิรินันท์ เกียรติวานิชโสภณ’ (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย ‘เอิร์ท สายสว่าง’ (ที่ 3 จากขวา) ผู้บริหารโอเอซีส สปา, ‘แอน อังคณา ทิมดี’ (ที่ 2 จากขวา) ที่ปรึกษา ด้านผม Salon de belle ‘ลักษณ์นารา เฟิ่องทรัพย์’ (ขวาสุด) Sale Representative บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ‘ชาญวิทย์ สุขิตานนท์’ (ซ้ายสุด) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยซินอุตสาหกรรม จำกัด และ ‘พรประสิทธิ์ โพธิ์ศรี’ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทเอที คอสเมติค (ประเทศไทย) จำกัด ให้เกียรติร่วมงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้